...ต่อจากฉบับที่แล้ว
กระปุกเบี่ยงตัวหันไปที่ประตูห้อง หลังได้ยินเสียงตัวล็อกลูกบิดดังขึ้น...ต้นกล้าปิดประตูเข้ามา
ต้นกล้ากับกระปุกจ้องตากันอยู่สักพัก...ก่อนที่ต้นกล้าจะหันกลับไปปิดประตู แล้วเดินเข้ามาในห้อง
“กลับมาแล้วกระปุก” ต้นกล้าพยายามพูดด้วยน้ำเสียงเหมือนคนที่เหน็ดเหนื่อยมาจากการทำงาน เพื่อหวังว่ากระปุกจะพูดอะไรที่แสดงความเห็นใจออกมาบ้าง...เขานั่งลงบนเก้าอี้ หน้าโต๊ะที่กระปุกยืนอยู่
“งานเยอะเหรอวันนี้” กระปุกเองรู้ดีว่าต้นกล้าอยากให้เขาพูดแบบนี้ เพราะเขาเองก็ไม่อยากให้เพื่อนที่แสนดีต้องมากังวลใจกับเขา
“ก็นิดหน่อย...กระปุกจำลูกค้าที่ชื่อคุณบุญชัย ที่ต้นเคยเล่าให้ฟังได้ป่าว”
“จำได้ซิ…ที่สนใจเรื่องกองทุนรวมใช่ไหม?”
“นั้นแหละ...วันนี้เขากลับมาอีกรอบ แถมพาภรรยามาด้วย”
“เหรอ...ดูท่า สองสามีภรรยาคู่นี้ จะสนใจกองทุนรวมเข้าจริงๆ ซะแล้วซิ”
“ไอ้สนใจนะมันก็ดีอยู่หรอก...แต่กว่าจะอธิบายให้เข้าใจได้ก็เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน”
“เอาน่า...มันเป็นหน้าที่ของเราไม่ใช่เหรอ” บทสนทนานี้...ดูจะทำให้ต้นกล้าและกระปุกลืมเรื่องในใจกันไปได้สักพัก “ไปอาบน้ำได้แล้ว พ่อกับแม่รอทานข้าวอยู่นะ ให้ผู้ใหญ่รอนานไม่ดีรู้ไหม?”
“ครับบบบบบบผม” ต้นกล้าไม่ลืมหน้าที่...เขาลุกขึ้นล้วงกระเป๋า ก่อนจะดึงมือออกมาพร้อมกับเหรียญเต็มกำมือ...เขาหยอดลงกระปุกอย่างตั้งใจจนหมด
“ต้นไปอาบน้ำก่อนนะ”
“อืมม์”
*********************************
ต้นกล้าเดินลงบันไดมา เขาตรงไปที่ครัว คุณนายสุขใจกำลังตักข้าวใส่จาน...
“พ่อละครับแม่” ต้นกล้าถามพลางเดินไปหยิบน้ำในตู้เย็นมาช่วยแม่เทใส่แก้วทั้งสามใบ
“เดี๋ยวคงมาละลูก...อ้าว! นั่นไงมาพอดี”
“นั่งเลยครับพ่อ...กลิ่นน้ำพริกปลาทูมันยั่วยวนต้นจะแย่อยู่แล้ว” ต้นเดินไปเลื่อนเก้าอี้ให้แม่ ก่อนจะขยับไปนั่งเก้าอี้ประจำของตัวเอง
“หืมม์...เผ็ดได้ใจเลยครับแม่…ฮาาาาาาา” เขาเป่าปากออกมาอย่างกับตัวเองเป็นมังกรพ่นไฟได้ “อื้มม...พ่อครับ! พ่อได้ยินข่าวการปรับเพิ่มค่าลดหย่อยภาษีของกองทุน LTF กับ RMF จาก 3 แสนเป็น 5 แสนบาทหรือเปล่าครับ”
“ก็ได้ยินอยู่เหมือนกัน...ทำไมเหรอ”
“พ่อเองก็ชื้อกองทุน RMF ไว้ไม่ใช่เหรอครับ”
“อืมม์ ใช่...แต่พ่อไม่ได้สิทธิอะไรเพิ่มจากตรงนี้หรอกนะ เพราะพ่อใช้สิทธิได้แค่ 3 แสนบาทเท่านั้น ซึ่งก็เต็ม 15% ไปแล้วด้วย”
“จริงด้วยซิ เขาเพิ่มแค่จำนวนเงินนี่นา...แบบนี้คนรวยเท่านั้นซิครับ ที่จะได้สิทธิประโยชน์ในการเพิ่มค่าลดหย่อนภาษีตรงนี้ไป”
“ก็ทำนองนั้นแหละ แต่พ่อก็ว่าดีนะ ถึงแม้จะได้ประโยชน์กับคนเฉพาะกลุ่ม แต่ก็เป็นการสนับสนุนให้คนหันมาออมมากขึ้น” พ่อพูดพลางตักกับข้าวใส่จานแม่ “พูดเรื่องภาษีแล้ว ...เรานะยื่นภาษีหรือยัง”
ต้นกล้ายิ้ม “เรียบร้อยครับพ่อ...แล้วผมก็ใช้สิทธิลดหย่อนภาษีจากการอุปการะบุพการีไปแล้วด้วย”
“ไวจริงๆ นะเรา” คุณนายสุขใจพูดแทรกขึ้นมา
“แน่นอนอยู่แล้ว...ก็ผมลูกแม่นี่ครับ”
********************************
บรรยากาศแห่งความสุขบนโต๊ะอาหารของครอบคัวต้นกล้า รู้สึกขึ้นมาถึงกระปุกที่นั่งเหงาอยู่ริมหน้าต่าง บนห้องของต้นกล้า...เสียงนี้ มันยิ่งตอกย้ำความเหงาของกระปุกเข้าไปอีก แต่เขาก็ไม่สามารถจัดการกับมันได้ เขาได้แต่นั่งมองออกไปข้างหน้าหน้าต่างอย่างไม่มีจุดหมาย...จนเวลาผ่านไป ซึ่งนานพอที่จะทำให้ใจของเขา ล่องลอยไปถึงไหนต่อไหนแล้ว
ต้นกล้าเปิดประตูเข้ามาโดยที่กระปุกไม่รู้ตัว...สายตาเขามองไปที่กระปุก ที่กำลังนั่งห้อยขาอยู่บนขอบหน้าต่าง...เขาไม่อยากเดาเลยว่า กระปุกจะนั่งอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เขาลงไปทานข้าวแล้ว...ต้นกล้าค่อยๆ ปิดประตู เสียงลูกบิดดังขึ้น ซึ่งก็ดังพอที่จะทำให้กระปุกรู้สึกตัวได้...
“นั่งคิดอะไรอยู่เหรอกระปุก”
“เปล่าหรอก...เห็นบรรยากาศมันดี ก็เลยออกมานั่งดูอะไรเพลินไปเท่านั้นเอง” เขาขยับตัวออกมายืนอยู่ที่โต๊ะ “ไง...อิ่มมาเหมือนเคยละซิท่า” กระปุกพยายามข่มความรู้สึกตัวเองเอาไว้
“ก็ใช่นะซิ...กับข้าวฝีมือแม่อร่อยอย่างนี้มีใครบ้างจะอดใจไหว” ต้นกล้าเองก็ไม่อยากพูดอะไรมาก แม้เขาจะเห็นภาพมันบอกได้อย่างชัดเจนว่า ตอนนี้กระปุกรู้สึกอย่างไร
ความรู้สึกระหว่างต้นกล้าและกระปุกออมสินในตอนนี้...ต่างคนต่างไม่อยากพูดอะไรออกมา เพราะทั้งสอง เข้าใจความรู้สึกของกันและกันเป็นอย่างดี...กระปุกไม่พูดเพราะไม่อยากให้ต้นกล้าต้องมากังวลเรื่องของเขา ต้นกล้าเองก็ไม่อยากพูด เพราะมันจะเป็นการตอกย้ำความรู้สึกของกระปุกให้แย่ลงไปกว่านี้อีก...แต่เขาคิดได้ว่า ถ้าพาต้นกล้าออกไปเปิดหูเปิดตาข้างนอกบ้าง น่าจะช่วยกระปุกได้บ้าง
ต้นกล้านั่งลงบนเก้าอี้ หน้าโต๊ะตัวเดิมที่กระปุกยืนอยู่ “กระปุก!”
“ว่าไง”
“วันหยุดนี้...เราออกไปเที่ยงข้างนอกกันไหม?”
“วันหยุดทั้งที แทนที่จะอยู่กับบ้านพ่อแม่ ดันจะออกไปเที่ยวซะนี้
“ก็ต้นจะไปซื้อของขวัญแต่งงานให้พ่อกับแม่ไง...จำไม่ได้เหรอ?”
“อ๋อ...ว่าแต่คิดออกแล้วเหรอ ว่าจะซื้ออะไรให้ท่าน”
“คิดออกแล้ว”
“อะไรเหรอ...บอกได้ไหม?” กระปุกยิ้มออกมาได้แล้ว...
“ก็ซื้อเค้กไง...โอกาสดีๆ แบบนี้ต้องเป็นเค้กอยู่แล้ว”
“ไม่ตลกเลยนะ...ขอแบบจริงจังได้ไหม”
“รู้ทันเรื่อยเลยนะกระปุกเนี้ยะ” ต้นกล้าทำหน้าเซ็งที่กระปุกรู้ทัน
“ก็ได้ ก็ได้...ต้นจะไปซื้อเมล็ดพันธ์ผัก”
“หา! เมล็ดพันธ์ผักเนี้ยะนะ...เอามาทำอะไร”
“อ้าว! ก็เอามาปลูกซิ ถามได้”
“รู้แล้วว่าเอามาปลูก...แต่ - -” ต้นกล้ารู้ว่ากระปุกสงสัย ก็เลยพูดแทรกขึ้นมา
“ต้นจะไปซื้อเมล็ดพันธ์ผักเพื่อสุขภาพ มาปลูกให้พ่อกับแม่ทาน…กระปุกบอกเองไม่ใช่เหรอว่า กินผักแล้วเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ทำให้สุขภาพแข็งแรง แถมบำรุงสมองด้วย…ดังนั้น เมล็ดพันธ์ผักเพื่อสุขภาพนี่แหละเหมาะสมที่สุดแล้ว พ่อกับแม่ แล้วก็ต้นจะได้แข็งแรงด้วย”
“อืมม์...ฟังดูแล้วก็เข้าท่าดีนะ นานๆ จะเห็นเห็นต้นกล้าทำอะไรเข้าท่ากับเขาซะที”
“ได้ทีเชียวนะ กระปุก”
ต้นกล้าดีใจที่ได้ยินกระปุกพูดออกมาแบบนี้...เขาคิดในใจว่า อย่างน้อย คืนนี้ เขาก็ช่วยลดความรู้สึกเหงาให้กระปุกลงได้บ้าง...ไม่มากก็น้อย
อ่านต่อฉบับวันจันทร์หน้า...