แรกเก็ตอาชีพ กับ‘โอลิมปิก’ ที่ถูกเมิน

ขณะที่ปัญหาความรุนแรงในทิเบตและมลพิษในกรุงปักกิ่งส่อเค้าป่วนการจัดมหกรรมกีฬาระดับโลก อย่างโอลิมปิก 2008 ซึ่งจีนเป็นเจ้าภาพ การประกาศขอถอนตัวของเหล่านักกีฬาดังก็เริ่มสร้างความปวดเศียรเวียนเกล้าให้กับคณะผู้จัดโอลิมปิกเองไม่แพ้กัน โดยเฉพาะในวงการเทนนิส ซึ่งถึงเวลานี้มีนักหวดระดับท็อปถึง 2 ราย ที่ตัดสินใจโบกมือลาปักกิ่งเกมส์ เป็นที่แน่นอนแล้ว

โดยรายแรกคือ จัสติน เอแน็ง หวดสาวร่างเล็กและมือ 1โลกจากเบลเยี่ยม ซึ่งออกมาแสดงจุดยืนว่า จะไม่เข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ครั้งที่ 29 ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากหวั่นว่า ปัญหามลพิษในเมืองหลวงของจีน จะส่งผลกระทบต่อโรคหอบหืดที่เธอเป็นอยู่ โดยก่อนหน้านั้น เอแน็ง ก็เพิ่งทำการถอนตัวจากการแข่งขันเทนนิสรายการไชน่า โอเพ่น ไปด้วยเหตุผลเดียวกัน

“ฉันป่วยเป็นหอบหืดมาได้หลายเดือนแล้ว มันเริ่มรู้สึกแย่ตั้งแต่จบการแข่งขันที่นิวยอร์ก (ยูเอส โอเพ่น) ดังนั้นการเดินทางไปกรุงปักกิ่ง จึงเป็นเรื่องที่ฉันกังวลใจมาก” เอแน็ง เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก 2004 เผยกับผู้สื่อข่าวเมื่อปีที่แล้ว “ฉันรู้สึกผิดหวังมากทีเดียว เพราะต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการแข่งขันครั้งนี้ ซึ่งเป็นทัวร์นาเมนต์ที่ฉันคุ้นเคย”

ขณะที่ แอนดี้ ร็อดดิก จอมเสิร์ฟพลังช้างและมือ 6 โลกจากสหรัฐฯ กลายเป็นนักหวดคนดังรายที่สอง ที่ตัดสินใจเซย์กู๊ดบายจากโอลิมปิก เกมส์ 2008 พร้อมเหตุผลที่ว่า ต้องการมุ่งมั่นในการป้องกันแชมป์เลกก์ เมสัน คลาสสิก ที่วอชิงตัน และเตรียมความพร้อมในการสู้ศึกแกรนด์ สแลม ยูเอส โอเพ่น ที่นครนิวยอร์ก ซึ่งรายการแรกจัดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกันกับมหกรรมโอลิมปิก ที่กรุงปักกิ่ง พอดิบพอดี คือ 11-17 สิงหาคม

“ในทุกๆ ฤดูกาลเป้าหมายของผม คือ การคว้าแชมป์ยูเอส โอเพ่น และในฐานะแชมป์รายการ เล็กก์ เมสัน เทนนิส คลาสสิก 3 สมัย ผมคิดว่า การป้องกันแชมป์ที่วอชิงตัน ถือเป็นการเตรียมตัวที่ดี ก่อนลงสนามสู้ศึกยูเอส โอเพ่น” เอ-ร็อด ซึ่งเคยคว้าแชมป์ ยูเอส โอเพ่น เมื่อปี 2003 กล่าว

นอกจากจะขาด 2 แรกเก็ตชื่อดัง อย่าง เอแน็ง และ ร็อดดิก การแข่งขันเทนนิสในโอลิมปิก 2008 อาจดูจืดสนิทเข้าไปอีก หากไร้หวดแม่เหล็ก อย่าง โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ หลังมือ 1โลก 4 สมัย ออกมาเผยว่า กำลังอยู่ในช่วงตัดสินใจใจว่า จะเข้าร่วมมหกรรมกีฬาครั้งยิ่งใหญ่นี้ดีหรือไม่ เนื่องจากไม่รู้สึกประทับใจในการแข่งขันโอลิมปิกครั้งล่าสุดที่กรุงเอเธนส์

“มันไม่สนุกเท่าที่ซิดนีย์ แต่ยังไม่มีการตัดสินใจอะไรในตอนนี้ ทุกอย่างมันดูยากลำบากไปหมดที่เอเธนส์ ไม่ว่าจะเป็นการที่ต้องขึ้นรถบัส ไม่สามารถกำหนดตารางการแข่งขันที่แน่นอนได้ และผู้คนในหมู่บ้านนักกีฬาต่างจดจำผมได้” ยอดนักหวดเจ้าของ 12 แชมป์แกรนด์ สแลม เผย

แม้การขอถอนตัวและอาการลังเลใจว่าจะเข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกที่กรุงปักกิ่งจะมีปัจจัยมาจากหลายสาเหตุ ทว่าสิ่งที่ไม่อาจมองข้ามได้ ก็คือ แรงจูงใจที่ขาดหายไปในกลุ่มผู้เล่นอาชีพ ซึ่งมองว่าการแข่งขันเพื่อแย่งชิงความเป็นหนึ่งเดียวในมหกรรมกีฬาที่จัดขึ้น 4 ปีครั้ง ไม่ได้มีความสำคัญพอที่พวกเขาจะเสียสละเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในเกมการแข่งขัน

โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับการแข่งขันในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ๆ ที่พวกเขาสามารถโกยเงินรางวัลได้เป็นกอบเป็นกำ นอกจากนี้ ยังไม่นับถึงความสะดวกสบายที่พวกเขาได้รับ ก็ต่างจากการเข้าพักในหมู่บ้านนักกีฬาลิบลับ ไม่ว่าจะเป็นห้องพักสุดหรูในโรงแรม 5 ดาว หรืออาหารชั้นเลิศที่ถูกจัดเตรียมไว้เป็นอย่างดี

อย่างไรก็ดี ท่ามกลางโอลิมปิกที่ถูกหมางเมิน ยังมีนักเทนนิสระดับท็อปอีกหลายคน ที่ยินดีจะมองข้ามปัญหาการเมือง สิ่งแวดล้อม หรือแม้แต่ชีวิตโลโซในหมู่บ้านนักกีฬา เพื่อทำหน้าที่เป็นตัวแทนประเทศในการลงแข่งขัน ณ เมืองหลวงของจีน อาทิ “โนวัค ยอโควิช” “มาเรีย ชาราโปว่า” “เจมส์ เบล็ค” “วีนัส-เซเรน่า วิลเลี่ยมส์” และ “บ็อบ-ไมค์ ไบรอัน” ซึ่งพวกเขาตระหนักว่า มหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติ เป็นประสบการณ์อันยิ่งใหญ่ ที่หาไม่ได้ง่ายๆ แม้แต่จากทัวร์นาเมนต์สำคัญ อย่าง แกรนด์ สแลม และนี่ก็น่าจะเป็นสิ่งที่พอจะทำให้ใจชื้นได้ว่า อย่างน้อยโอลิมปิกเกมส์ ก็ยังไม่สิ้นมนต์ขลังไปเสียทีเดียว