เหล่าบรรดานักกีฬา ผู้ควบคุมการแข่งขัน รวมถึงเจ้าหน้าที่ทีม พร้อมใจกันยิ้มออก เมื่อบอร์ดบริหาร กกท. พร้อมใจกันปรับอัตราเบี้ยเลี้ยงให้ถ้วนหน้า โดยเริ่มจากการแข่งขัน "ดอกบัวเกมส์"
เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2551 ณ ห้องประชุมชั้น 2 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย (บอร์ด กกท.)
โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง พลเอก อภิชัย เพ็ญกิตติ ผู้แทนกระทรวงกลาโหม เป็นประธานกรรมการบริหารความเสี่ยงและควบคุมภายในของการกีฬาแห่งประเทศไทย หรือ กกท. แทน พลเอก เลิศรัตน์ รัตนวานิช ที่ขอลาออกจากการเป็นคณะกรรมการ กกท.
ขณะเดียวกันที่ประชุมยังมีมติเห็นชอบอนุมัติปรับเพิ่มอัตราค่าเบี้ยเลี้ยงนักกีฬา ผู้ควบคุมทีม และเจ้าหน้าที่ทีม ในการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ, กีฬาแห่งชาติ และกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทย จากเดิมได้กำหนดอัตราค่าเบี้ยเลี้ยงของนักกีฬา ไว้ที่ 150 บาท/คน/วัน และ ผู้ควบคุมทีมและเจ้าหน้าที่ทีม จำนวน 200 บาท /คน/วัน ซึ่งอัตราดังกล่าวเริ่มใช้มาตั้งแต่ พ.ศ. 2528 จนถึงปัจจุบัน แต่เนื่องจากค่าครองชีพในปัจจุบันได้ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี ที่ประชุมจึงมีมติเห็นชอบอนุมัติปรับเพิ่มเบี้ยเลี้ยงนักกีฬา ผู้ควบคุมทีม และเจ้าหน้าที่ทีม เป็น นักกีฬา ได้รับเบี้ยเลี้ยง 250 บาท/คน/วัน และ ผู้ควบคุมทีมและเจ้าหน้าที่ทีม ได้รับเบี้ยเลี้ยง 300 บาท/คน/วัน โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่การแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 24 “ดอกบัวเกมส์” ณ จังหวัดอุบลราชธานี เป็นต้นไป ทำให้ค่าใช้จ่ายการเดินทางนักกีฬาและผู้ควบคุมทีม ทั้ง 5 ภาค ในการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 24 “ดอกบัวเกมส์” มีจำนวนเงินค่าใช้จ่ายรวมทั้งสิ้น 39,920,335 บาท จากเดิม 29,366,298 บาท
นอกจากนี้ที่ประชุมยังมีมติเห็นชอบอนุมัติปรับอัตราค่าเบี้ยเลี้ยงเจ้าหน้าที่และนักกีฬาคนพิการระดับนานาชาติ ในโครงการเตรียมและส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาคนพิการระดับนานาชาติ และช่วงเก็บตัวฝึกซ้อมของเจ้าหน้าที่และนักกีฬาคนพิการ ซึ่ง กกท. ได้อนุมัติจ่ายค่าเบี้ยเลี้ยงรวมค่าอาหาร คนละ 400 บาท ต่อวัน และค่าที่พัก คนละ 200 บาท ต่อวัน แต่เนื่องจากค่าครองชีพในปัจจุบันได้ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี แต่อัตราค่าเบี้ยเลี้ยงและค่าอาหารของเจ้าหน้าที่และนักกีฬาคนพิการในการเก็บตัวฝึกซ้อมมิได้เพิ่มขึ้นตามอัตราค่าครองชีพ และเพื่อเป็นขวัญ กำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่และนักกีฬาคนพิการ ที่ประชุมจึงมีมติเห็นชอบปรับอัตราค่าเบี้ยเลี้ยงรวมค่าอาหาร คนละ 400 บาท ต่อวัน เป็น ค่าเบี้ยเลี้ยง 200 บาท ต่อวัน และค่าอาหาร 300 บาท ต่อวัน ส่วนค่าที่พักยังคงเดิมที่ 200 บาท ต่อวัน โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่การแข่งขันกีฬาพาราลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 13 (พ.ศ.2551) ณ ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นต้นไป
อีกทั้งที่ประชุมยังมีมติมอบหมายให้ กกท. ทำการปรับแผนการเตรียมนักกีฬาเพื่อการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 29 ณ ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ร่วมกับคณะกรรมการเตรียมทีมนักกีฬาฯ เพื่อให้ได้งบประมาณที่เหมาะสมกับการเตรียมทีมนักกีฬาที่สุด เนื่องจากงบประมาณที่ขอรับการสนับสนุนในการเตรียมทีมเกินงบประมาณที่ กกท. มีอยู่ โดยให้พิจารณางบประมาณการเตรียมทีมนักกีฬาที่จะเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาพาราลิมปิกเกมส์ ไปในคราวเดียวกันด้วย
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีมติเห็นชอบอนุมัติทุนดำเนินการเพื่อตั้งเป็นเงินสำรอง กกท. ในการดำเนินการจัดซื้ออุปกรณ์การออกกำลังกายเพิ่มเติม ประจำศูนย์ฟิตเนส กกท. ในวงเงิน 6,397,400 บาท และเห็นชอบแผนการปรับปรุงการให้บริการของ กกท. ประจำปี 2551 ใน 3 ด้าน ได้แก่ แผนปรับปรุงการให้บริการด้านสถานที่ และอุปกรณ์พร้อมจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวก, แผนปรับปรุงการให้บริการด้านบริการตรวจรักษา และแผนปรับปรุงการให้บริการด้านสารสนเทศ
