หยาง เจียจื้อ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีนออกมาแสดงความมั่นใจต่อบรรดานักกีฬาที่เตรียมเข้าร่วม “โอลิมปิก เกมส์ 2008” ว่าจะปลอดจากปัญหามลภาวะทางอากาศอย่างแน่นอน พร้อมทั้งยืนยันว่ามหกรรมกีฬาหนนี้จะเป็นเวทีแห่งการทำลายสถิติในหลายชนิดกีฬา
หลังจากที่ เฮย์เล เกเบรซิลาสซี่ ยอดนักวิ่งปอดเหล็กชาวเอธิโอเปียประกาศว่าอาจขอถอนตัวออกจากการแข่งขันวิ่งมาราธอน ระยะทาง 42 กิโลเมตร และจะลงวิ่งเพียงแค่เฉพาะระยะทาง 10,000 เมตร เนื่องจากเกรงว่าสภาพอากาศในกรุงปักกิ่งจะส่งผลต่อสุขภาพของเขา ซึ่งป่วยเป็นโรคหืด จนขอถอนตัวจากศึก London Marathon ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม หยาง เจียจื้อ ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเอเอฟพีประจำแดนมังกรว่า “ผมเชื่อว่าคุณภาพของอากาศในกรุงปักกิ่งจะต้องดีขึ้นและดีขึ้น นักกีฬาที่เดินทางมาที่นี่จะต้องพอใจและมั่นใจในคุณภาพของอากาศ สิ่งแวดล้อม และสนามแข่งขันอย่างแน่นอน”
“สิ่งหนึ่งที่คุณไม่อาจโต้แย้งได้คือการที่นักกีฬามากหน้าหลายตามีความตั้งใจที่จะทำลายสถิติต่างๆ ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่จีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปักกิ่ง บางทีพวกเขาอาจจะมีโอกาสดีเมื่อมาที่นี่ก็เป็นได้” หยาง กล่าวอย่างมั่นใจ
ที่ผ่านมา ฌักส์ ร็อกก์ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) เคยออกมาแสดงความตระหนักถึงปัญหามลภาวะทางอากาศในกรุงปักกิ่ง และได้เตือนว่าควรเลื่อนการแข่งขันกีฬาที่ต้องใช้ความอดทนของร่างกายสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กรีฑา ประเภทวิ่งมาราธอน ในกรณีที่มลพิษในอากาศจะก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพของผู้เข้าร่วมการแข่งขัน
ทั้งนี้ รัฐบาลจีนเคยแถลงว่าในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ได้ทุ่มงบประมาณในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมและมลพิษทางอากาศไปถึง 16,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 512,000 ล้านบาท) ด้วยการพัฒนาระบบกำจัดของเสียจากโรงงานที่อยู่นอกตัวนอกตัวเมือง รวมทั้งการปรับปรุงมาตรฐานของระบบปล่อยไอเสียของรถยนต์และอื่นๆ อีกมากมาย
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีการทุ่มงบประมาณในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวไปเป็นจำนวนมหาศาล ทว่าทุกวันนี้ ประชาชนชาวจีนยังคงออกรถคันใหม่ลงมาวิ่งขวักไขว่ตามท้องถนนจำนวนหลายพันคันต่อสัปดาห์ ขณะที่ธุรกิจในภาคอุตสาหกรรมก็ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งปัญหาดังกล่าวทำให้สภาเมืองปักกิ่งวางแผนที่จะออกมาตรการลดการใช้รถใช้ถนนในระหว่างการแข่งขัน ซึ่งปัจจุบันชาวปักกิ่งมียานพาหนะส่วนตัวรวมกันมากกว่า 3 ล้านคัน
หลังจากที่ เฮย์เล เกเบรซิลาสซี่ ยอดนักวิ่งปอดเหล็กชาวเอธิโอเปียประกาศว่าอาจขอถอนตัวออกจากการแข่งขันวิ่งมาราธอน ระยะทาง 42 กิโลเมตร และจะลงวิ่งเพียงแค่เฉพาะระยะทาง 10,000 เมตร เนื่องจากเกรงว่าสภาพอากาศในกรุงปักกิ่งจะส่งผลต่อสุขภาพของเขา ซึ่งป่วยเป็นโรคหืด จนขอถอนตัวจากศึก London Marathon ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม หยาง เจียจื้อ ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเอเอฟพีประจำแดนมังกรว่า “ผมเชื่อว่าคุณภาพของอากาศในกรุงปักกิ่งจะต้องดีขึ้นและดีขึ้น นักกีฬาที่เดินทางมาที่นี่จะต้องพอใจและมั่นใจในคุณภาพของอากาศ สิ่งแวดล้อม และสนามแข่งขันอย่างแน่นอน”
“สิ่งหนึ่งที่คุณไม่อาจโต้แย้งได้คือการที่นักกีฬามากหน้าหลายตามีความตั้งใจที่จะทำลายสถิติต่างๆ ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่จีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปักกิ่ง บางทีพวกเขาอาจจะมีโอกาสดีเมื่อมาที่นี่ก็เป็นได้” หยาง กล่าวอย่างมั่นใจ
ที่ผ่านมา ฌักส์ ร็อกก์ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) เคยออกมาแสดงความตระหนักถึงปัญหามลภาวะทางอากาศในกรุงปักกิ่ง และได้เตือนว่าควรเลื่อนการแข่งขันกีฬาที่ต้องใช้ความอดทนของร่างกายสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กรีฑา ประเภทวิ่งมาราธอน ในกรณีที่มลพิษในอากาศจะก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพของผู้เข้าร่วมการแข่งขัน
ทั้งนี้ รัฐบาลจีนเคยแถลงว่าในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ได้ทุ่มงบประมาณในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมและมลพิษทางอากาศไปถึง 16,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 512,000 ล้านบาท) ด้วยการพัฒนาระบบกำจัดของเสียจากโรงงานที่อยู่นอกตัวนอกตัวเมือง รวมทั้งการปรับปรุงมาตรฐานของระบบปล่อยไอเสียของรถยนต์และอื่นๆ อีกมากมาย
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีการทุ่มงบประมาณในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวไปเป็นจำนวนมหาศาล ทว่าทุกวันนี้ ประชาชนชาวจีนยังคงออกรถคันใหม่ลงมาวิ่งขวักไขว่ตามท้องถนนจำนวนหลายพันคันต่อสัปดาห์ ขณะที่ธุรกิจในภาคอุตสาหกรรมก็ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งปัญหาดังกล่าวทำให้สภาเมืองปักกิ่งวางแผนที่จะออกมาตรการลดการใช้รถใช้ถนนในระหว่างการแข่งขัน ซึ่งปัจจุบันชาวปักกิ่งมียานพาหนะส่วนตัวรวมกันมากกว่า 3 ล้านคัน