xs
xsm
sm
md
lg

เกษตรชี้เผาตอซังข้าวเพิ่มโลกร้อน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อุบลราชธานี- เกษตรจังหวัดอุบลราชธานี แนะเกษตรกรไม่ควรใช้วิธีเผาทำลายตอซังข้าวหรือเศษวัสดุเหลือใช้หลังการเพาะปลูก เพราะทำให้ชั้นบรรยากาศโลกร้อนขึ้น รวมทั้งเป็นอันตรายทำให้เกิดเป็นไฟป่าหรือลุกลามเผาบ้านเรือน แต่ควรนำตอซังมาทำปุ๋ยหมัก หรือใช้คลุมหน้าดินตามแปลงเพาะปลูกลดการระเหยของน้ำในชั้นหน้าดินได้อย่างดี

นายภาณุศักดิ์ คำยา เกษตรจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวถึงการเผาตอซังข้าวตามพื้นที่เพาะปลูกข้าว เพราะหลังฤดูกาลเพาะปลูกพืชผลผ่านพ้นไปแล้วทุกปี จะมีเศษวัสดุหลงเหลือในไร่นา หรือต้องการกำจัดศัตรูพืชที่เหลืออยู่ จึงใช้วิธีสุ่มไฟเผาไร่นาของตัวเอง การเผานอกจากทำให้เกิดมลภาวะทางอากาศและเพิ่มความร้อนให้กับชั้นบรรยากาศ ควันไฟยังเป็นอันตรายต่อประชาชนที่ใช้ยานพาหนะบนท้องถนน เพราะกลุ่มควันบดบังสายตาในการขับขี่ การสุ่มไฟเผาบางครั้งได้ลุกลามเผาไหม้ไม้ยืนต้น ทำให้เกิดเป็นไฟป่าหรืออาจลุกลามไปเผาอาคารบ้านเรือนตามที่มีข่าวเกิดขึ้นเสมอ

เกษตรกรจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวอีกว่า อันตรายที่อาจเกิดจากการเผาตอซังข้าวดังกล่าว จึงขอแนะนำเกษตรกรอย่าได้ใช้วิธีการเผาทำลาย ควรเก็บฟางข้าวมาทำเป็นวัสดุรองพื้นคอกให้กับสัตว์เลี้ยง ใช้เป็นวัสดุคลุมแปลงเพาะพืชผัก เพื่อให้ดินชุ่มน้ำลดการระเหยของน้ำในชั้นหน้าดิน นำเอามาทำเป็นปุ๋ยหมักเก็บไว้ใช้ประโยชน์ภายหลัง หรือใช้วิธีการไถกลบแทนการเผาทำลาย เพราะในตอซังข้าวยังมีเศษวัสดุเหลือใช้จากการเพาะปลูกครั้งที่แล้ว ทำให้ช่วยเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้แก่ดิน ลดค่าใช้จ่ายในการใช้ปุ๋ยเคมีในฤดูกาลเพาะปลูกคราวหน้าได้

การเผาทำลายตอซังในพื้นที่ดิน นอกจากทำให้เกิดอันตรายและสูญเสียวัสดุเหลือใช้ที่นำมาใช้ทำประโยชน์ได้หลายชนิดแล้ว การเผาทำลายยังมีผลกับอินทรีธาตุในดินถูกทำลายไปพร้อมกับสัตว์ตามธรรมชาติที่คอยให้ความอุดมสมบูรณ์และสร้างความสมดุลให้กับพื้นดินด้วย ดังนั้นการเตรียมแปลงไว้เพาะปลูก จึงไม่ควรใช้วิธีเผาทำลายตอซังข้าวหรือวัสดุเหลือใช้ตามท้องไร่ท้องนาเป็นอันขาด
กำลังโหลดความคิดเห็น