สุวัจน์ ลิปตพัลลภ จ่อได้นั่งเก้าอี้นายกลอนเทนนิสสมาคมแห่งประเทศไทยเป็นสมัยที่ 4 หลังสมาชิก ชมรม สโมสรทั่วประเทศต่างเทใจให้ ในขณะที่ตำแหน่งเลขาธิการมีแนวโน้มเปลี่ยนมือ เนื่องจากเจ้าของตำแหน่งคนเดิมไร้ผลงานที่ชัดเจน
ลอนเทนนิสสมาคมแห่งประเทศไทย ได้กำหนดให้มีการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2551 ขึ้นในวันที่ 9 มีนาคมนี้ โดยวาระสำคัญอยู่ที่การเลือกตั้งนายกลอนเทนนิสสมาคมฯ คนใหม่ แทนที่นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ที่หมดวาระการบริหารงานในสมัยที่ 3 อย่างไรก็ดี กระแสข่าววงในของบรรดาสมาชิก ชมรม สโมสร ต่างๆทั่วประเทศยังคงไว้วางใจให้นายสุวัจน์ ก้าวขึ้นมารับตำแหน่งนายกฯ ต่อเป็นสมัยที่ 4 เนื่องจากตลอด 6 ปีนายสุวัจน์ได้สร้างประโยชน์และพัฒนาวงการเทนนิสไทยให้ก้าวหน้าและมีผลงานเป็นรูปธรรมชัดเจน อีกทั้ง นายสุวัจน์ ยังเป็นถึงรองประธานสหพันธ์เทนนิสแห่งเอเชีย (เอทีเอฟ) ซึ่งมีบทบาทในการผลักดันนักเทนนิสเยาวชนไทยได้มีเวทีแข่งขันระดับนานาชาติ
นอกจากนี้บรรดาสมาชิก ชมรม สโมสรเทนนิสทั่วประเทศ ส่วนใหญ่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการบริหารสมาคมในบางตำแหน่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตำแหน่งสำคัญๆ อย่าง เลขาธิการลอนเทนนิสสมาคมฯ ซึ่งถือว่าเป็นหัวใจในการบริหารงานและพัฒนาวงการ เสียงส่วนใหญ่เห็นว่าควรที่จะได้คนที่มีความเหมาะสม ทั้งคุณวุฒิ วัยวุฒิ และที่สำคัญต้องมีวิสัยทัศน์ที่กว้าง และ มีพลังในการหาสปอนเซอร์ และ งบประมาณเข้ามาสนับสนุนกิจกรรมของสมาคม
ด้าน พล.ต.พิษณุ อรรถกรศิริโพธิ์ รองเลขาธิการลอนเทนนิสสมาคมฯ รวมทั้งผู้ควบคุมและเตรียมนักกีฬาทีมชาติไทย เปิดเผยว่า ในส่วนของตำแหน่งนายกสมาคมนั้นค่อนข้างแน่นอนแล้วว่า นายสุวัจน์ ยังคงได้รับความไว้วางใจดำรงตำแหน่งนี้อีกสมัย แต่ในส่วนของคณะกรรมการบริหารนั้นขณะนี้มีการแบ่งเสียงออกเป็น 2 ฝ่าย ฝ่ายหนึ่งพยายามวิ่งเต้นเพื่อล้มคณะกรรมการบริหารชุดเดิมเพื่อดันตัวเองเข้ามาแทน ขณะเดียวกันสมาชิก ชมรม สโมสร อีกส่วนหนึ่งซึ่งเป็นเสียงส่วนใหญ่ยังพอใจและอยากจะให้คณะกรรมการบริหารชุดเก่าสานต่อแผนงานและการบริหารงานเดิมต่อไป
ส่วนเรื่องการต้องการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งผู้บริหารสำคัญๆ นั้น พล.ต.พิษณุ กล่าวว่า ที่ผ่านมามีผู้บริหารและกรรมการหลายคนที่อยู่ในชุดที่กำลังหมดวาระไม่ได้เข้ามาทำหน้าที่บริหารงานอย่างจริงจังและไม่ก่อเกิดผลงานที่เด่นชัด ซึ่งขณะนี้วงการเทนนิสไทยต้องการคนที่เข้ามาทำงานจริงๆ และ ทำงานอย่างตรงไปตรงมา ไม่ได้มาแต่ชื่อเหมือนที่ผ่านมา
