พลโทกิตติทัศน์ บำเหน็จพันธุ์ ประธานทีวีพูล ประกาศทุ่มงบเกือบ 120 ล้านบาท ซิวลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2008 ยันจะอัดโฆษณาให้น้อยที่สุด เพื่อให้คนไทยชมกีฬาไม่เสียรส
เมื่อเวลา 14.00 น. ของวันอังคารที่ 19 กุมภาพันธ์ 2551 ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 10 ของสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 มีการแถลงความพร้อมของการถ่ายทอดสดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2008 ที่นครปักกิ่ง ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 6-24 สิงหาคม 2551 โดยโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย หรือ "ทรท."
โดย พลโทกิตติทัศน์ บำเหน็จพันธุ์ ประธานโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย กล่าวว่า "ทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจฯ ได้ทุ่มงบประมาณ 118 ล้านบาท เพื่อการถ่ายทอดสดการแข่งขันโอลิมปิกครั้งที่ 29 นี้ให้ประชาชนชาวไทยได้รับชมการแข่งขันกีฬาหลากหลายชนิด วันละ 1 สถานี ระหว่างเวลา 13.00 - 19.00 น. ระหว่างวันที่ 9-23 สิงหาคมนี้"
"ส่วนในวันแรกของการถ่ายทอดสดจะเริ่มในวันที่ 6 สิงหาคม เป็นการแข่งขันฟุตบอลรอบแรก จะทำการถ่ายทอดสดระหว่างเวลา 16.00-18.00 น. ทางช่อง 7 ขณะที่วันที่ 7 สิงหาคม จะเป็นการแข่งขันฟุตบอลในรอบแรกเช่นกัน ซึ่งจะถ่ายทอดในเวลาเดียวกันกับวันที่ 6 ทว่าจะให้เป็นหน้าที่ของช่อง 9 รับผิดชอบไป"
พลโทกิตติทัศน์ กล่าวต่อไปว่า "สำหรับพิธีเปิดการแข่งขันในวันที่ 8 สิงหาคม และพิธีปิด ในวันที่ 24 สิงหาคม จะทำการถ่ายทอดระหว่างเวลา 19.00-22.30 น. ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 โดยคณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ได้กราบบังคมทูลเชิญ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินในฐานะผู้แทนพระองค์ไปร่วมในพิธีเปิดการแข่งขันด้วย"
ทั้งนี้แฟนกีฬาสามารถชมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2008 ได้จาก 4 สถานีโทรทัศน์ ประกอบด้วย ช่อง 3, ช่อง 5 , ช่อง 7 และ ช่อง 9 ขณะเดียวกันหากสถานีโทรทัศน์ช่องอื่นๆ มีความสนใจเข้าร่วมถ่ายทอดสดด้วยนั้น พลโทกิตติทัศน์ กล่าวว่า ขอให้ติดต่อมาพูดคุยเรื่องรายละเอียดกับทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ เพราะไม่ได้หวงแต่อย่างใด
นอกจากนี้ "ประธานทีวีพูล" ยังได้กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า "หากรายการกีฬาใดที่นักกีฬาทีมชาติไทยเข้าร่วมแข่งขันพร้อมกัน ก็จะขยายช่องออกอากาศเป็น 2 หรือ 3 ช่อง การรับชมของประชาชนได้ได้ทันที เพราะเราต้องการให้ประชาชนได้รับชม และเชียร์นักกีฬาที่เข้าร่วมการแข่งขันอย่างต่อเนื่อง"
"ด้านปัญหาเรื่องการชมกีฬาแล้วมีโฆษณาคั่นการแข่งขันนั้นเรายังไม่ได้คุยกันในเรื่องรายละเอียดว่าจะนำเสนออย่างไร แต่ยืนยันว่าจะไม่มีการอัดโฆษณาเป็นจำนวนมากเพื่อให้คุ้มทุนแน่ ใจจริงทีวีพูลก็อยากได้กำไร แต่จุดประสงค์หลักในการถ่ายทอดสดกีฬาโอลิมปิกก็เพื่อให้ประชาชนได้ร่วมชม ร่วมเชียร์นักกีฬาทีมชาติไทยอย่างออกรสมากที่สุด ดังนั้นยืนยันได้เลยว่าเราจะทำให้โฆษณาออกมาไม่ขัดใจแฟนกีฬาแน่นอน"
ขณะเดียวกันพลโทกิตติทัศน์ ยังยืนยันด้วยว่า "ทีวีพูล" พร้อมที่จะสนับสนุนเงินอัดฉีดให้กับนักกีฬาทีมชาติไทยที่ได้รับเหรียญรางวัลอีกด้วย ทว่าต้องรอการพูดคุยกันภายในก่อนว่าจะช่วยเหลือเงินอัดฉีดนักกีฬาเป็นจำนวนเท่าใด