xs
xsm
sm
md
lg

‘บิ๊กโฟร์ บิ๊กเทรด’ ยัดห่วงเอ็นบีเอ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เส้นตายของศึกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) ผ่านพ้นไปเป็นที่เรียบร้อยเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ก่อนตลาดจะปิดตัวลงปรากฏว่ามีการเทรดครั้งสำคัญๆ เกิดขึ้นมากมาย ซึ่งต้องมาดูกันว่า พาว กาซอล, แชคคิว โอนีล, เจสัน คิดด์ รวมถึง เบน วอลเลซ จะสร้างความแตกต่างให้กับต้นสังกัดใหม่ได้มากน้อยแค่ไหน

‘พาว กาซอล’ เทรดมา แอลเอ เลเกอร์ส (เกรด A)

ปล่อยให้ โคบี ไบรอันท์ ซูเปอร์สตาร์ขู่ย้ายทีมอยู่พักใหญ่ คราวนี้ มิทช์ คัพแชค มีปฏิกิริยาตอบสนองที่ดีขึ้น เมื่อผู้จัดการทั่วไป แอลเอ เลเกอร์ส ยอมหาตัวช่วยให้ โคบี การยอมเสีย ความี บราวน์, จาวาริส คริสเทนเซ่น และอารอน แม็คคี รวมถึงสิทธิดราฟท์รอบแรกถึงสองหนให้ เมมฟิส กริซลีย์ส เพื่อแลกกับ พาว กาซอล นักวิเคราะห์วิจารณ์ของสหรัฐฯ หลายคนมองว่านี่เป็นการเทรดที่สุดแสนจะคุ้ม บางสำนักถึงขนาดยกรางวัล “ผู้บริหารยอดเยี่ยมแห่งปี” ให้แก่ คัพแชค เลยทีเดียว

หลังหมดยุค “เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด” (โคบี-แชคคิว โอนีล) เลเกอร์ส มีผลงานอยู่ในระดับทรงตัว ไม่แย่ถึงที่สุดแต่ก็ไม่ดีพอขนาดกลับไปลุ้นแชมป์ เนื่องจาก โคบี ไม่สามารถแบกทีมได้ตลอดทั้ง 82 เกมในฤดูกาลปกติ แม้จะมีตัวช่วยอย่าง ลามาร์ โอดอม แต่ผลงานของทีมยังไม่กระเตื้องขึ้นในเพลย์ออฟ อย่างไรก็ตาม การมาของ กาซอล ถือเป็นคำตอบสุดท้ายที่เข้ามาทำให้ทีมนี้มีแผงฟรอนท์คอร์ตแน่นปึก (กาซอล-โอดอม-แอนดรูว์ บายนัม) เมื่อผนวกกับแบ็กคอร์ตอย่าง โคบี และดีเรค ฟิชเชอร์ การ์ดจ่ายจอมเก๋า เชื่อเหลือเกินว่าตอนนี้แฟนๆ ของ เลเกอร์ส กำลังมองไปถึงวันคืนแห่งความสำเร็จ (อีกครั้ง)

‘แชคคิว โอนีล’ เทรดมา ฟีนิกซ์ ซันส์ (เกรด B)

ความเป็นผู้นำทั้งในและนอกสนามคงไม่มีใครปฏิเสธว่า แชคคิว โอนีล สามารถสูบฉีดสปิริตปลุกเร้าเพื่อนๆ กลับมาฮึดสู้จนมีส่วนช่วยให้ เลเกอร์ส และไมอามี ฮีท ต้นสังกัดเก่าผงาดคว้าแชมป์ ความเก๋าตรงนี้เป็นสิ่งที่ สตีฟ เคอร์ มองเห็นในส่วนที่ ฟีนิกซ์ ซันส์ ยังขาดหาย อีกทั้งความบ้อท่าที่ผ่านมาในเพลย์ออฟของซันส์ สืบเนื่องจากความไม่ดุดันใต้แป้นการรีบาวด์ที่เป็นรองคู่ต่อสู้ ทำให้ผู้จัดการทั่วไปคนหนุ่มต้องทำอะไรสักอย่างแม้ต้องเสี่ยงไปกับ “ซูเปอร์แชค” ที่อายุอานามจะครบ 36 ปีในต้นเดือนหน้า

หากย้อนเวลากลับไปสัก 4-5 ปีทีมใดที่สามารถเทรด แชค มาร่วมงานคงได้เกรด A+++ แต่ ณ วันนี้แม้สภาพจิตใจของ แชค ยังคงหนุ่มแน่นเต็มไปด้วยความทะเยอทะยาน ทว่ามันตรงกันข้ามกับสภาพร่างกายที่เสื่อมถอยลงทุกวัน ปัญหาบาดเจ็บรุมเร้าที่เข่าและสะโพกทำให้เซ็นเตอร์จอมเก๋ามีค่าเฉลี่ยต่างๆ ลดฮวบทั้ง เวลาในการลงสนาม, การทำแต้ม หรือว่าเรื่องของ รีบาวด์ และคำถามที่หลายคนพูดถึงคือ ไมค์ ดิ แอนโทนี ต้องปรับเปลี่ยนอะไรหลายอย่างให้เข้ากับ แชค อย่างน้อยก็เรื่องจังหวะความเร็วของเกมที่ต้องลดลง ต้องหันมาเซตแผนกันมากขึ้น แต่ในเมื่อมุขเก่าสมัยที่ ชอน แมเรียน ยังอยู่ไม่ประสบผลสำเร็จ ซันส์ ขอลองอะไรใหม่ๆ เผื่ออะไรจะดีขึ้น

‘เจสัน คิดด์’ เทรดมา ดัลลัส แมฟเวอร์ริกส์ (เกรด B+)

ทนอยู่กับ นิวเจอร์ซีย์ เน็ตส์ มาหกปีเศษ ในที่สุด เจสัน คิดด์ ก็ยอมรับความเป็นจริงที่ว่าเขาไม่สามารถพาทีมจากฝั่งตะวันออกคว้าแชมป์ได้จริงๆ แม้การข้ามฟากกลับสู่ฝั่งตะวันตกจะต้องเผชิญหน้ากับทีมระดับเสือ-สิงห์-กระทิง-แรด แต่ไม่กี่ปีมานี้ถือว่า ดัลลัส แมฟเวอร์ริกส์ มีโอกาสขยับใกล้แชมป์มากที่สุดอีกทีมหนึ่ง เพียงแต่ว่าพวกเขายังขาดองค์ประกอบอะไรบางอย่างที่จะทำให้ทีมดีพอสำหรับการก้าวไปยืนที่จุดนั้น ซึ่ง คิดด์ อาจเติมเต็มในส่วนนั้นได้

แม้จะมีอยู่บ้างที่เสียดายความสดและพรสวรรค์ของ เดวิน แฮร์ริส แต่เป็นที่ทราบกันว่า มาร์ค คิวบาน เจ้าของทีม “แมฟส์แมน” ใจร้อนแค่ไหนในการถามหาตำแหน่งแชมป์ แฮร์ริส ช่วยทีมทำได้แค่เกือบ การมาของ คิดด์ แน่นอนว่าการส่งบอลของผู้เล่นที่อยู่ในลีกมานาน 13 ปีย่อมเฉียบขาดกว่าเด็กที่เพิ่งมีประสบการณ์แค่สามปี เดิร์ก โนวิตซกี มีมือดีๆ มาช่วยจ่ายบอลให้ ฟอร์เวิร์ดทีมชาติเยอรมนีไม่ต้องแบกภูเขาไว้บนอกคนเดียวอีกต่อไป

‘เบน วอลเลซ’ เทรดมา คลีฟแลนด์ แคฟวาเลียร์ส (เกรด C+)

แดนนี เฟอร์รี ตกอยู่ในภาวะกดดันไม่แพ้ มิทช์ คัพแชค เมื่อผู้เล่นระดับซูเปอร์สตาร์อย่าง เลอบรอน เจมส์ ต้องการเห็น คลีฟแลนด์ แคฟวาเลียร์ส ขยับเปลี่ยนแปลงทีมให้แข็งแกร่งขึ้นสามารถช่วยพาทีมไปสู่ตำแหน่งแชมป์ หลังจากที่ฤดูกาลก่อนเสร็จเก๋า ซานอันโตนิโอ สเปอร์ส แบบเกมศูนย์ในรอบชิงชนะเลิศ การมาของ เบน วอลเลซ ดูยุ่งยากสักหน่อยเพราะต้องเทรดแบบสามทางระหว่าง แคฟส์, ชิคาโก บูลส์ และซีแอตเทิล ซูเปอร์โซนิกส์ แต่การเทรดผู้เล่นครั้งเดียวถึง 11 รายก็ลุล่วงก่อนเส้นตายปิดลงแค่หนึ่งนาที

การประลองกำลังช่วงครึ่งฤดูกาลแรกทำให้ “แคฟส์แมน” ระลึกได้ว่าพวกเขายังเป็นรอง บอสตัน เซลติกส์ หากต้องแลกหมัดหนึ่งสองสามกับ เควิน การ์เนตต์, พอล เพียร์ซ, เรย์ อัลเลน และ เฟอร์รี อาจสะกิดใจนึกถึงคำพูดที่ว่า “เกมบุกเอาไว้ขายตั๋ว เกมรับเอาไว้ล่าแชมป์” ขึ้นมาจึงปรับกลยุทธ์ไปดึง เบน วอลเลซ มาเติมเกมวงในสนับสนุนงานของ ซีดรูนาส อิเกาส์คาส นี่อาจเป็นการแบ่งงานกันทำที่ชัดเจน “บิ๊กเบน” ทำหน้าที่รักษาห่วงให้จงดี ขณะที่ เลอบรอน คอยใส่สกอร์เป็นชุดๆ แต่ต้องไม่ลืมว่าที่ วอลเลซ มีแหวนแชมป์ติดมือเนื่องจากต้นสังกัดเก่า ดีทรอยต์ พิสตันส์ ครบเครื่องเรื่องต้มยำ ส่วน แคฟวาเลียร์ส คงต้องใช้เวลาปรับจูนกันอีกสักระยะ


กำลังโหลดความคิดเห็น