อาร์เซนอล สโมสรชั้นนำแห่งศึกพรีเมียร์ชิป อังกฤษ ได้รับข่าวดีทางด้านการเงินเมื่อผลกำไรในรอบครึ่งปีดีดตัวสูงขึ้นถึง 54 เปอร์เซ็นต์ โดยมีปัจจัยหลักอยู่ที่ค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดทางทีวีและรายได้จากค่าตั๋วชมการแข่งขัน
สำนักข่าวบีบีซีของอังกฤษรายงานว่า “ปืนใหญ่” สามารถทำกำไรก่อนหักภาษีในช่วง 6 เดือนนับจนถึงสิ้นเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วได้ราว 20 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,400 ล้านบาท) ซึ่งถือว่ามากกว่าที่เคยทำไว้ในปี 2006 โดยหนนั้นตัวเลขอยู่ที่ 12.6 ล้านปอนด์ (ประมาณ 882 ล้านบาท)
ซึ่งกำไรดังกล่าวส่วนหนึ่งมาจากการขาย เธียร์รี่ อองรี ดาวยิงทีมชาติฝรั่งเศสให้กับ บาร์เซโลน่า ด้วยค่าตัว 16.1 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,127 ล้านบาท) นอกจากนั้นยังรวมถึงช่องทางอื่นๆ อาทิ รายได้จากการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ที่เพิ่มขึ้น 6.5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 455 ล้านบาท) และค่าบัตรเข้าชมการแข่งขันในสนามเอมิเรตส์ สเตเดี้ยมที่ถีบตัวสูงขึ้นอีก 3 ล้านปอนด์ (ประมาณ 210 ล้านบาท)
อย่างไรก็ตาม ยอดเงินหมุนเวียนภายในสโมสร ณ ปัจจุบันลดลงจากปีก่อนที่ 100.8 ล้านปอนด์ (ประมาณ 7,056 ล้านบาท) เหลือ 97 ล้านปอนด์ (ประมาณ 6,790 ล้านบาท) ทว่า ปีเตอร์ ฮิลล์-วู้ด ประธานสโมสรก็ยังพอใจกับผลกำไรที่ออกมา “เราพอใจมากกับการบริหารด้านการเงินของสโมสรในช่วงครึ่งปีแรก”
ขณะเดียวกัน คีธ เอเดลแมน ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารยังมั่นใจว่า บอร์ดบริหารจะสามารถยับยั้งการเข้ามาเทคโอเวอร์ เดอะ กันเนอร์ส ของ อลิเชอร์ อุสมานอฟ มหาเศรษฐีชาวรัสเซียที่เพิ่มหุ้นในมือเป็น 24 เปอร์เซ็นต์ได้ “เขา (อุสมานอฟ) เคยบอกว่าจะเพิ่มหุ้นในมือเป็น 25 เปอร์เซ็นต์ให้ได้ เพื่อจะได้มีบทบาทในการบริหารอย่างเต็มตัว แต่ผมเชื่อว่าหุ้นส่วนใหญ่รายอื่นๆ จะไม่ปล่อยหุ้นให้พวกเขาอย่างง่ายดายแน่นอน”
นอกจากนี้ เอเดลแมน ยังออกมาแสดงความเชื่อมั่นว่า อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือสมองเพชรชาวฝรั่งเศสจะอยู่กับทีมต่อไปในระยะยาวว่า “ผมไม่คิดว่าเขาจะอำลาทีมไปง่ายๆ เพราะเขามีความกระหายที่จะพาสโมสรก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่รู้จบ และในอีก 7 หรือ 8 ปีข้างหน้าเขาก็จะยังปักหลักอยู่ที่นี่อย่างแน่นอน นั่นไม่ใช่เรื่องที่ผมจะต้องกังวลเลยแม้แต่น้อย”