xs
xsm
sm
md
lg

สองยักษ์ลอนดอนเปิดศึกชิงถ้วยใบจิ๋ว / เซียนไก๋

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


แม้ว่า อาร์เซนอล และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังขับเคี่ยวแย่งแชมป์ พรีเมียร์ชิป กันอยู่ แต่สุดสัปดาห์นี้ไม่มีเกมคู่ไหนจะสำคัญไปกว่าศึก คาร์ลิง คัพ ถ้วยใบจิ๋วของเกาะอังกฤษ ที่ตะบันแข้งกันจนมาถึงนัดชิงชนะเลิศแล้ว โดยจะเป็นการดวลกันระหว่างสองยักษ์ใหญ่ร่วมกรุงลอนดอน เชลซี พบกับ ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ ณ นิว เวมบลีย์ ในเวลา 22.00น. ตามเวลาบ้านเราของวันอาทิตย์ที่ 24 กุมภาพันธ์นี้

เมื่อฤดูกาลที่แล้วนัดชิงก็เป็นเกมดาร์บีแมตช์กรุงลอนดอนที่ เชลซี เอาชนะเด็ก อาร์เซนอล 2-1 มาปีนี้ก็ยังเป็นการชิงดำกันของสองสโมสรจากเมืองหลวงอีกเช่นเคย แต่จะโยกจาก มิลเลเนียม สเตเดี้ยม เมืองคาร์ดิฟฟ์ ประเทศเวลส์ มาเตะที่ นิว เวมบลีย์ หลังจากทุบทิ้งและสร้างใหม่ ทีมสุดท้ายที่ฝากชื่อคว้าแชมป์ที่นี่คือ เลสเตอร์ ซิตี เมื่อปี 2000

เวลานี้ เชลซี เป็นทีมเดียวในเมืองผู้ดีที่ยังมีลุ้น 4 แชมป์ ซึ่งทางด้าน มิคาเอล เอสเซียง กองกลางพันธุ์ถึกก็ยืนยันว่าพลพรรค "สิงโตน้ำเงินคราม" ไม่ได้ฝันเกินจริง "ผมคิดว่าโลกของฟุตบอลอะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือคุณต้องเชื่อมั่นในตัวเองเสียก่อนว่าสามารถทำได้ ซึ่งตอนนี้เรายังอยู่ในเส้นทางลุ้นแชมป์ถึง 4 รายการ"

เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาในเกม ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก เชลซี เก็บ จอห์น เทอร์รี และ แฟรงค์ แลมพาร์ด สองคีย์แมนไว้ข้างสนาม จนทำได้แค่บุกไปเสมอกับ โอลิมเปียกอส 0-0 ก็ไม่รู้ว่าพวกที่ลงสนามมีสมาธิมากน้อยแค่ไหนหรือคิดถึงนัดชิงที่ เวมบลีย์ เพราะว่าถูกกุนซือ อัฟราม แกรนท์ ออกมาก่นถึงฟอร์มสุดบู่ แม้ว่าจะพอใจที่ไม่เสียอะเวย์โกล์ก็ตามไว้รอแก้ตัวอีก 2 สัปดาห์ในรัง สแตมฟอร์ด บริดจ์

นอกจาก เทอร์รี และ แลมพาร์ด ที่จะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง น่าสนใจตรงที่ว่า แกรนท์ ที่เพิ่งเจอเรื่องช็อกถูกขู่ฆ่าด้วยจดหมายโรยผงแป้งสีขาวมาที่สนามซ้อม จะกล้าส่ง ดิดิเยร์ ดร็อกบา และ นิโกลาส์ อเนลก้า จับคู่ในแดนหน้าตั้งแต่นาทีแรกของเกมหรือไม่ หลังจากได้ประสานงานกัน 15 นาทีในเกมยุโรป แต่ว่าก็ไม่มีใครยิงประตูได้ ส่วนตำแหน่งอื่นถือว่าฟูลทีมมีตัวเลือกล้นเหลือ

ช่วงหลัง เชลซี ถือเป็นขาประจำของถ้วย คาร์ลิง คัพ เพราะหนนี้ถือเป็นการเข้าชิงครั้งที่ 3 ในรอบ 4 ปีหลังสุด โดยความพ่ายแพ้ครั้งสุดท้ายในนัดชิงรายการนี้ต้องย้อนไปไกลถึงปี 1972 เลยทีเดียว แต่ถ้าหากไม่รวมปีนี้เข้าชิงมาแล้ว 5 ครั้งในประวัติศาสตร์ของสโมสร คว้าแชมป์มาได้ถึง 4 สมัยเลยทีเดียวถือว่าไม่ธรรมดา

ทางฟากของ สเปอร์ส เข้าชิงด้วยการพลิกล็อกเอาชนะ อาร์เซนอล ในรอบรองชนะเลิศด้วยสกอร์รวม 6-2 โดยชนะนัดที่สองในรัง ไวท์ ฮาร์ท เลน ถล่มแหลกถึง 5-1 ที่ผ่านมาหากไม่รวมหนนี้ "ไก่เดือยทอง" เข้าชิงมาแล้ว 5 ครั้ง คว้าแชมป์มาได้ 3 สมัย ครั้งสุดท้ายที่คว้าแชมป์คือในปี 1999 เอาชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 1-0

เท่ากับว่าทั้งคู่เจอกันเป็นครั้งแรกในนัดชิง แต่ว่าเกมนี้ สเปอร์ส ค่อนข้างเสียเปรียบไม่น้อย เพราะได้พักน้อยกว่าถึง 2 วัน เนื่องจากต้องลงเล่น ยูฟา คัพ รอบ 32 ทีมสุดท้าย นัดสอง ในวันพฤหัสบดีที่ 21 ก.พ. พบกับ สลาเวีย ปราก หลังจากนัดแรกบุกไปเอาชนะมาได้ก่อน 2-1 ซึ่งต้องออกตัวว่าเวลานี้ยังไม่รู้ว่าพวกเขาจะผ่านคู่แข่งจากเช็กเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายได้หรือไม่

ร้อนถึง ฮวนเด รามอส กุนซือชาวสเปน ต้องออกมากำชับลูกทีม สเปอร์ส อย่าเพิ่งใจลอยไป เวมบลีย์ เพราะว่าต้องจัดการภารกิจในศึก ยูฟา คัพ ให้เสร็จสิ้นเสียก่อน เพราะหากว่ามัวแต่ไปห่วงหน้าพะวงหลัง เกิดพลาดท่าร่วง 2 ถ้วยในรอบ 4 วันจะพูดไม่ออก เพราะนัดนี้ก็ต้องยอมรับว่าเป็นรองทางด้าน เชลซี อยู่หลายขุม

อย่างไรก็ตาม ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ หอกความหวังของ สเปอร์ส ที่ซัดไปแล้ว 4 ประตูในถ้วย ยูฟา คัพ ฤดูกาลนี้ คู่ขาของ ร็อบบี คีน ในแดนหน้า ค่อนข้างเชื่อมือ รามอส กุนซือสิงห์บอลถ้วย เพราะว่าเคยพา เซบีญา คว้าแชมป์รายการนี้สองปีหลังสุดมาแล้ว โดยแข้งทีมชาติบัลแกเรีย บอกว่า "เราจะเชื่อฟัง และปฎิบัติตามในสิ่งที่เขาบอกให้เราทำ ซึ่งผมคิดว่าเราจะสามารถคว้าแชมป์ได้แน่"

สภาพความพร้อมของ สเปอร์ส ที่น่ากังวลที่สุดคือตำแหน่งเซนเตอร์ฮาล์ฟ เนื่องจากว่า ไมเคิล ดอว์สัน มีอาการบาดเจ็บต้องลุ้นว่าจะลงเล่นได้หรือไม่ รวมถึง เล็ดลีย์ คิง ที่ยังมีปัญหาเรื่องความฟิต ทำให้ตัวยืนในแนวรับเวลานี้เหลือเพียง โจนาธาน วู้ดเกต ที่ไม่ติดคัพไท เพราะยังไม่เคยลงให้ มิดเดิลสโบรช์ มาก่อนในปีนี้ ส่วนตำแหน่งนายทวารหลัง ราเด็ค แชร์นี โดนโรคติดต่อจาก พอล โรบินสัน เล่นงาน เพราะทำบอลหลุดมือสงเคราะห์ประตูให้ สลาเวีย ปราก ก็ทำให้เอาเจ้าตัวกังวลว่าจะอดเล่นนัดชิงเหมือนกัน

เซียนไก๋ ฟันธง
เชลซี เก๋ากว่าเฉือน 2-1




กำลังโหลดความคิดเห็น