“บิ๊กโต้ง” กิตติรัตน์ ณ ระนอง ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับไอเดียพรีเมียร์ชิปสัญจรว่า ไม่น่าจะเป็นการทำลายลีกท้องถิ่นของประเทศนั้นๆ แต่เจ้าตัวเชื่อแนวคิดนี้อาจเกิดขึ้นได้ แต่ไม่ใช่ในเร็วๆ นี้อย่างแน่นอน
หลังจาก ริชาร์ด สคูดามอร์ ประธานลีกสูงสุดเมืองผู้ดี ออกมาปล่อยนโยบายเสนอจัดแข่งขันพรีเมียร์ลีกเพิ่มจากฤดูกาลปกติอีก 1 นัดในต่างแดน เพื่อกระตุ้นความสนใจฟุตบอลลีกผู้ดีของแฟนบอลทั่วโลก รวมทั้งรายได้ที่สโมสรที่จะเพิ่มมากขึ้น และอาจไปดึงดูดความสนใจจากฟุตบอลลีกในประเทศนั้นๆ ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ไปทั่ววงการลูกหนัง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการต่อต้านแนวความคิดดังกล่าว
แม้ว่าเซปป์ แบล็ตเตอร์ ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือฟีฟ่า จะออกมาให้สัมภาษณ์ว่าไม่เห็นด้วยกับไอเดียพิสดารของ สคูดามอร์ ทว่าประธานพรีเมียร์ชิป ยังไม่ละความพยายามเตรียมเข้าหารือกับทางฟีฟ่า ในสัปดาห์หน้าถึงความเป็นไปได้ในการทำศึกพรีเมียร์ชิป นัดที่ 39 ในต่างแดน
ก่อนหน้านี้ “โค้ชหรั่ง” อ.ชาญวิทย์ ผลชีวิน หัวหน้าโค้ชทีมชาติไทย ชุดทำศึกฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนเอเชีย ออกมาแสดงทัศนะว่า หากฟุตบอลลีกสูงสุดเมืองผู้ดีเดินทางมาเตะยังประเทศไทยจริง คงไม่ส่งผลกระทบต่อวงการลูกหนังในประเทศ ทั้งยังมองว่า ไอเดียนี้หากเกิดขึ้นจริง คงจะประสบความสำเร็จยากในเมืองไทย
ล่าสุด “บิ๊กโต้ง” กิตติรัตน์ ณ ระนอง ผู้จัดการทีมชาติไทยชุดเดียวกัน ออกมาแสดงความเห็นในทำนองเดียวกันว่า “หากโครงการนี้เกิดขึ้นจริง ผมคิดว่าคงไม่ถึงกับไปทำร้าย หรือทำลายลีกท้องถิ่นนั้นๆ ได้ด้วยฟุตบอลเพียงแมตช์เดียว”
ผู้จัดการทีมชาติไทยกล่าวต่อว่า “อย่างไรก็ตาม จุดยืนของทางฟีฟ่าไม่เห็นด้วยกับแนวคิดดังกล่าว เพราะอาจจะทำให้เกิดความสับสนหลายอย่าง ลำพังแค่พรีเมียร์ชิปเดินทางไปเล่นในประเทศอื่นในยุโรปก็วุ่นวายพออยู่แล้ว แต่ถ้าต้องเดินทางมาเล่นในเอเชียซึ่งอยู่ในความดูแลของเอเอฟซี จะบริหารจัดการกันอย่างไร ใครจะเป็นผู้ตัดสิน รวมถึงดูแลแมตช์การแข่งขัน”
“ผมคิดว่าไอเดียพรีเมียร์ชิปสัญจรคงต้องมีการพูดคุยทำความเข้าใจกับหลายๆ ฝ่ายให้มีความชัดเจนมากกว่านี้ ซึ่งมันก็อาจจะเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้น แต่คงไม่ใช่ภายในระยะเวลาสั้น 3-5 ปีนี้อย่างแน่นอน” บิ๊กโต้งทิ้งท้าย