เกรแฮม เทย์เลอร์ อดีตผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ ออกโรงต่อต้านนโยบายที่จะให้ศึกพรีเมียร์ชิป อังกฤษ เตะกัน 39 นัด เช่นเดียวกับ โยฮัน ครัฟฟ์ อดีตดาวเตะผู้ยิ่งใหญ่ชาวฮอลแลนด์
ภายหลัง ริชาร์ด สคูดามอร์ ประธานพรีเมียร์ลีกออกมาโยนหินถามทางเรื่องไอเดียจัดเกมลีกสูงสุดเมืองผู้ดี นัดที่ 39 ของฤดูกาลที่ต่างประเทศ ก็เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมาเป็นอย่างมาก ทั้งที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย โดยล่าสุด 2 บุคคลชื่อดังแห่งวงการฟุตบอลอย่าง “กุนซือหัวผักกาด” และ “ดาวเตะเทวดา” ก็แสดงความคิดเห็นบ้าง
โดย เทย์เลอร์ กล่าวทำนองประชดประชัน ว่า “หากสโมสรในพรีเมียร์ลีกมีเจ้าของเป็นชาวต่างชาติเพิ่มขึ้นอีกสัก 2-3 ทีม ไม่ช้าสโมสรทั้งหลายในลีกคงมีแผนที่จะไปเตะที่ไหนสักแห่งซึ่งแฟนบอลกว่า 100,000 คน ต้องยกโขยงตามไปเชียร์เป็นแน่แท้ ยกตัวอย่างเช่นทีมใหญ่อย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อาจไปแข่งที่ดูไบ”
“ไม่ว่าอย่างไรเรื่องนี้จะเกิดขึ้นจากการตัดสินใจของพรีเมียร์ลีกเพียงฝ่ายเดียวไม่ได้ ทางสมาคมฟุตบอลอังกฤษจะต้องมีส่วนรู้เห็นด้วย ซึ่งหากสมาคมไม่เห็นชอบกับการจัดพรีเมียร์ลีกนัดที่ 39 ในต่างแดน ไอเดียที่ว่าก็ควรจะตกไปและน่าจะมีการประกาศระงับแผนดังกล่าว”
ด้าน ครัฟฟ์ เสนอมุมมองส่วนตัวว่า “มันช่างเป็นไอเดียที่น่าขันเสียจริง ซึ่งหากมันเกิดขึ้นจริงคนที่ได้รับผลกระทบเป็นกลุ่มแรกก็คือแฟนบอล เพราะผมเชื่อว่าคนกลุ่มนี้ปรารถนาที่จะเข้าสนามเหย้าของตัวเองเพื่อชมทีมรักเอาชนะคู่แข่งขัน ซึ่งฟุตบอลควรจะให้ความสำคัญถึงแก่นแท้ของวัฒนธรรมการเชียร์ด้วย”
ขณะที่ คีธ แลมบ์ ประธานสโมสรมิดเดิลสโบรช์ ออกมากล่าวแบบแบ่งรับแบ่งสู้ว่าคงเป็นเรื่องดีในแง่ผลประโยชน์ที่จะได้รับ ทว่ารู้สึกแปลกใจที่ต้องลงเตะกับทีมเดียวกันถึง 3 นัดต่อฤดูกาล “แม้ประเด็นจะไม่ได้อยู่ที่เรื่องเงินรายได้เพียงอย่างเดียว แต่การไปเล่นยังต่างแดนแล้วได้เงินเพิ่มอีก 5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 350 ล้านบาท) สามารถช่วยเหลือการเงินของสโมสรได้มากทีเดียว”
“สิ่งที่ผมรู้สึกตะขิดตะขวงใจกับแนวความคิดนี้มีเพียงอย่างเดียว คือ การที่ต้องเล่นกับทีมใดทีมหนึ่งถึง 3 ครั้งในฤดูกาลเดียวกัน นั่นคือสิ่งเดียวที่ทำให้ผมคัดค้านแผนการดังกล่าว” บิ๊กบอส เดอะ โบโร่ ชี้แจง
ภายหลัง ริชาร์ด สคูดามอร์ ประธานพรีเมียร์ลีกออกมาโยนหินถามทางเรื่องไอเดียจัดเกมลีกสูงสุดเมืองผู้ดี นัดที่ 39 ของฤดูกาลที่ต่างประเทศ ก็เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมาเป็นอย่างมาก ทั้งที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย โดยล่าสุด 2 บุคคลชื่อดังแห่งวงการฟุตบอลอย่าง “กุนซือหัวผักกาด” และ “ดาวเตะเทวดา” ก็แสดงความคิดเห็นบ้าง
โดย เทย์เลอร์ กล่าวทำนองประชดประชัน ว่า “หากสโมสรในพรีเมียร์ลีกมีเจ้าของเป็นชาวต่างชาติเพิ่มขึ้นอีกสัก 2-3 ทีม ไม่ช้าสโมสรทั้งหลายในลีกคงมีแผนที่จะไปเตะที่ไหนสักแห่งซึ่งแฟนบอลกว่า 100,000 คน ต้องยกโขยงตามไปเชียร์เป็นแน่แท้ ยกตัวอย่างเช่นทีมใหญ่อย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อาจไปแข่งที่ดูไบ”
“ไม่ว่าอย่างไรเรื่องนี้จะเกิดขึ้นจากการตัดสินใจของพรีเมียร์ลีกเพียงฝ่ายเดียวไม่ได้ ทางสมาคมฟุตบอลอังกฤษจะต้องมีส่วนรู้เห็นด้วย ซึ่งหากสมาคมไม่เห็นชอบกับการจัดพรีเมียร์ลีกนัดที่ 39 ในต่างแดน ไอเดียที่ว่าก็ควรจะตกไปและน่าจะมีการประกาศระงับแผนดังกล่าว”
ด้าน ครัฟฟ์ เสนอมุมมองส่วนตัวว่า “มันช่างเป็นไอเดียที่น่าขันเสียจริง ซึ่งหากมันเกิดขึ้นจริงคนที่ได้รับผลกระทบเป็นกลุ่มแรกก็คือแฟนบอล เพราะผมเชื่อว่าคนกลุ่มนี้ปรารถนาที่จะเข้าสนามเหย้าของตัวเองเพื่อชมทีมรักเอาชนะคู่แข่งขัน ซึ่งฟุตบอลควรจะให้ความสำคัญถึงแก่นแท้ของวัฒนธรรมการเชียร์ด้วย”
ขณะที่ คีธ แลมบ์ ประธานสโมสรมิดเดิลสโบรช์ ออกมากล่าวแบบแบ่งรับแบ่งสู้ว่าคงเป็นเรื่องดีในแง่ผลประโยชน์ที่จะได้รับ ทว่ารู้สึกแปลกใจที่ต้องลงเตะกับทีมเดียวกันถึง 3 นัดต่อฤดูกาล “แม้ประเด็นจะไม่ได้อยู่ที่เรื่องเงินรายได้เพียงอย่างเดียว แต่การไปเล่นยังต่างแดนแล้วได้เงินเพิ่มอีก 5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 350 ล้านบาท) สามารถช่วยเหลือการเงินของสโมสรได้มากทีเดียว”
“สิ่งที่ผมรู้สึกตะขิดตะขวงใจกับแนวความคิดนี้มีเพียงอย่างเดียว คือ การที่ต้องเล่นกับทีมใดทีมหนึ่งถึง 3 ครั้งในฤดูกาลเดียวกัน นั่นคือสิ่งเดียวที่ทำให้ผมคัดค้านแผนการดังกล่าว” บิ๊กบอส เดอะ โบโร่ ชี้แจง
