คอลัมน์ "Final Quarter" โดย ลุงแซม
ชัยชนะกับการคว้าเกียรติยศสูงสุดมาครอบครอง แน่นอนว่าต้องมีการเฉลิมฉลองกันหน่อย ส่วนผู้แพ้ยังพอมีเวลาร้องไห้ แต่ก็ต้องทำใจให้ได้และพร้อมเดินหน้ากันต่อไปบนวิถีทางของความเป็นมืออาชีพ
ฤดูกาล 2007/08 ของศึกอเมริกัน ฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) ถือว่าปิดฉากลงอย่างไม่เป็นทางการ หลังได้บทสรุปในซูเปอร์โบว์ล ครั้งที่ 42 โดยเป็น “ยักษ์ใหญ่” นิวยอร์ก ไจแอนท์ส ที่หักปากกาบรรดานักวิเคราะห์วิจารณ์จากหลายสำนัก รวมถึงฉีกหน้าบ่อนถูกกฎหมายหลายแห่งในลาสเวกัส ด้วยการพลิกล็อกเอาชนะ นิวอิงแลนด์ แพทริออตส์ อย่างสนุกสุดมัน 17-14 คะแนน
สำหรับใครที่คิดว่าซูเปอร์โบว์ลปีนี้จะเป็นการแลกหมัดทำแต้มกันอย่างดุเดือดต้องผิดหวังกันไป แต่ถ้าพินิจพิเคราะห์กันให้ดี ตลอดทั้งสี่ควอเตอร์หลายๆ แผนการเล่นถือเป็นเพลย์ที่อัดแน่นไปด้วยคุณภาพ โดยส่วนตัวแล้วผมกลับประทับใจเกมชิง “วินซ์ ลอมบาร์ดี โทรฟี” ในครั้งนี้มากกว่าหลายๆ ปีที่ได้ดูมาเสียอีก
ก่อนซูเปอร์โบว์ลที่เกลนเดล อริโซนา จะเปิดฉาก “แพทส์แมน” เป็นต่อแบบสุดกู่ 12 แต้ม แถมการทำคะแนนรวมคาดว่าจะทะลุไปถึงหลัก 54-55 แต้มกันเลย ถ้าเกิด ไจแอนท์ส ทะเล่อทะล่าทำตามเทรนด์ที่หลายๆ คนต้องการให้เป็นล่ะก้อ “ยักษ์ใหญ่” คงสิ้นชีวาวายตั้งแต่หัววัน แต่ด้วยกึ๋นอันน่าชื่นชมของ ทอม คอฟลิน หัวหน้าโค้ชจอมเฮี้ยบที่อดทนเดินเกมไปตามแผนที่วางเอาไว้อย่างละเอียดลออ ความสำเร็จจึงพ่วงท้ายตามมาในที่สุด
ในเกมที่ผ่านพ้นไป ไจแอนท์ส เดินหมากตามความคาดหมายนั่นก็คือการส่ง แบรนดอน จาค็อบส์ สลับกับ อาหมัด แบรดชอว์ ลงไปวิ่งเจาะเพื่อทำให้ทีมรับที่สูงวัยของ แพทริออตส์ อ่อนระทวย เมื่อแผนในเบื้องต้นสำเร็จก็เป็นหน้าที่ของทีมรับที่ต้องลงไปค้ำยัน “ทอม เบรดี แอนด์ เดอะ แก๊งค์” ซึ่ง ไมเคิล สเตรแฮน และโอซี ยูเมนยิโอรา ก็ไม่ทำให้ สตีฟ สปันนูโอโล ผิดหวัง จัดการปัดป่ายแหวกเสียจนแผงออฟเฟนด์ซีฟ ไลน์ “นักรบกู้ชาติ” แตกระเนระนาดเข้าแซ็คควอเตอร์แบ็กเก่งสุดของลีกฤดูกาลนี้ได้ถึง 5 ครั้ง
แต่ “แพทส์แมน” ก็แสดงให้เห็นเช่นกันว่าพวกเขาคือทีมที่ชนะกันมา 18 เกมติด เบรดี ขว้างทัชดาวน์ให้ แรนดี มอสส์ ปีกคู่ใจช่วยให้เต็งแชมป์พลิกแซง 14-10 ที่สำคัญเหลือเวลาเพียงแค่ 2 นาทีเศษให้ อีลาย แมนนิง ได้ลงมาพาทัพ “ยักษ์ใหญ่” คัมแบ็ก แต่น้องชายของ เพย์ตัน (แมนนิง) ก็ไม่ทำให้อัจฉริยะควอเตอร์แบ็ก อินเดียนาโปลิส โคลต์ส ที่ตามคุณพ่อ-คุณแม่ อาร์ชี และโอลิเวีย มาเชียร์ถึงในสนามต้องผิดหวัง
การสร้างไดรฟ์ระยะยาวถึง 83 หลาในช่วงเวลาบีบแสนสาหัสเป็นเรื่องที่ยากสำหรับจอมทัพประสบการณ์ 4 ปีที่เพิ่งได้สัมผัสเพลย์ออฟและเกมระดับชิงแชมป์ครั้งแรกในชีวิต ที่สำคัญยามใดที่ อีลาย หันหน้าเผชิญกับความกดดันก็มักจะปราชัยดั่งเช่นที่ผ่านๆ มาในฤดูกาลปกติ แต่ขอโทษ!!! อะไรๆ มันเปลี่ยนไปแล้ว ควอเตอร์แบ็กวัย 27 ปีมีวัยวุฒิที่มากขึ้น สมาธิปักหลักอยู่กับเกมโดยตลอด
ภาพการสลัดหลุดการเหนี่ยวจากบรรดาทีมรับ แพทริออตส์ จนเสื้อแข่งเนื้อผ้าที่ว่าเหนียวๆ แทบจะขาดของ อีลาย ก่อนขว้างบิ๊กเพลย์ 32 เข้ามือปีกที่ไม่คุ้นชื่ออย่าง เดวิด ไพรี ทำให้ ไจแอนท์ส ยังคงอยู่ในเกม จากนั้นก็ขว้างฉีกให้ สตีฟ สมิธ รับก่อนออกนอกสนามเพื่อหยุดเวลา ก่อนมาจบเพลย์ประวัติศาสตร์ด้วยการหยอดบอล 13 หลาให้ แพล็กซิโก เบอร์เรสส์ ทำให้ชาวเมืองนิวยอร์ก-นิวเจอร์ซีย์ กระโดดกันตัวลอยหน้าเครื่องรับโทรทัศน์
ณ เวลานี้เชื่อเหลือเกินว่าเวลาแห่งการเฉลิมฉลองแชมป์สมัยที่ 3 ของทีมงาน “ยักษ์ใหญ่” และแฟนๆ อีกหลายหมื่นหลายแสนคนคงยังไม่จบสิ้น เมื่อความสนุกสนานผ่านพ้นถึงเวลาที่พอเหมาะพอควร ไจแอนท์ส ก็มีงานหนักอึ้งให้ทำกันต่อไปในช่วงปิดฤดูกาลเพื่อเป้าหมายการป้องกันแชมป์ในปีหน้า ทว่าคำพูดอันคลาสสิกที่ว่ากันว่า “การเป็นแชมป์นั้นยากแล้ว แต่การป้องกันแชมป์ (โคตร) ยากกว่า” นี่จึงเป็นเรื่องที่ท้าทายในการหาคำตอบให้กับคำถาม
ด้านของ “แพทส์แมน” แน่นอนว่าความผิดหวังจากการวืดแชมป์และ “เพอร์เฟกต์ ซีซั่น” คงทำให้ผู้เล่นหลายๆ คนรวมถึงหัวหน้าโค้ช บิลล์ บีลิชิก นอนหลับไม่สนิทไปหลายคืน แต่เมื่อถึงเวลาต้องลุกขึ้นมาสู้กันอีกครั้ง ผมเชื่อว่าความมุ่งมั่นและอารมณ์ฮึกเหิมจะสามารถผลักดันตัวเองออกมาจากจิตวิญญาณความเป็นมืออาชีพของบุคคลเหล่านี้
ฤดูกาลหน้า แพทริออตส์ ยังถือเป็นทีมเต็งที่มีโอกาสสัมผัสแชมป์มากที่สุด อย่างไรก็ตาม ด่านแรกสุดที่พวกเขาต้องเผชิญคือเรื่องของ “อาถรรพ์” เพราะหกฤดูกาลหลังสุดที่ผ่านมา “รองแชมป์ซูเปอร์โบว์ล” มีเพียงแค่ ซีแอตเทิล ซีฮอว์คส ที่รอดจากเงื้อมือยมทูตเข้าเพลย์ออฟได้สำเร็จ ส่วน แรมส์, เรดเดอร์ส, แพนเธอร์ส, อีเกิลส์ และแบร์ส ยังไม่ฟื้นจนถึงทุกวันนี้
ชัยชนะกับการคว้าเกียรติยศสูงสุดมาครอบครอง แน่นอนว่าต้องมีการเฉลิมฉลองกันหน่อย ส่วนผู้แพ้ยังพอมีเวลาร้องไห้ แต่ก็ต้องทำใจให้ได้และพร้อมเดินหน้ากันต่อไปบนวิถีทางของความเป็นมืออาชีพ
ฤดูกาล 2007/08 ของศึกอเมริกัน ฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) ถือว่าปิดฉากลงอย่างไม่เป็นทางการ หลังได้บทสรุปในซูเปอร์โบว์ล ครั้งที่ 42 โดยเป็น “ยักษ์ใหญ่” นิวยอร์ก ไจแอนท์ส ที่หักปากกาบรรดานักวิเคราะห์วิจารณ์จากหลายสำนัก รวมถึงฉีกหน้าบ่อนถูกกฎหมายหลายแห่งในลาสเวกัส ด้วยการพลิกล็อกเอาชนะ นิวอิงแลนด์ แพทริออตส์ อย่างสนุกสุดมัน 17-14 คะแนน
สำหรับใครที่คิดว่าซูเปอร์โบว์ลปีนี้จะเป็นการแลกหมัดทำแต้มกันอย่างดุเดือดต้องผิดหวังกันไป แต่ถ้าพินิจพิเคราะห์กันให้ดี ตลอดทั้งสี่ควอเตอร์หลายๆ แผนการเล่นถือเป็นเพลย์ที่อัดแน่นไปด้วยคุณภาพ โดยส่วนตัวแล้วผมกลับประทับใจเกมชิง “วินซ์ ลอมบาร์ดี โทรฟี” ในครั้งนี้มากกว่าหลายๆ ปีที่ได้ดูมาเสียอีก
ก่อนซูเปอร์โบว์ลที่เกลนเดล อริโซนา จะเปิดฉาก “แพทส์แมน” เป็นต่อแบบสุดกู่ 12 แต้ม แถมการทำคะแนนรวมคาดว่าจะทะลุไปถึงหลัก 54-55 แต้มกันเลย ถ้าเกิด ไจแอนท์ส ทะเล่อทะล่าทำตามเทรนด์ที่หลายๆ คนต้องการให้เป็นล่ะก้อ “ยักษ์ใหญ่” คงสิ้นชีวาวายตั้งแต่หัววัน แต่ด้วยกึ๋นอันน่าชื่นชมของ ทอม คอฟลิน หัวหน้าโค้ชจอมเฮี้ยบที่อดทนเดินเกมไปตามแผนที่วางเอาไว้อย่างละเอียดลออ ความสำเร็จจึงพ่วงท้ายตามมาในที่สุด
ในเกมที่ผ่านพ้นไป ไจแอนท์ส เดินหมากตามความคาดหมายนั่นก็คือการส่ง แบรนดอน จาค็อบส์ สลับกับ อาหมัด แบรดชอว์ ลงไปวิ่งเจาะเพื่อทำให้ทีมรับที่สูงวัยของ แพทริออตส์ อ่อนระทวย เมื่อแผนในเบื้องต้นสำเร็จก็เป็นหน้าที่ของทีมรับที่ต้องลงไปค้ำยัน “ทอม เบรดี แอนด์ เดอะ แก๊งค์” ซึ่ง ไมเคิล สเตรแฮน และโอซี ยูเมนยิโอรา ก็ไม่ทำให้ สตีฟ สปันนูโอโล ผิดหวัง จัดการปัดป่ายแหวกเสียจนแผงออฟเฟนด์ซีฟ ไลน์ “นักรบกู้ชาติ” แตกระเนระนาดเข้าแซ็คควอเตอร์แบ็กเก่งสุดของลีกฤดูกาลนี้ได้ถึง 5 ครั้ง
แต่ “แพทส์แมน” ก็แสดงให้เห็นเช่นกันว่าพวกเขาคือทีมที่ชนะกันมา 18 เกมติด เบรดี ขว้างทัชดาวน์ให้ แรนดี มอสส์ ปีกคู่ใจช่วยให้เต็งแชมป์พลิกแซง 14-10 ที่สำคัญเหลือเวลาเพียงแค่ 2 นาทีเศษให้ อีลาย แมนนิง ได้ลงมาพาทัพ “ยักษ์ใหญ่” คัมแบ็ก แต่น้องชายของ เพย์ตัน (แมนนิง) ก็ไม่ทำให้อัจฉริยะควอเตอร์แบ็ก อินเดียนาโปลิส โคลต์ส ที่ตามคุณพ่อ-คุณแม่ อาร์ชี และโอลิเวีย มาเชียร์ถึงในสนามต้องผิดหวัง
การสร้างไดรฟ์ระยะยาวถึง 83 หลาในช่วงเวลาบีบแสนสาหัสเป็นเรื่องที่ยากสำหรับจอมทัพประสบการณ์ 4 ปีที่เพิ่งได้สัมผัสเพลย์ออฟและเกมระดับชิงแชมป์ครั้งแรกในชีวิต ที่สำคัญยามใดที่ อีลาย หันหน้าเผชิญกับความกดดันก็มักจะปราชัยดั่งเช่นที่ผ่านๆ มาในฤดูกาลปกติ แต่ขอโทษ!!! อะไรๆ มันเปลี่ยนไปแล้ว ควอเตอร์แบ็กวัย 27 ปีมีวัยวุฒิที่มากขึ้น สมาธิปักหลักอยู่กับเกมโดยตลอด
ภาพการสลัดหลุดการเหนี่ยวจากบรรดาทีมรับ แพทริออตส์ จนเสื้อแข่งเนื้อผ้าที่ว่าเหนียวๆ แทบจะขาดของ อีลาย ก่อนขว้างบิ๊กเพลย์ 32 เข้ามือปีกที่ไม่คุ้นชื่ออย่าง เดวิด ไพรี ทำให้ ไจแอนท์ส ยังคงอยู่ในเกม จากนั้นก็ขว้างฉีกให้ สตีฟ สมิธ รับก่อนออกนอกสนามเพื่อหยุดเวลา ก่อนมาจบเพลย์ประวัติศาสตร์ด้วยการหยอดบอล 13 หลาให้ แพล็กซิโก เบอร์เรสส์ ทำให้ชาวเมืองนิวยอร์ก-นิวเจอร์ซีย์ กระโดดกันตัวลอยหน้าเครื่องรับโทรทัศน์
ณ เวลานี้เชื่อเหลือเกินว่าเวลาแห่งการเฉลิมฉลองแชมป์สมัยที่ 3 ของทีมงาน “ยักษ์ใหญ่” และแฟนๆ อีกหลายหมื่นหลายแสนคนคงยังไม่จบสิ้น เมื่อความสนุกสนานผ่านพ้นถึงเวลาที่พอเหมาะพอควร ไจแอนท์ส ก็มีงานหนักอึ้งให้ทำกันต่อไปในช่วงปิดฤดูกาลเพื่อเป้าหมายการป้องกันแชมป์ในปีหน้า ทว่าคำพูดอันคลาสสิกที่ว่ากันว่า “การเป็นแชมป์นั้นยากแล้ว แต่การป้องกันแชมป์ (โคตร) ยากกว่า” นี่จึงเป็นเรื่องที่ท้าทายในการหาคำตอบให้กับคำถาม
ด้านของ “แพทส์แมน” แน่นอนว่าความผิดหวังจากการวืดแชมป์และ “เพอร์เฟกต์ ซีซั่น” คงทำให้ผู้เล่นหลายๆ คนรวมถึงหัวหน้าโค้ช บิลล์ บีลิชิก นอนหลับไม่สนิทไปหลายคืน แต่เมื่อถึงเวลาต้องลุกขึ้นมาสู้กันอีกครั้ง ผมเชื่อว่าความมุ่งมั่นและอารมณ์ฮึกเหิมจะสามารถผลักดันตัวเองออกมาจากจิตวิญญาณความเป็นมืออาชีพของบุคคลเหล่านี้
ฤดูกาลหน้า แพทริออตส์ ยังถือเป็นทีมเต็งที่มีโอกาสสัมผัสแชมป์มากที่สุด อย่างไรก็ตาม ด่านแรกสุดที่พวกเขาต้องเผชิญคือเรื่องของ “อาถรรพ์” เพราะหกฤดูกาลหลังสุดที่ผ่านมา “รองแชมป์ซูเปอร์โบว์ล” มีเพียงแค่ ซีแอตเทิล ซีฮอว์คส ที่รอดจากเงื้อมือยมทูตเข้าเพลย์ออฟได้สำเร็จ ส่วน แรมส์, เรดเดอร์ส, แพนเธอร์ส, อีเกิลส์ และแบร์ส ยังไม่ฟื้นจนถึงทุกวันนี้