อาร์เซนอล เปิดบ้านจัดการสยบ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 3-0 โดย เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ หัวหอกเจ้าปัญหาชาวโตโกเหมาคนเดียว 2 ประตู ขณะที่ ลิเวอร์พูล พลิกสถานการณ์จากที่เป็นฝ่ายตามหลัง 2 ครั้งแซงกลับมาถล่ม ฮาแวนต์ แอนด์ วอเตอร์ลูวิลล์ ทีมนอกลีกได้สำเร็จ 5-2 ในศึกเอฟเอ คัพ รอบ 4 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
ฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบ 4 วันเสาร์ที่ 26 มกราคม 2551
อาร์เซนอล 3 – 0 นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด
ศึกฟุตบอลถ้วยอันศักดิ์สิทธิ์ของเมืองผู้ดี รอบ 4 อาร์เซนอล เปิดสนามเอมิเรตส์ สตเดี้ยม รับการมาเยือนของทีมจากพรีเมียร์ชิปด้วยกันอย่าง นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด เกมนี้เจ้าบ้านให้โอกาส เยนส์ เลห์มันน์ ลงเฝ้าเสา ขณะที่ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ที่เพิ่งก่อเรื่องฟาดปากกับเพื่อนร่วมทีมยังได้ลงเป็นหัวหอกตัวจริง ขณะที่คู่กรณีอย่าง นิคลาสเบนด์ทเนอร์ เป็นตัวสำรอง
ด้าน เควิน คีแกน กุนซืออาคันตุกะได้รับข่าวดีบ้าง เมื่อ นิคกี้ บัตต์ กับ อลัน สมิธ พ้นโทษแบนกลับมาลงสนามได้อีกครั้ง ทำให้ “สมัดเจอร์” ถูกจับยืนเป็นศูนย์หน้าคู่กับ ไมเคิล โอเว่น ส่วน ชาร์ลส เอ็นซ็อกเบีย ยังต้องหุบเข้าไปเล่นมิดฟิลด์ตัวกลาง โดยให้ เดเมียน ดัฟฟ์ รับหน้าที่เลื้อยทางกราบซ้าย
เริ่มเกมมาได้แค่ 9 นาที โทมัส โรซิคกี้ แกนรุกชาวเช็กของปืนใหญ่ก็มีอาการบาดเจ็บกำเริบขึ้นมา ทำให้ อาร์แซน เวนเกอร์ ต้องใช้โควตาเปลี่ยนตัวครั้งแรกอย่างรวดเร็วด้วยการส่ง เอดูอาร์โด ดา ซิลวา ลงมาเล่นแทน
จากนั้นนาทีที่ 14 แฟนบอลสาลิกาดงเกือบได้เฮก่อนเจ้าถิ่น เมื่อ เอ็นซ็อกเบีย เปิดลูกเตะมุมยัดมาที่เสาแรก บอลหลุดไปถึง สมิธ ตวัดยิงด้วยซ้ายแถวจุดโทษ บอลเกือบจะเข้าประตูอยู่แล้ว แต่ กาแอล กลิชี่ ที่ยืนคุมเส้นอยู่โหม่งทิ้งออกไปได้อย่างหวุดหวิด ก่อนที่นาทีถัดมา สตีเฟ่น คาร์ จะเติมขึ้นมาถึงเส้นหลังแล้วผ่านให้ โอเว่น เข้าชาร์จ ทว่าโดนไม่เต็มเท้าลูกจึงไหลผ่านหน้าประตูออกไป
อาร์เซนอล พยายามขึ้นเกมสร้างโอกาสเข้าทำบ้าง นาทีที่ 17 กลิชี่ เติมขึ้นมาถึงมุมเขตโทษด้านซ้ายก่อนลองสับไกด้วยขวาถูก เชย์ กิฟเว่น ทุบออกมาได้ ดิยาบี้ ได้ซัดอีกทีในจังหวะต่อมา แต่ก็ไม่เข้ากรอบ 6 นาทีให้หลัง บัตต์ ปั๊มบอลกับ อาบู ดิยาบี้ จนลูกลอยโด่ง สตีเว่น เทย์เลอร์ กะบอลตกผิดจังหวะทำให้ เอดูอาร์โด ได้ซัดเน้นๆ แต่ กิฟเว่น ยังซูเปอร์เซฟอย่างยอดเยี่ยม
เข้าสู่นาทีที่ 29 นิวคาสเซิล เกือบได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะที่ ดัฟฟ์ เก็บตกได้แถวหน้าเขตโทษแล้วใช้เข่าดีดบอลข้ามแผงหลังเดอะ กันเนอร์ส ให้ สตีเว่น เทย์เลอร์ ที่สอดขึ้นมาโถมตัวโหม่งในเขตโทษแต่บอลย้อยไปตกบนหลังคา จนกระทั่งผ่านมาถึงช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก ดิยาบี้ ก็ลองปั่นโค้งจากนอกกรอบ บอลทำท่าจะมุดใต้คาน ทว่า กิฟเว่น ยังไม่พลาดสปริงตัวปัดออกไปได้ จบ 45 นาทีแรกยังเสมออยู่ 0-0
กลับมาเล่นต่อในครึ่งหลังได้เพียง 5 นาที อาร์เซนอล สามารถขยับสกอร์บอร์ดให้เป็น 1-0 ได้ก่อนจากการต่อบอลตั้งแต่กลางสนามมาจนถึง เอดูอาร์โด ที่สบโอกาสซัดจากหน้าเขตโทษ ลูกพุ่งไปชนเสาในจังหวะแรก เทย์เลอร์ พยายามสกัดแต่ไปเข้าทาง อเดบายอร์ ล็อกบอลเข้าซ้ายแล้วยิงเสียบมุมเสาสองอย่างเด็ดขาด
หลังจากตกเป็นรอง สาลิกาดง ก็พยายามเปิดเกมรุกเข้าใส่มากขึ้น แต่ก็ถูกปืนใหญ่สวนกลับมาเป็นพักๆ นาทีที่ 70 กลิชี่ เติมขึ้นมาถึงเส้นเขตโทษด้านซ้ายก่อนตบบอลแฉลบหนึ่งจังหวะไปเข้าทาง เอดูอาร์โด ได้ง้างเท้าซัดแถวจุดโทษ แต่ เคลาดิโอ คาซาปา ยังไวปราดเข้ามาบล็อกบอลข้ามคานได้ทันเวลา
กระทั่งนาทีที่ 84 เจ้าถิ่นก็มาเจาะประตู 2-0 ได้สำเร็จจากความสามารถเฉพาะตัวของ อเดบายอร์ ที่เลื้อยหนี ดาวิด โรเซห์นาล ตัวสำรองของทีมเยือนและ คาซาปา เข้าไปในเขตโทษก่อนเข่นด้วยขวาผ่าน กิฟเว่น แม้ เทย์เลอร์ จะพยายามล้มตัวขวางหน้าประตู แต่ก็เอาไม่อยู่ ลูกทะลักเข้าปะทะตาข่าย เท่านั้นไม่พอ นิคกี้ บัตต์ ก็มาโหม่งสกัดลูกเปิดของ เชส ฟาเบรกาส ผิดเหลี่ยมเข้าประตูตัวเองในอีก 5 นาทีต่อมา
จบเกม อาร์เซนอล เป็นฝ่ายชนะ นิวคาสเซิล 3-0 ผ่านเข้าสู่รอบ 5 เอฟเอ คัพ ได้สำเร็จ ส่วนผลอีกคู่หนึ่ง ลิเวอร์พูล พลิกจากที่ตามหลัง ฮาแวนต์ แอนด์ วอเตอร์ลูวิลล์ ก่อนถึง 2 ครั้งกลับมาถล่ม 5-2 ลอยลำเข้ารอบไปอีกทีมโดยที่ ยอสซี่ เบนายูน กดแฮตทริกหนที่ 2 ในสีเสื้อหงส์แดง
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
อาร์เซนอล – เยนส์ เลห์มันน์, จัสติน ฮอยท์, ฟิลิปป์ เซนเดอรอส, วิลเลียม กัลลาส, กาแอล กลิชี่, อาบู ดิยาบี้, มาติเยอ ฟลามินี่, เชส ฟาเบรกาส, โทมัส โรซิคกี้, ธีโอ วัลค็อตต์, เอ็มมานูเอล อเดบายอร์
นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด – เชย์ กิฟเว่น, สตีเฟ่น คาร์, สตีเว่น เทย์เลอร์, เคลาดิโอ คาซาปา, โฮเซ่ เอ็นริเก้, เจมส์ มิลเนอร์, นิคกี้ บัตต์, ชาร์ลส เอ็นซ็อกเบีย, เดเมียน ดัฟฟ์, อลัน สมิธ, ไมเคิล โอเว่น
ผลฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบ 4
แมนสฟิลด์ ทาวน์ แพ้ มิดเดิลสโบรช์ 0-2
อาร์เซนอล ชนะ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 3-0
บาร์เน็ต แพ้ บริสตอล โรเวอร์ส 0-1
โคเวนทรี ซิตี้ ชนะ มิลล์วอลล์ 2-1
ดาร์บี้ เคาน์ตี้ แพ้ เปรสตัน นอร์ธ เอนด์ 1-4
ลิเวอร์พูล ชนะ ฮาแวนต์ แอนด์ วอเตอร์ลูวิลล์ 5-2
โอลด์แฮม แอธเลติก แพ้ ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ 0-1
ปีเตอร์โบโร่ ยูไนเต็ด แพ้ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน 0-3
ปอร์ทสมัธ ชนะ พลีมัธ อาร์ไกล์ 2-1
เซาธ์แฮมป์ตัน ชนะ บิวรี่ 2-0
วัตฟอร์ด แพ้ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส 1-4
วีแกน แอธเลติก แพ้ เชลซี 1-2
ฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบ 4 วันเสาร์ที่ 26 มกราคม 2551
อาร์เซนอล 3 – 0 นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด
ศึกฟุตบอลถ้วยอันศักดิ์สิทธิ์ของเมืองผู้ดี รอบ 4 อาร์เซนอล เปิดสนามเอมิเรตส์ สตเดี้ยม รับการมาเยือนของทีมจากพรีเมียร์ชิปด้วยกันอย่าง นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด เกมนี้เจ้าบ้านให้โอกาส เยนส์ เลห์มันน์ ลงเฝ้าเสา ขณะที่ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ที่เพิ่งก่อเรื่องฟาดปากกับเพื่อนร่วมทีมยังได้ลงเป็นหัวหอกตัวจริง ขณะที่คู่กรณีอย่าง นิคลาสเบนด์ทเนอร์ เป็นตัวสำรอง
ด้าน เควิน คีแกน กุนซืออาคันตุกะได้รับข่าวดีบ้าง เมื่อ นิคกี้ บัตต์ กับ อลัน สมิธ พ้นโทษแบนกลับมาลงสนามได้อีกครั้ง ทำให้ “สมัดเจอร์” ถูกจับยืนเป็นศูนย์หน้าคู่กับ ไมเคิล โอเว่น ส่วน ชาร์ลส เอ็นซ็อกเบีย ยังต้องหุบเข้าไปเล่นมิดฟิลด์ตัวกลาง โดยให้ เดเมียน ดัฟฟ์ รับหน้าที่เลื้อยทางกราบซ้าย
เริ่มเกมมาได้แค่ 9 นาที โทมัส โรซิคกี้ แกนรุกชาวเช็กของปืนใหญ่ก็มีอาการบาดเจ็บกำเริบขึ้นมา ทำให้ อาร์แซน เวนเกอร์ ต้องใช้โควตาเปลี่ยนตัวครั้งแรกอย่างรวดเร็วด้วยการส่ง เอดูอาร์โด ดา ซิลวา ลงมาเล่นแทน
จากนั้นนาทีที่ 14 แฟนบอลสาลิกาดงเกือบได้เฮก่อนเจ้าถิ่น เมื่อ เอ็นซ็อกเบีย เปิดลูกเตะมุมยัดมาที่เสาแรก บอลหลุดไปถึง สมิธ ตวัดยิงด้วยซ้ายแถวจุดโทษ บอลเกือบจะเข้าประตูอยู่แล้ว แต่ กาแอล กลิชี่ ที่ยืนคุมเส้นอยู่โหม่งทิ้งออกไปได้อย่างหวุดหวิด ก่อนที่นาทีถัดมา สตีเฟ่น คาร์ จะเติมขึ้นมาถึงเส้นหลังแล้วผ่านให้ โอเว่น เข้าชาร์จ ทว่าโดนไม่เต็มเท้าลูกจึงไหลผ่านหน้าประตูออกไป
อาร์เซนอล พยายามขึ้นเกมสร้างโอกาสเข้าทำบ้าง นาทีที่ 17 กลิชี่ เติมขึ้นมาถึงมุมเขตโทษด้านซ้ายก่อนลองสับไกด้วยขวาถูก เชย์ กิฟเว่น ทุบออกมาได้ ดิยาบี้ ได้ซัดอีกทีในจังหวะต่อมา แต่ก็ไม่เข้ากรอบ 6 นาทีให้หลัง บัตต์ ปั๊มบอลกับ อาบู ดิยาบี้ จนลูกลอยโด่ง สตีเว่น เทย์เลอร์ กะบอลตกผิดจังหวะทำให้ เอดูอาร์โด ได้ซัดเน้นๆ แต่ กิฟเว่น ยังซูเปอร์เซฟอย่างยอดเยี่ยม
เข้าสู่นาทีที่ 29 นิวคาสเซิล เกือบได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะที่ ดัฟฟ์ เก็บตกได้แถวหน้าเขตโทษแล้วใช้เข่าดีดบอลข้ามแผงหลังเดอะ กันเนอร์ส ให้ สตีเว่น เทย์เลอร์ ที่สอดขึ้นมาโถมตัวโหม่งในเขตโทษแต่บอลย้อยไปตกบนหลังคา จนกระทั่งผ่านมาถึงช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก ดิยาบี้ ก็ลองปั่นโค้งจากนอกกรอบ บอลทำท่าจะมุดใต้คาน ทว่า กิฟเว่น ยังไม่พลาดสปริงตัวปัดออกไปได้ จบ 45 นาทีแรกยังเสมออยู่ 0-0
กลับมาเล่นต่อในครึ่งหลังได้เพียง 5 นาที อาร์เซนอล สามารถขยับสกอร์บอร์ดให้เป็น 1-0 ได้ก่อนจากการต่อบอลตั้งแต่กลางสนามมาจนถึง เอดูอาร์โด ที่สบโอกาสซัดจากหน้าเขตโทษ ลูกพุ่งไปชนเสาในจังหวะแรก เทย์เลอร์ พยายามสกัดแต่ไปเข้าทาง อเดบายอร์ ล็อกบอลเข้าซ้ายแล้วยิงเสียบมุมเสาสองอย่างเด็ดขาด
หลังจากตกเป็นรอง สาลิกาดง ก็พยายามเปิดเกมรุกเข้าใส่มากขึ้น แต่ก็ถูกปืนใหญ่สวนกลับมาเป็นพักๆ นาทีที่ 70 กลิชี่ เติมขึ้นมาถึงเส้นเขตโทษด้านซ้ายก่อนตบบอลแฉลบหนึ่งจังหวะไปเข้าทาง เอดูอาร์โด ได้ง้างเท้าซัดแถวจุดโทษ แต่ เคลาดิโอ คาซาปา ยังไวปราดเข้ามาบล็อกบอลข้ามคานได้ทันเวลา
กระทั่งนาทีที่ 84 เจ้าถิ่นก็มาเจาะประตู 2-0 ได้สำเร็จจากความสามารถเฉพาะตัวของ อเดบายอร์ ที่เลื้อยหนี ดาวิด โรเซห์นาล ตัวสำรองของทีมเยือนและ คาซาปา เข้าไปในเขตโทษก่อนเข่นด้วยขวาผ่าน กิฟเว่น แม้ เทย์เลอร์ จะพยายามล้มตัวขวางหน้าประตู แต่ก็เอาไม่อยู่ ลูกทะลักเข้าปะทะตาข่าย เท่านั้นไม่พอ นิคกี้ บัตต์ ก็มาโหม่งสกัดลูกเปิดของ เชส ฟาเบรกาส ผิดเหลี่ยมเข้าประตูตัวเองในอีก 5 นาทีต่อมา
จบเกม อาร์เซนอล เป็นฝ่ายชนะ นิวคาสเซิล 3-0 ผ่านเข้าสู่รอบ 5 เอฟเอ คัพ ได้สำเร็จ ส่วนผลอีกคู่หนึ่ง ลิเวอร์พูล พลิกจากที่ตามหลัง ฮาแวนต์ แอนด์ วอเตอร์ลูวิลล์ ก่อนถึง 2 ครั้งกลับมาถล่ม 5-2 ลอยลำเข้ารอบไปอีกทีมโดยที่ ยอสซี่ เบนายูน กดแฮตทริกหนที่ 2 ในสีเสื้อหงส์แดง
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
อาร์เซนอล – เยนส์ เลห์มันน์, จัสติน ฮอยท์, ฟิลิปป์ เซนเดอรอส, วิลเลียม กัลลาส, กาแอล กลิชี่, อาบู ดิยาบี้, มาติเยอ ฟลามินี่, เชส ฟาเบรกาส, โทมัส โรซิคกี้, ธีโอ วัลค็อตต์, เอ็มมานูเอล อเดบายอร์
นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด – เชย์ กิฟเว่น, สตีเฟ่น คาร์, สตีเว่น เทย์เลอร์, เคลาดิโอ คาซาปา, โฮเซ่ เอ็นริเก้, เจมส์ มิลเนอร์, นิคกี้ บัตต์, ชาร์ลส เอ็นซ็อกเบีย, เดเมียน ดัฟฟ์, อลัน สมิธ, ไมเคิล โอเว่น
ผลฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบ 4
แมนสฟิลด์ ทาวน์ แพ้ มิดเดิลสโบรช์ 0-2
อาร์เซนอล ชนะ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 3-0
บาร์เน็ต แพ้ บริสตอล โรเวอร์ส 0-1
โคเวนทรี ซิตี้ ชนะ มิลล์วอลล์ 2-1
ดาร์บี้ เคาน์ตี้ แพ้ เปรสตัน นอร์ธ เอนด์ 1-4
ลิเวอร์พูล ชนะ ฮาแวนต์ แอนด์ วอเตอร์ลูวิลล์ 5-2
โอลด์แฮม แอธเลติก แพ้ ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ 0-1
ปีเตอร์โบโร่ ยูไนเต็ด แพ้ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน 0-3
ปอร์ทสมัธ ชนะ พลีมัธ อาร์ไกล์ 2-1
เซาธ์แฮมป์ตัน ชนะ บิวรี่ 2-0
วัตฟอร์ด แพ้ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส 1-4
วีแกน แอธเลติก แพ้ เชลซี 1-2
