xs
xsm
sm
md
lg

"โรนัลโด" นิว จอร์จ เบสต์ ตัวจริง?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ครั้งตบเท้าสู่ถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เมื่อปี 2003 คริสเตียโน โรนัลโด ถูกมองว่าเป็นแค่นักเตะธรรมดาที่เล่นไม่เข้าระบบมักจะฉายเดี่ยวจนทำบอลเสียบ่อยครั้ง รวมถึงเกือบย้ายจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในปี 2006 หลังอุบัติเหตุในฟุตบอลโลก แต่เวลานี้ปีกทีมชาติโปรตุเกส กำลังไต่ระดับเพื่อก้าวสู่คำว่าแข้งหมายเลข 1 ของโลก

ปีแล้วปีเล่าในสีเสื้อ แมนฯยู โรนัลโด ยกระดับฝีเท้าและพัฒนาตัวเองอย่างน่ากลัว โดยเฉพาะการยิงประตูที่โดดเด่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัดจากปีแรกที่ยิงได้ 6 ประตูเท่านั้น เมื่อกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมาก็เพิ่งทำแฮตทริกแรกในเกมถล่ม นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 6-0 ส่งผลให้ปีนี้ผ่านไปแค่ครึ่งฤดูกาลเท่านั้นซัดไปแล้ว 23 ประตูเท่ากับเมื่อปีที่แล้ว ทำให้ถูกคาดหมายว่าจะทุบสถิติ จอร์จ เบสต์ ตำนานเบอร์ 7 ของ "ผีแดง" ที่ทำเอาไว้ 32 ประตูในฤดูกาลเดียว

อย่างไรก็ตามเจ้าตัวดูจะไม่ค่อยกังวลกับตัวเลขหรือสถิติพวกนี้นัก "ผมไม่เคยคิดเลยว่าตนเองจะได้ยิงได้ 23 ประตูตั้งแต่เดือนมกราคม แต่ทีมกำลังเล่นได้ดีและเพื่อนร่วมทีมก็สร้างโอกาสให้ผมเข้าไปจบสกอร์ เยี่ยมมากที่ถูกยกไปเทียบกับ เบสต์ เพราะสำหรับผมเขาคือผู้เล่นที่ดีที่สุดเลยก็ว่าได้"

กับระยะทางที่เหลืออยู่ของฤดูกาลนี้ก็มีความเป็นไปได้สูงที่ โรนัลโด จะซัดเกิน 32 ประตู แต่เหนืออื่นใดคือความสำเร็จของทีมมากกว่า "หากทำได้ผมก็พอใจ แต่จริงๆ แล้วผมไม่สนใจเลย สิ่งสำคัญที่สุดคือชัยชนะของทีมที่จะนำไปสู่การคว้าแชมป์ ปีที่แล้วผมยิงรวม 23 ประตู ปีนี้ผมต้องการยิงมากกว่าเดิมและทำผลงานให้ดีที่สุดพัฒนาขึ้นไปทุกปีๆ"

ที่ผ่านมามีนักเตะ แมนฯยู หลายคนที่มีลีลาการพริ้วไหวในสนามคล้ายกับ เบสต์ ไม่ว่าจะเป็น ลี ชาร์ป หรือ ไรอัน กิ๊กส์ รวมถึงพวกที่ได้สวมเสื้อเบอร์ 7 ทั้ง ไบรอัน ร็อบสัน, เอริค คันโตนา และ เดวิด เบ็คแฮม แต่ไม่มีใครที่เข้าใกล้ตำนานที่มาจากไอร์แลนด์เหนือ ที่ปัจจุบันเสียชีวิตไปแล้วด้วยวัย 59 ปี เลยแม้สักคนเดียว

โรนัลโด น่าจะเป็นคนที่เข้าใกล้ เบสต์ มากที่สุดทั้งการลากเลื้อยสนาม ไม่เว้นแม้แต่ชีวิตเพลย์บอยยามถอดยูนิฟอร์ม "ผีแดง" ที่ระยะหลังๆ "หนูโด้" เริ่มมีข่าวออกมาไม่เว้นแต่ละวัน ล่าสุดเปลี่ยนคู่ควงเป็นคนที่ 4 คือ คาโรลินา ปาโตรซินิโอ พิธีกรรายการ “Disney Kids” ในโปรตุเกส บ้านเกิดของเขาเอง ต่อจาก เมอร์เช โรเมโร พรีเซ็นเตอร์ทีวีอันดอร์รา, เจมมา แอตกินสัน ดาราสาวจากละคร “Hollyoaks” และ ลูเซียนา อบรู สาวอีกคนจากรายการเด็กของโปรตุเกส เช่นเดียวกัน

แต่ที่ฉาวที่สุดคงจะเป็นการที่แอบ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือจอมเฮี้ยบของ แมนฯยู บินไปถึงกรุงโรม ประเทศอิตาลี เพื่อที่จะเสพสุขกับหญิงขายบริการ หลังเกม เอฟเอ คัพ รอบ 3 ที่เอาชนะ แอสตัน วิลลา เมื่อวันที่ 6 มกราคมที่ผ่านมา แถม "เดอะ ซัน" สื่อของแสบในเมืองผู้ดี ยังเหินฟ้าไปยังเมืองมะกะโรนี นำภาพสาวคนนั้นมาเผยแพร่อีกที่ดูยังไงก็ไม่สวยเลยแถมหุ้นเจ้าเนื้ออีกต่างหาก

ถึงกระนั้นก็ตามตราบใดที่ยังเจาะทำลายแนวรับคู่ต่อสู้เป็นว่าเล่นในสนาม ท่านเซอร์ คงไม่ว่าอะไรกับพฤติกรรมาเช่นนี้ ที่ผ่านมา โรนัลโด ก็พา แมนฯยู กวาดทุกแชมป์บนเกาะอังกฤษ หมดแล้ว ไล่ตั้งแต่ เอฟเอ คัพ, ลีก คัพ และเมื่อปีที่แล้ว พรีเมียร์ชิป เหลือก็แต่ ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ถ้วยเดียวเท่านั้น

ปีที่แล้ว โรนัลโด เกือบได้สัมผัสเจ้ายุโรปกับ แมนฯยูไนเต็ด แต่มีอันต้องเสียท่าให้กับ เอซี มิลาน ตกรอบรองชนะเลิศอย่างน่าเสียดาย ซึ่งทางด้าน "ปีศาจแดงดำ" ที่ขึ้นคว้าแชมป์ในบั้นปลายก็ส่งให้ กากา เพลย์เมกเกอร์หน้าหยกปาดหน้าซิวรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของยุโรปหรือ บัลลงดอร์ ไปด้วย แต่ปีนี้ "ผีแดง" กลับมาอีกครั้งพร้อมขุมกำลังที่แน่นขึ้น แถม ท่านเซอร์ ก็ดูจะเน้นถ้วยนี้เป็นพิเศษ

แต่มีตัวเลขที่เหลือเชื่อหาก โรนัลโด คว้าถ้วยยุโรปจะเป็นการคว้าแชมป์ด้วยวัย 22 ปี เท่ากับ เบสต์ อีกด้วย นอกจากนี้ยังจะเป็นการเล่นให้ แมนฯยู 5 ปี นับตั้งแต่ย้ายจาก สปอร์ติง ลิสบอน แล้วได้แชมป์ยุโรป เช่นเดียวกับ เบสต์ ที่เล่นนัดแรกเมื่อปี 1963 ก่อนคว้าแชมป์ในอีก 5 ปีถัดมาคือปี 1968 ที่สำคัญในปีนั้นเขาก็คว้ารางวัลบัลลงดอร์ มาประดับบารมีให้กับตัวเองอีกด้วย

จากนี้คำตอบทุกอย่างอยู่ที่ตัวของ โรนัลโด บวกกับปัจจัยหลายๆ อย่างว่าเขาจะเดินตามรอยรุ่นพี่ได้ทุกก้าวหรือไม่ทั้งในเรื่องของถ้วยแชมป์ ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก รวมถึงรางวัลบอลทอง แต่หากเป็นเช่นนั้นจริงๆ ปีนี้สาวก "เรด เดวิลส์" ก็คงจะชื่นมื่นกันถ้วนหน้า
เบสต์
กำลังโหลดความคิดเห็น