สโต๊ค ซิตี้ เปิดเกมแลกกับ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด อย่างสนุกตื่นเต้นในศึกฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบ 3 ก่อนจะเสมอกันไปแบบไม่มีสกอร์ 0-0 ทำให้ต้องไปเตะนัดรีเพลย์กันใหม่เป็นคู่ที่ 12 ของรอบนี้
ฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบ 3 วันอาทิตย์ที่ 6 มกราคม 2551
สโต๊ค ซิตี้ 0 – 0 นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด
ฟุตบอลถ้วยอันศักดิ์สิทธิ์ คู่สุดท้ายประจำรอบ 3 สโต๊ค ซิตี้ ลงเล่นในถิ่นบริทตาเนีย รับการมาเยือนของ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด นัดนี้ “ช่างปั้นหม้อ” จัดกองหน้าลงล่าตาข่ายถึง 3 รายด้วยกันประกอบด้วย ริชาร์ด เครสเวลล์, ริคาร์โด้ ฟูลเลอร์ และ มามาดี้ ซิดิเบ้
ด้าน แซม อัลลาไดซ์ กุนซือทีมเยือนที่กำลังตกอยู่ในภาวะกดดันอย่างหนักปรับเปลี่ยนทีมหลายตำแหน่งโดยแบ็กขวาใช้ ดาวิด โรเซห์นาล ลงทำหน้าที่พร้อมส่ง สตีเว่น เทย์เลอร์ ยืนเซนเตอร์ฮาล์ฟคู่กับ อับดูลาย ฟาย นอกจากนั้นยังให้ เดเมียน ดัฟฟ์ ลงลากเลื้อยทางกราบขวา ส่วนคู่หัวหอกเป็นหน้าที่ของ ไมเคิล โอเว่น กับ มาร์ค วิดูก้า
หลังเขี่ยลูกเริ่มเล่น ทั้งสองทีมต่างก็เปิดเกมแลกหมัดกันแต่ยังไม่มีจังหวะจบสกอร์เท่าที่ควร ต้องรอจนกระทั่งนาทีที่ 18 โดย ชาร์ลส เอ็นซ็อกเบีย พาบอลขึ้นมาทางกราบซ้ายก่อนจ่ายเข้าเขตโทษให้ มาร์ค วิดูก้า ม้วนหนี ลีออน คอร์ต แล้วหาจังหวะยิง แต่ สตีฟ ซิมอนเซ่น ล้มตัวดักไว้ได้ที่เสาแรก
5 นาทีต่อมา เลียม ลอว์เรนซ์ ได้โอกาสลุ้นให้เจ้าถิ่นจากการตะบันแถวเส้นเขตโทษด้านขวา ลูกพุ่งปะทะข้างตาข่าย จากนั้นนาทีที่ 25 นิคกี้ บัตต์ หยอดบอลจากกลางสนามไปข้างหน้า ไรอัน ชอว์ครอสส์ กะจังหวะบอลพลาดทำให้ลูกกระดอนหลุดไปถึง ไมเคิล โอเว่น แต่ ซิมอนเซ่น ยังออกมาปิดมุมไว้ได้ทัน
จากจังหวะสวนกลับถัดมาของช่างปั้นหม้อก็เกือบที่จะขยับสกอร์บอร์ดได้ก่อน เมื่อ ริคาร์โด้ ฟูลเลอร์ ได้บอลหลุดขึ้นมาทางกราบซ้าย ก่อนลากบอลเข้าไปซัดในเขตโทษ ทว่า อับดูลาย ฟาย ยังนิ่งยืนดักทางก่อนจะบล็อกลูกยิงออกหลังไป
เกมยังคงเปิดแลกกันอย่างต่อเนื่อง นาทีที่ 28 นิวคาสเซิล ลำเลียงบอลจากด้านขวาก่อนถ่ายต่อมาทางซ้ายซึ่ง โอเว่น ไหลออกไปให้ เอ็นซ็อกเบีย จัดแจงกระหน่ำเต็มข้อบลอพุ่งไปถูก ซิมอนเซ่น เซฟเอาไว้ได้
ช่วงท้ายครึ่งแรก ริชาร์ด เครสเวลล์ ได้โอกาสลุ้นแบบจะแจ้งในเขตโทษ แต่กลับยิงหลุดออกไปทางเสาสองอย่างน่าผิดหวัง จากนั้น ลอว์เรนซ์ ได้ซัดฟรีคิกนอกเขตโทษ แต่บอลก็พุ่งออกข้างเสาไป ทำให้หมด 45 นาทีแรกยังเสมอกันอยู่ที่ 0-0
กลับมาเล่นต่อในครึ่งหลังได้ 4 นาที นิคกี้ บัตต์ หาจังหวะยิงจากแถวสอง บอลเหินข้ามคานออกไป จนมาถึงนาทีที่ 55 นิวคาสเซิล ก็ใกล้เคียงกับการได้ประตูขึ้นนำ เมื่อ เอ็นซ็อกเบีย ปั่นฟรีคิกจากกราบซ้ายเข้ามา สตีเว่น เทย์เลอร์ พยายามเทกตัวขึ้นโหม่ง แต่ถูก ซิมอนเซ่น กดดันไว้ กระนั้นบอลยังไม่พ้นอันตราย ดัฟฟ์ ตวัดข้ามหัวเข้ามาตรงกลาง ทว่า โอเว่น กลับโหม่งหน้าประตูไม่โดนอย่างน่าเสียดาย
หลังจากนั้นเกมกลับมาเป็นของ สโต๊ค บ้าง นาทีที่ 66 สาลิกาดง รอดพ้นจากการเสียประตูอย่างเหลือเชื่อจากจังหวะที่ ฟูลเลอร์ ฉกบอลตัดหน้า เชย์ กิฟเว่น ได้จนหลุดไปถึงเส้นหลังแล้วเปิดย้อนมาให้ จอน พาร์กิน หัวหอกร่างยักษ์ที่เพิ่งลงมาแทน มามาดี้ ซิดิเบ้ ยิงโล่งๆ แต่ถูก สตีเว่น เทย์เลอร์ บล็อกบนเส้นประตู เอาไว้ได้อย่างหวุดหวิด
ช่างปั้นหม้อเริ่มกลับมาเป็นฝ่ายได้ใจ นาทีที่ 75 ฟูลเลอร์ โยกหาช่องสับไกหน้าเขตโทษสาลิกาดง บอลไปแฉลบ เทย์เลอร์ ที่ยืนขวางอยู่เปลี่ยนทางหนีมือ กิฟเว่น จนเกือบเข้าประตู แต่ลูกยังหลุดเสาสองออกไปเพียงนิดเดียว จนกระทั่งช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ทีมเยือนก็เกือบได้ประตูชัยโดย เอ็นซ็อกเบีย พาบอลเข้าเขตโทษก่อนผ่านไปที่เสาสองให้ แอนดรูว์ คาร์โรลล์ กองหน้าดาวรุ่งที่ลงมาแทน วิดูก้า เข้าชาร์จแต่บอลไปชนเสาอย่างน่าเสียดาย จบเกม สโต๊ค จึงเสมอกับ นิวคาสเซิล ไป 0-0 ต้องไปเตะนัดรีเพลย์กันใหม่เป็นคู่ที่ 12 ของรอบ 3
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
สโต๊ค ซิตี้ – สตีฟ ซิมอนเซ่น, คาร์ล ดิ๊กกินสัน, ลีออน คอร์ต, ไรอัน ชอว์ครอสส์, แดนนี่ พิวจ์, แอนดี้ วิลกินสัน, จอห์น ยูสเทซ, เลียม ลอว์เรนซ์, ริชาร์ด เครสเวลล์, ริคาร์โด้ ฟูลเลอร์, มามาดี้ ซิดิเบ้
นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด – เชย์ กิฟเว่น, ดาวิด โรเซห์นาล, สตีเว่น เทย์เลอร์, อับดูลาย ฟาย, โฮเซ่ เอ็นริเก้, เดมียน ดัฟฟ์, อลัน สมิธ, นิคกี้ บัตต์, ชาร์ลส เอ็นซ็อกเบีย, มาร์ค วิดูก้า, ไมเคิล โอเว่น
ผลฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบ 3
เบิร์นลีย์ แพ้ อาร์เซนอล 0-2
ดาร์บี้ เคาน์ตี้ เสมอ เชฟฟิลด์ เวนส์เดย์ 2-2
ฟูแล่ม เสมอ บริสตอล โรเวอร์ส 2-2
ลูตัน ทาวน์ เสมอ ลิเวอร์พูล 1-1
สโต๊ค ซิตี้ เสมอ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 0-0
ฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบ 3 วันอาทิตย์ที่ 6 มกราคม 2551
สโต๊ค ซิตี้ 0 – 0 นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด
ฟุตบอลถ้วยอันศักดิ์สิทธิ์ คู่สุดท้ายประจำรอบ 3 สโต๊ค ซิตี้ ลงเล่นในถิ่นบริทตาเนีย รับการมาเยือนของ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด นัดนี้ “ช่างปั้นหม้อ” จัดกองหน้าลงล่าตาข่ายถึง 3 รายด้วยกันประกอบด้วย ริชาร์ด เครสเวลล์, ริคาร์โด้ ฟูลเลอร์ และ มามาดี้ ซิดิเบ้
ด้าน แซม อัลลาไดซ์ กุนซือทีมเยือนที่กำลังตกอยู่ในภาวะกดดันอย่างหนักปรับเปลี่ยนทีมหลายตำแหน่งโดยแบ็กขวาใช้ ดาวิด โรเซห์นาล ลงทำหน้าที่พร้อมส่ง สตีเว่น เทย์เลอร์ ยืนเซนเตอร์ฮาล์ฟคู่กับ อับดูลาย ฟาย นอกจากนั้นยังให้ เดเมียน ดัฟฟ์ ลงลากเลื้อยทางกราบขวา ส่วนคู่หัวหอกเป็นหน้าที่ของ ไมเคิล โอเว่น กับ มาร์ค วิดูก้า
หลังเขี่ยลูกเริ่มเล่น ทั้งสองทีมต่างก็เปิดเกมแลกหมัดกันแต่ยังไม่มีจังหวะจบสกอร์เท่าที่ควร ต้องรอจนกระทั่งนาทีที่ 18 โดย ชาร์ลส เอ็นซ็อกเบีย พาบอลขึ้นมาทางกราบซ้ายก่อนจ่ายเข้าเขตโทษให้ มาร์ค วิดูก้า ม้วนหนี ลีออน คอร์ต แล้วหาจังหวะยิง แต่ สตีฟ ซิมอนเซ่น ล้มตัวดักไว้ได้ที่เสาแรก
5 นาทีต่อมา เลียม ลอว์เรนซ์ ได้โอกาสลุ้นให้เจ้าถิ่นจากการตะบันแถวเส้นเขตโทษด้านขวา ลูกพุ่งปะทะข้างตาข่าย จากนั้นนาทีที่ 25 นิคกี้ บัตต์ หยอดบอลจากกลางสนามไปข้างหน้า ไรอัน ชอว์ครอสส์ กะจังหวะบอลพลาดทำให้ลูกกระดอนหลุดไปถึง ไมเคิล โอเว่น แต่ ซิมอนเซ่น ยังออกมาปิดมุมไว้ได้ทัน
จากจังหวะสวนกลับถัดมาของช่างปั้นหม้อก็เกือบที่จะขยับสกอร์บอร์ดได้ก่อน เมื่อ ริคาร์โด้ ฟูลเลอร์ ได้บอลหลุดขึ้นมาทางกราบซ้าย ก่อนลากบอลเข้าไปซัดในเขตโทษ ทว่า อับดูลาย ฟาย ยังนิ่งยืนดักทางก่อนจะบล็อกลูกยิงออกหลังไป
เกมยังคงเปิดแลกกันอย่างต่อเนื่อง นาทีที่ 28 นิวคาสเซิล ลำเลียงบอลจากด้านขวาก่อนถ่ายต่อมาทางซ้ายซึ่ง โอเว่น ไหลออกไปให้ เอ็นซ็อกเบีย จัดแจงกระหน่ำเต็มข้อบลอพุ่งไปถูก ซิมอนเซ่น เซฟเอาไว้ได้
ช่วงท้ายครึ่งแรก ริชาร์ด เครสเวลล์ ได้โอกาสลุ้นแบบจะแจ้งในเขตโทษ แต่กลับยิงหลุดออกไปทางเสาสองอย่างน่าผิดหวัง จากนั้น ลอว์เรนซ์ ได้ซัดฟรีคิกนอกเขตโทษ แต่บอลก็พุ่งออกข้างเสาไป ทำให้หมด 45 นาทีแรกยังเสมอกันอยู่ที่ 0-0
กลับมาเล่นต่อในครึ่งหลังได้ 4 นาที นิคกี้ บัตต์ หาจังหวะยิงจากแถวสอง บอลเหินข้ามคานออกไป จนมาถึงนาทีที่ 55 นิวคาสเซิล ก็ใกล้เคียงกับการได้ประตูขึ้นนำ เมื่อ เอ็นซ็อกเบีย ปั่นฟรีคิกจากกราบซ้ายเข้ามา สตีเว่น เทย์เลอร์ พยายามเทกตัวขึ้นโหม่ง แต่ถูก ซิมอนเซ่น กดดันไว้ กระนั้นบอลยังไม่พ้นอันตราย ดัฟฟ์ ตวัดข้ามหัวเข้ามาตรงกลาง ทว่า โอเว่น กลับโหม่งหน้าประตูไม่โดนอย่างน่าเสียดาย
หลังจากนั้นเกมกลับมาเป็นของ สโต๊ค บ้าง นาทีที่ 66 สาลิกาดง รอดพ้นจากการเสียประตูอย่างเหลือเชื่อจากจังหวะที่ ฟูลเลอร์ ฉกบอลตัดหน้า เชย์ กิฟเว่น ได้จนหลุดไปถึงเส้นหลังแล้วเปิดย้อนมาให้ จอน พาร์กิน หัวหอกร่างยักษ์ที่เพิ่งลงมาแทน มามาดี้ ซิดิเบ้ ยิงโล่งๆ แต่ถูก สตีเว่น เทย์เลอร์ บล็อกบนเส้นประตู เอาไว้ได้อย่างหวุดหวิด
ช่างปั้นหม้อเริ่มกลับมาเป็นฝ่ายได้ใจ นาทีที่ 75 ฟูลเลอร์ โยกหาช่องสับไกหน้าเขตโทษสาลิกาดง บอลไปแฉลบ เทย์เลอร์ ที่ยืนขวางอยู่เปลี่ยนทางหนีมือ กิฟเว่น จนเกือบเข้าประตู แต่ลูกยังหลุดเสาสองออกไปเพียงนิดเดียว จนกระทั่งช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ทีมเยือนก็เกือบได้ประตูชัยโดย เอ็นซ็อกเบีย พาบอลเข้าเขตโทษก่อนผ่านไปที่เสาสองให้ แอนดรูว์ คาร์โรลล์ กองหน้าดาวรุ่งที่ลงมาแทน วิดูก้า เข้าชาร์จแต่บอลไปชนเสาอย่างน่าเสียดาย จบเกม สโต๊ค จึงเสมอกับ นิวคาสเซิล ไป 0-0 ต้องไปเตะนัดรีเพลย์กันใหม่เป็นคู่ที่ 12 ของรอบ 3
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
สโต๊ค ซิตี้ – สตีฟ ซิมอนเซ่น, คาร์ล ดิ๊กกินสัน, ลีออน คอร์ต, ไรอัน ชอว์ครอสส์, แดนนี่ พิวจ์, แอนดี้ วิลกินสัน, จอห์น ยูสเทซ, เลียม ลอว์เรนซ์, ริชาร์ด เครสเวลล์, ริคาร์โด้ ฟูลเลอร์, มามาดี้ ซิดิเบ้
นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด – เชย์ กิฟเว่น, ดาวิด โรเซห์นาล, สตีเว่น เทย์เลอร์, อับดูลาย ฟาย, โฮเซ่ เอ็นริเก้, เดมียน ดัฟฟ์, อลัน สมิธ, นิคกี้ บัตต์, ชาร์ลส เอ็นซ็อกเบีย, มาร์ค วิดูก้า, ไมเคิล โอเว่น
ผลฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบ 3
เบิร์นลีย์ แพ้ อาร์เซนอล 0-2
ดาร์บี้ เคาน์ตี้ เสมอ เชฟฟิลด์ เวนส์เดย์ 2-2
ฟูแล่ม เสมอ บริสตอล โรเวอร์ส 2-2
ลูตัน ทาวน์ เสมอ ลิเวอร์พูล 1-1
สโต๊ค ซิตี้ เสมอ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 0-0
