ธรรมกายแถลงการณ์ไม่ได้ให้ความช่วยเหลืออดีตพระพรหมเมธีในการหลบหนี หลังทุกฝ่ายเล็งไปที่วัดแห่งนี้ เหตุจากความสัมพันธ์ที่ดีที่มีต่อกัน พบอีกหนึ่งลูกศิษย์ที่มีบทบาทสูง Bush Cze หรือท้าวบัวลี่ ทะนงฤทธิ์ ชาวลาวสัญชาติสหรัฐอเมริกา ผู้ประสานงาน UN ด้านสิทธิมนุษยชนและสมาชิกพรรครีพับลิกัน ทรงอิทธิพลทั้งในลาวและสหรัฐ เคยออกโรงปกป้องวัดพระธรรมกายมาแล้ว แถมเคยออกงานกับคนตระกูลชินวัตร
ปฎิบัติการควานหาตัวพระจำนงค์ เอี่ยมอินทรา หรืออดีตพระพรหมเมธี อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศาราม ผู้ต้องหาคดีทุจริตเงินทอนวัด พระผู้ใหญ่เพียงรูปเดียวที่หลุดรอดการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจไปได้ ที่เริ่มจากประเทศไทยไปยังประเทศลาว เข้ากัมพูชา ขึ้นเครื่องบินไปแวะที่เวียดนามและต่อไปยังประเทศเยอรมัน
แม้ทางการไทยจะทำการยกเลิกพาสปอร์ตเล่มน้ำเงินของอดีตพระพรหมเมธี จนไม่สามารถเข้าเยอรมันได้ จนพลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางไปเยอรมันหวังว่าจะรับตัวพระจำนงกลับมาดำเนินคดี แต่สุดท้ายทางการเยอรมันก็ไม่อนุญาต
ความชัดเจนในการหลบหนีมีเพียงจากไทยไปประเทศลาวนั้น พบว่ามีลูกศิษย์คือ สีกา จ. หรือนางศศิร์อร เจียมวิจิตรกุล และหญิงสาวชาวลาวหรือนางจันตะนา รัตนวงศ์ ให้ความช่วยเหลือ ซึ่งศาลจังหวัดนครพนมได้ออกหมายจับเมื่อ 7 มิถุนายน 2561 เมื่อพ้นจากประเทศลาวแล้วไม่มีรายละเอียดผู้ที่ให้ความช่วยเหลือ
พระพรหมเมธีสัมพันธ์แน่นธรรมกาย
แหล่งข่าวจากวงการพุทธศาสนากล่าวว่า การที่อดีตพระพรหมเมธีสามารถเดินทางหลบหนีการจับกุมจนเดินทางออกไปต่างประเทศได้นั้น ต้องมีคนช่วยเหลือ อย่างที่ลาวนั้นชัดเจนว่ามีทั้งลูกศิษย์จากฝั่งไทยและลาวให้ความช่วยเหลือ แถมลูกศิษย์ฝั่งไทยมีกิจการเหมืองแร่ในประเทศลาวอีกด้วย
จะเห็นได้ว่าช่วงที่ตำรวจไทยเข้าไปในลาว ก็ถูกเจ้าหน้าที่ลาวควบคุมตัวตำรวจของไทยไว้ จนมีการต่อรองแลกตัวประกันระหว่างชาวลาวที่ถูกควบคุมตัวไว้ในฝั่งไทย แสดงว่าลูกศิษย์ของอดีตพระพรหมเมธีมีเพาเวอร์ในประเทศลาวไม่น้อย และทางการไทยเพิ่งออกหมายจับเมื่อ 7 มิถุนายน 2561
นาทีนี้เครือข่ายที่มีศักยภาพพอที่จะช่วยเหลืออดีตพระพรหมเมธีได้ มีทั้งลูกศิษย์ของตัวท่านเองและเครือข่ายที่ท่านได้ผูกมิตรไว้กับวัดพระธรรมกาย ซึ่งวัดแห่งนี้ได้มีการขยายฐานผู้ศรัทธาไปยังทั้งที่ประเทศลาวและกัมพูชา
อีกทั้งอดีตพระพรหมเมธียังเคยร่วมงานกับวัดพระธรรมกายหลายครั้ง ทั้งการร่วมพิธีผูกสีมาประดิษฐานลูกโลกนิมิต ที่อุโบสถวัดพระธรรมกาย บาวาเรีย เยอรมันเมื่อ 22 พฤษภาคม 2558 ร่วมพิธีตอกเสาเข็มวัดพระธรรมกาย สิงคโปร์ เมื่อ 13 มิถุนายน 2558 ร่วมโครงการเด็กดีวีสตาร์กับวัดพระธรรมกาย ในเดือนธันวาคม 2557 หรือกิจกรรมอื่นทั้งเรื่องจัดสอบนักธรรมบาลี รวมทั้งยังสนับสนุนกิจกรรมธุดงค์ธรรมยาตราของธรรมกายมาอย่างต่อเนื่อง
นับว่าอดีตพระพรหมเมธี อดีตกรรมการมหาเถรสมาคม เป็นพระผู้ใหญ่ที่ร่วมกิจกรรมกับวัดพระธรรมกายมากกว่ากรรมการมหาเถรสมาคมท่านอื่น ๆ อีกทั้งท่านยังเป็นพระสายธรรมยุต ขณะที่ธรรมกายเป็นมหานิกาย จนถูกเรียกแบบประชดประชันว่าวัดสัมพันธวงศ์เป็นธรรมกายกลางกรุง
ธรรมกายปฏิเสธไม่เกี่ยว
ดังนั้นหลายฝ่ายจึงจับจ้องว่าการหลบหนีในครั้งนี้ อาจจะมีสายของวัดพระธรรมการคอยอำนวยความสะดวกให้ เพราะที่ผ่านมาอดีตพระพรหมเมธีให้ความเมตตากับวัดพระธรรมกายมากเป็นพิเศษ และที่เยอรมันมีสาขาของวัดพระธรรมกายอยู่ 8 แห่ง ไม่นับรวมสาขาของธรรมยุตอีก 6 แห่ง แถมยังมีวัดพระพุทธาราม เบอร์ลิน ที่มีพระโสภณพุทธิวิเทศ (จิตติก์ ญาณชโย) หรือเจ้าคุณเบอร์ลิน สายเดียวกันรวมอยู่ด้วย
อย่างไรก็ตาม 7 มิถุนายน 2561 วัดพระธรรมกายออกแถลงการณ์ ปฏิเสธข่าวการคาดการณ์ของสื่อมวลชน กรณีอดีตพระพรหมเมธีจะพำนัก ณ วัดสาขาในประเทศเยอรมนี ทั้งนี้เพราะไม่ทราบความเคลื่อนไหวและจุดประสงค์ของอดีตพระพรหมเมธี อีกทั้งไม่ได้มีการติดต่อประสานกันแต่อย่างใด และในขณะนี้ทั้งหน่วยงานราชการไทยที่รับผิดชอบในคดีและสื่อมวลชนต่าง ๆ ยังไม่มีโอกาสพบตัวท่านแต่อย่างใด ดังนั้นเรื่องราวที่นำเสนอทั้งหมดจึงเป็นเพียงข้อคิดเห็นและการคาดเดาของคนบางกลุ่มเท่านั้น
ศิษย์ลาว-ท้าวบัวลี่
สำหรับเส้นทางในยุโรป หากกล่าวถึงวัดไทยที่นั่นสาขาของวัดพระธรรมกายมีค่อนข้างมาก อีกทั้งท่านพระพรหมเมธีก็สนิทสนมกับวัดพระธรรมกาย แม้จะถูกยกเลิกพาสปอร์ตราชการ แต่อดีตพระพรหมเมธีก็ยื่นเรื่องขอลี้ภัยในทันที เอกสารต่าง ๆ ที่เป็นภาษาเยอรมันรวมทั้งการประสานงานกับเจ้าหน้าที่ที่นั่น ต้องมีผู้ที่เตรียมการไว้ให้ล่วงหน้าแล้ว
อีกหนึ่งบุคคลที่ถูกจับตามองว่าอาจมีส่วนช่วยเหลือสำหรับการเดินทางของอดีตพระพรหมเมธีในครั้งนี้ นั่นคือศิษย์ของวัดพระธรรมกาย ท้าวบัวลี่ ทะนงฤทธิ์ ชาวลาวสัญชาติสหรัฐอเมริกา หรือ Bush Cze โดยเขาได้ไลฟ์สดผ่านเฟสบุ๊กเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 7 มิถุนายน 2561
“วัดพระธรรมกายทันสมัยที่สุด ว่าด้วยเรื่องศาสนาพุทธวัดพระธรรมกายทันสมัยที่สุด ข้าพเจ้าเป็นที่ปรึกษาวัดพระธรรมกายตั้งแต่ปี 2005 จนปัจจุบันเป็นเวลา 13 ปี วัดพระธรรมกายในโลกนี้ต้องขึ้นกับข้องที่เป็นที่ปรึกษา”
ท้าวบัวลี่นับเป็นผู้หนึ่งในลูกศิษย์วัดพระธรรมกายที่ทรงอิทธิพลรายหนึ่งทั้งที่ประเทศลาวและสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีตำแหน่งเป็นผู้ประสานงานแห่งองค์การสหประชาชาติด้านสิทธิมนุษยชนและสมาชิกพรรครีพับลิกันตลอดชีพ(คณะกรรมการรีพับลิกันแห่งชาติ)
ท้าวบัวลี่มาร่วมพิธีบวชเณร 350 รูปที่วัดพระธรรมกายเมื่อ 9 เมษายน 2548 และยังคงศรัทธาในวัดพระธรรมกายเรื่องมา และยังเป็นผู้มอบใบประกาศเกียติคุณแต่พระเทพญาณมหานุมนี(พระธัมมชโย) ในวันคุ้มครองโลก ที่วัดพระธรรมกาย เมื่อ 22 เมษายน 2559
ขู่วัดไทยลาสเวกัส
นอกจากนี้ท้าวบัวลี่ยังเคยออกมาปกป้องพระธัมมชโยและวัดพระธรรมกาย ด้วยการทำจดหมายประท้วงพระมหานรินทร์ นรินโท เจ้าอาวาสวัดไทยลาสเวกัส เจ้าของเว็บไซต์ alittlebuddha เมื่อ 4 กรกฎาคม 2558 ข้อความตอนหนึ่งระบุว่า
“ประเทศนี้เป็นประเทศของพระเยซุ แต่ท่านเป็นพระในพระพุทธศาสนา เดินทางมาอาศัยประเทศพระเยซู แล้วถ้าประพฤติตัวไม่เรียบร้อย ทำตัวเป็นพระที่ไม่ดีไม่ได้ เที่ยวเกะกะเกเร ทำเว็บไซต์ด่าว่าพระผู้ใหญ่ วิจารณ์คณะสงฆ์ให้เสื่อมเสีย ดึงคณะสงฆ์ให้ตกต่ำ มัวหมอง พวกเราชาวพุทธพี่น้องชาวไทยลาวในประเทศนี้ จะไม่ใส่บาตรท่าน จะไม่ถวายปัจจัยสนับสนุนการทำงานของท่าน พวกเราจะพากันไปประท้วงท่านที่หน้าวัด ทำให้ท่านต้องมีปัญหาเดือดร้อนอย่างแน่นอน หวังว่าท่านคงเข้าใจและจักดำรงตนเป็นพระที่ดีต่อไป”
ร้อง UN ป้องพระธัมมชโย
รวมไปถึงการทำหนังสือต่อ Al Hussein หัวหน้าฝ่ายสิทธิมนุษยชนแห่งองค์กรสหประชาชาติ ต่อกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(DSI) พยายามที่จะออกหมายจับพระเทพญาณมหามุนีโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร
จากกรณีที่หน่วยสอบสวนพิเศษ ได้ออกหมายเรียกพระเทพญาณมหามุนีท่านเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ให้ไปพบตามข้อกล่าวหาคดีอาญาในวันนัดที่ 25 เมษายนพ.ศ.2559 ทั้ง ๆ ที่ท่านไม่ได้กระทำผิดใดใดดังที่ต้องสงสัย
ทั้งนี้ ท่านเจ้าอาวาสสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง เป็นโรคประจำตัว เจ็บป่วยมานาน คณะแพทย์ได้ลงความเห็นให้พักผ่อนและอยู่ในสภาวะที่ไม่ควรเดินทาง ด้วยเหตุผลดังกล่าวจึงได้ส่งทนายความผู้รับมอบอำนาจของพระเทพญาณมหามุนีไปยื่นหนังสือขอเลื่อนวันนัด โดยมีใบรับรองแพทย์ซึ่งมีลายเซ็นต์ของคณะแพทย์ 4 ท่าน ซึ่งทางหน่วย DSI ได้รับหนังสือร้องเรียนแล้วและยอมผ่อนปรนให้มีการเลื่อนนัดแต่ DSI ได้ดำเนินการอยู่เหนือกฎหมาย และพยายามที่จะออกหมายจับพระเทพญาณมหามุนีโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร
การแสดงออกของ DSI เช่นนี้เป็นที่ชัดเจนว่า ทางรัฐบาลใช้อำนาจที่ละเมิดสิทธิมนุษยชน และทำผิดจรรยาบรรณต่อพระเทพญาณมหามุนี
นี่เป็นปัญหาทางการเมือง กระผมจึงปรารถนาเป็นอย่างยิ่งที่จะร้องขออำนาจของท่าน เพื่อที่จะช่วยกระชับเสริมสร้างความแข็งแกร่งในเรื่องสิทธิมนุษยชนและความยุติธรรมให้แก่สังคม กระผมขอวิงวอนให้ท่านได้โปรดส่งเจ้าหน้าที่ขององค์การสหประชาชาติมายังวัดพระธรรมกาย จังหวัดปทุมธานี ประเทศไทย
กระผมได้ทำหนังสือส่งไปถึงสถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ส่งหนังสือถึงองค์การสหประชาชาติ ณ สำนักงานใหญ่ นครนิวยอร์ค และมีหนังสือถึงท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมแห่งประเทศไทย
ท้าวบัวลีนับว่าเป็นอีกหนึ่งลูกศิษย์ของวัดพระธรรมกายที่ทรงอิทธิพลในเครือข่ายที่สามารถเชื่อมต่อไปยังหน่วยงานระดับโลกได้ แม้จะย้ายถิ่นมาปักหลักที่สหรัฐอเมริกา แต่เครือข่ายในประเทศลาวก็นับว่ายังคงมีอิทธิพลสูง รวมทั้งบทบาทที่เคยทำงานด้านผู้อพยพจนเป็นผู้ประสานงานด้านสิทธิมนุษยชนแห่งองค์การสหประชาชาติ และยังสังกัดพรรคการเมืองรีพับลิกันที่วันนี้นายโดนัล ทรัมป์ ครองตำแหน่งประธานาธิบดีในสหรัฐ
ไม่เพียงเท่านั้นท้าวบัวลียังเคยเข้าพบกับเยาวเรศ ชินวัตรและทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทยในช่วง 2547 และ 2548 มาแล้ว ดังนั้นการออกแรงเพื่อให้ความช่วยเหลือพระผู้ใหญ่ ที่เคยสนับสนุนกิจกรรมของวัดพระธรรมกายมาโดยตลอดย่อมไม่ใช่เรื่องที่เหลือบ่ากว่าแรง
ปฎิบัติการควานหาตัวพระจำนงค์ เอี่ยมอินทรา หรืออดีตพระพรหมเมธี อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศาราม ผู้ต้องหาคดีทุจริตเงินทอนวัด พระผู้ใหญ่เพียงรูปเดียวที่หลุดรอดการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจไปได้ ที่เริ่มจากประเทศไทยไปยังประเทศลาว เข้ากัมพูชา ขึ้นเครื่องบินไปแวะที่เวียดนามและต่อไปยังประเทศเยอรมัน
แม้ทางการไทยจะทำการยกเลิกพาสปอร์ตเล่มน้ำเงินของอดีตพระพรหมเมธี จนไม่สามารถเข้าเยอรมันได้ จนพลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางไปเยอรมันหวังว่าจะรับตัวพระจำนงกลับมาดำเนินคดี แต่สุดท้ายทางการเยอรมันก็ไม่อนุญาต
ความชัดเจนในการหลบหนีมีเพียงจากไทยไปประเทศลาวนั้น พบว่ามีลูกศิษย์คือ สีกา จ. หรือนางศศิร์อร เจียมวิจิตรกุล และหญิงสาวชาวลาวหรือนางจันตะนา รัตนวงศ์ ให้ความช่วยเหลือ ซึ่งศาลจังหวัดนครพนมได้ออกหมายจับเมื่อ 7 มิถุนายน 2561 เมื่อพ้นจากประเทศลาวแล้วไม่มีรายละเอียดผู้ที่ให้ความช่วยเหลือ
พระพรหมเมธีสัมพันธ์แน่นธรรมกาย
แหล่งข่าวจากวงการพุทธศาสนากล่าวว่า การที่อดีตพระพรหมเมธีสามารถเดินทางหลบหนีการจับกุมจนเดินทางออกไปต่างประเทศได้นั้น ต้องมีคนช่วยเหลือ อย่างที่ลาวนั้นชัดเจนว่ามีทั้งลูกศิษย์จากฝั่งไทยและลาวให้ความช่วยเหลือ แถมลูกศิษย์ฝั่งไทยมีกิจการเหมืองแร่ในประเทศลาวอีกด้วย
จะเห็นได้ว่าช่วงที่ตำรวจไทยเข้าไปในลาว ก็ถูกเจ้าหน้าที่ลาวควบคุมตัวตำรวจของไทยไว้ จนมีการต่อรองแลกตัวประกันระหว่างชาวลาวที่ถูกควบคุมตัวไว้ในฝั่งไทย แสดงว่าลูกศิษย์ของอดีตพระพรหมเมธีมีเพาเวอร์ในประเทศลาวไม่น้อย และทางการไทยเพิ่งออกหมายจับเมื่อ 7 มิถุนายน 2561
นาทีนี้เครือข่ายที่มีศักยภาพพอที่จะช่วยเหลืออดีตพระพรหมเมธีได้ มีทั้งลูกศิษย์ของตัวท่านเองและเครือข่ายที่ท่านได้ผูกมิตรไว้กับวัดพระธรรมกาย ซึ่งวัดแห่งนี้ได้มีการขยายฐานผู้ศรัทธาไปยังทั้งที่ประเทศลาวและกัมพูชา
อีกทั้งอดีตพระพรหมเมธียังเคยร่วมงานกับวัดพระธรรมกายหลายครั้ง ทั้งการร่วมพิธีผูกสีมาประดิษฐานลูกโลกนิมิต ที่อุโบสถวัดพระธรรมกาย บาวาเรีย เยอรมันเมื่อ 22 พฤษภาคม 2558 ร่วมพิธีตอกเสาเข็มวัดพระธรรมกาย สิงคโปร์ เมื่อ 13 มิถุนายน 2558 ร่วมโครงการเด็กดีวีสตาร์กับวัดพระธรรมกาย ในเดือนธันวาคม 2557 หรือกิจกรรมอื่นทั้งเรื่องจัดสอบนักธรรมบาลี รวมทั้งยังสนับสนุนกิจกรรมธุดงค์ธรรมยาตราของธรรมกายมาอย่างต่อเนื่อง
นับว่าอดีตพระพรหมเมธี อดีตกรรมการมหาเถรสมาคม เป็นพระผู้ใหญ่ที่ร่วมกิจกรรมกับวัดพระธรรมกายมากกว่ากรรมการมหาเถรสมาคมท่านอื่น ๆ อีกทั้งท่านยังเป็นพระสายธรรมยุต ขณะที่ธรรมกายเป็นมหานิกาย จนถูกเรียกแบบประชดประชันว่าวัดสัมพันธวงศ์เป็นธรรมกายกลางกรุง
ธรรมกายปฏิเสธไม่เกี่ยว
ดังนั้นหลายฝ่ายจึงจับจ้องว่าการหลบหนีในครั้งนี้ อาจจะมีสายของวัดพระธรรมการคอยอำนวยความสะดวกให้ เพราะที่ผ่านมาอดีตพระพรหมเมธีให้ความเมตตากับวัดพระธรรมกายมากเป็นพิเศษ และที่เยอรมันมีสาขาของวัดพระธรรมกายอยู่ 8 แห่ง ไม่นับรวมสาขาของธรรมยุตอีก 6 แห่ง แถมยังมีวัดพระพุทธาราม เบอร์ลิน ที่มีพระโสภณพุทธิวิเทศ (จิตติก์ ญาณชโย) หรือเจ้าคุณเบอร์ลิน สายเดียวกันรวมอยู่ด้วย
อย่างไรก็ตาม 7 มิถุนายน 2561 วัดพระธรรมกายออกแถลงการณ์ ปฏิเสธข่าวการคาดการณ์ของสื่อมวลชน กรณีอดีตพระพรหมเมธีจะพำนัก ณ วัดสาขาในประเทศเยอรมนี ทั้งนี้เพราะไม่ทราบความเคลื่อนไหวและจุดประสงค์ของอดีตพระพรหมเมธี อีกทั้งไม่ได้มีการติดต่อประสานกันแต่อย่างใด และในขณะนี้ทั้งหน่วยงานราชการไทยที่รับผิดชอบในคดีและสื่อมวลชนต่าง ๆ ยังไม่มีโอกาสพบตัวท่านแต่อย่างใด ดังนั้นเรื่องราวที่นำเสนอทั้งหมดจึงเป็นเพียงข้อคิดเห็นและการคาดเดาของคนบางกลุ่มเท่านั้น
ศิษย์ลาว-ท้าวบัวลี่
สำหรับเส้นทางในยุโรป หากกล่าวถึงวัดไทยที่นั่นสาขาของวัดพระธรรมกายมีค่อนข้างมาก อีกทั้งท่านพระพรหมเมธีก็สนิทสนมกับวัดพระธรรมกาย แม้จะถูกยกเลิกพาสปอร์ตราชการ แต่อดีตพระพรหมเมธีก็ยื่นเรื่องขอลี้ภัยในทันที เอกสารต่าง ๆ ที่เป็นภาษาเยอรมันรวมทั้งการประสานงานกับเจ้าหน้าที่ที่นั่น ต้องมีผู้ที่เตรียมการไว้ให้ล่วงหน้าแล้ว
อีกหนึ่งบุคคลที่ถูกจับตามองว่าอาจมีส่วนช่วยเหลือสำหรับการเดินทางของอดีตพระพรหมเมธีในครั้งนี้ นั่นคือศิษย์ของวัดพระธรรมกาย ท้าวบัวลี่ ทะนงฤทธิ์ ชาวลาวสัญชาติสหรัฐอเมริกา หรือ Bush Cze โดยเขาได้ไลฟ์สดผ่านเฟสบุ๊กเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 7 มิถุนายน 2561
“วัดพระธรรมกายทันสมัยที่สุด ว่าด้วยเรื่องศาสนาพุทธวัดพระธรรมกายทันสมัยที่สุด ข้าพเจ้าเป็นที่ปรึกษาวัดพระธรรมกายตั้งแต่ปี 2005 จนปัจจุบันเป็นเวลา 13 ปี วัดพระธรรมกายในโลกนี้ต้องขึ้นกับข้องที่เป็นที่ปรึกษา”
ท้าวบัวลี่นับเป็นผู้หนึ่งในลูกศิษย์วัดพระธรรมกายที่ทรงอิทธิพลรายหนึ่งทั้งที่ประเทศลาวและสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีตำแหน่งเป็นผู้ประสานงานแห่งองค์การสหประชาชาติด้านสิทธิมนุษยชนและสมาชิกพรรครีพับลิกันตลอดชีพ(คณะกรรมการรีพับลิกันแห่งชาติ)
ท้าวบัวลี่มาร่วมพิธีบวชเณร 350 รูปที่วัดพระธรรมกายเมื่อ 9 เมษายน 2548 และยังคงศรัทธาในวัดพระธรรมกายเรื่องมา และยังเป็นผู้มอบใบประกาศเกียติคุณแต่พระเทพญาณมหานุมนี(พระธัมมชโย) ในวันคุ้มครองโลก ที่วัดพระธรรมกาย เมื่อ 22 เมษายน 2559
ขู่วัดไทยลาสเวกัส
นอกจากนี้ท้าวบัวลี่ยังเคยออกมาปกป้องพระธัมมชโยและวัดพระธรรมกาย ด้วยการทำจดหมายประท้วงพระมหานรินทร์ นรินโท เจ้าอาวาสวัดไทยลาสเวกัส เจ้าของเว็บไซต์ alittlebuddha เมื่อ 4 กรกฎาคม 2558 ข้อความตอนหนึ่งระบุว่า
“ประเทศนี้เป็นประเทศของพระเยซุ แต่ท่านเป็นพระในพระพุทธศาสนา เดินทางมาอาศัยประเทศพระเยซู แล้วถ้าประพฤติตัวไม่เรียบร้อย ทำตัวเป็นพระที่ไม่ดีไม่ได้ เที่ยวเกะกะเกเร ทำเว็บไซต์ด่าว่าพระผู้ใหญ่ วิจารณ์คณะสงฆ์ให้เสื่อมเสีย ดึงคณะสงฆ์ให้ตกต่ำ มัวหมอง พวกเราชาวพุทธพี่น้องชาวไทยลาวในประเทศนี้ จะไม่ใส่บาตรท่าน จะไม่ถวายปัจจัยสนับสนุนการทำงานของท่าน พวกเราจะพากันไปประท้วงท่านที่หน้าวัด ทำให้ท่านต้องมีปัญหาเดือดร้อนอย่างแน่นอน หวังว่าท่านคงเข้าใจและจักดำรงตนเป็นพระที่ดีต่อไป”
ร้อง UN ป้องพระธัมมชโย
รวมไปถึงการทำหนังสือต่อ Al Hussein หัวหน้าฝ่ายสิทธิมนุษยชนแห่งองค์กรสหประชาชาติ ต่อกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(DSI) พยายามที่จะออกหมายจับพระเทพญาณมหามุนีโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร
จากกรณีที่หน่วยสอบสวนพิเศษ ได้ออกหมายเรียกพระเทพญาณมหามุนีท่านเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ให้ไปพบตามข้อกล่าวหาคดีอาญาในวันนัดที่ 25 เมษายนพ.ศ.2559 ทั้ง ๆ ที่ท่านไม่ได้กระทำผิดใดใดดังที่ต้องสงสัย
ทั้งนี้ ท่านเจ้าอาวาสสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง เป็นโรคประจำตัว เจ็บป่วยมานาน คณะแพทย์ได้ลงความเห็นให้พักผ่อนและอยู่ในสภาวะที่ไม่ควรเดินทาง ด้วยเหตุผลดังกล่าวจึงได้ส่งทนายความผู้รับมอบอำนาจของพระเทพญาณมหามุนีไปยื่นหนังสือขอเลื่อนวันนัด โดยมีใบรับรองแพทย์ซึ่งมีลายเซ็นต์ของคณะแพทย์ 4 ท่าน ซึ่งทางหน่วย DSI ได้รับหนังสือร้องเรียนแล้วและยอมผ่อนปรนให้มีการเลื่อนนัดแต่ DSI ได้ดำเนินการอยู่เหนือกฎหมาย และพยายามที่จะออกหมายจับพระเทพญาณมหามุนีโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร
การแสดงออกของ DSI เช่นนี้เป็นที่ชัดเจนว่า ทางรัฐบาลใช้อำนาจที่ละเมิดสิทธิมนุษยชน และทำผิดจรรยาบรรณต่อพระเทพญาณมหามุนี
นี่เป็นปัญหาทางการเมือง กระผมจึงปรารถนาเป็นอย่างยิ่งที่จะร้องขออำนาจของท่าน เพื่อที่จะช่วยกระชับเสริมสร้างความแข็งแกร่งในเรื่องสิทธิมนุษยชนและความยุติธรรมให้แก่สังคม กระผมขอวิงวอนให้ท่านได้โปรดส่งเจ้าหน้าที่ขององค์การสหประชาชาติมายังวัดพระธรรมกาย จังหวัดปทุมธานี ประเทศไทย
กระผมได้ทำหนังสือส่งไปถึงสถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ส่งหนังสือถึงองค์การสหประชาชาติ ณ สำนักงานใหญ่ นครนิวยอร์ค และมีหนังสือถึงท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมแห่งประเทศไทย
ท้าวบัวลีนับว่าเป็นอีกหนึ่งลูกศิษย์ของวัดพระธรรมกายที่ทรงอิทธิพลในเครือข่ายที่สามารถเชื่อมต่อไปยังหน่วยงานระดับโลกได้ แม้จะย้ายถิ่นมาปักหลักที่สหรัฐอเมริกา แต่เครือข่ายในประเทศลาวก็นับว่ายังคงมีอิทธิพลสูง รวมทั้งบทบาทที่เคยทำงานด้านผู้อพยพจนเป็นผู้ประสานงานด้านสิทธิมนุษยชนแห่งองค์การสหประชาชาติ และยังสังกัดพรรคการเมืองรีพับลิกันที่วันนี้นายโดนัล ทรัมป์ ครองตำแหน่งประธานาธิบดีในสหรัฐ
ไม่เพียงเท่านั้นท้าวบัวลียังเคยเข้าพบกับเยาวเรศ ชินวัตรและทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทยในช่วง 2547 และ 2548 มาแล้ว ดังนั้นการออกแรงเพื่อให้ความช่วยเหลือพระผู้ใหญ่ ที่เคยสนับสนุนกิจกรรมของวัดพระธรรมกายมาโดยตลอดย่อมไม่ใช่เรื่องที่เหลือบ่ากว่าแรง