xs
xsm
sm
md
lg

ศิษย์ธรรมกายชั้นเซียนร่วมวงผลประโยชน์ “ญาติธรรม” ลูกค้าชั้นดี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ศิษย์ธรรมกายไม่ได้มีแค่ส่วนที่บริจาคให้วัดจนหมดตัว บรรดาศิษย์เอกแม้จะบริจาคมาก แต่ก็มีส่วนที่คืนกลับมาเช่นเดียวกัน “อนันต์-บุญชัย-เสี่ยสอง” ส่วนภาคธุรกิจประกัน ขายตรง โบรกเกอร์ ดาหน้าเข้ามาหวังหาลูกค้า อาศัยความเป็นญาติธรรมหาลูกค้าง่าย ไม่เว้นแม้แต่พรรคการเมืองที่เข้ามาเพื่อหวังคะแนนเสียง ส่วนลูกศิษย์ที่หมดประโยชน์ถีบหัวส่ง

ข่าวคราวของวัดพระธรรมกายที่บุคคลทั่วไปได้ทราบโดยทั่วไป มักจะเป็นเรื่องของความศรัทธาที่มีต่อวัดแห่งนี้บริจาคเงินกันจนหมดเนื้อหมดตัว บ้างก็บ้านแตกสาแหรกขาด บางรายสมาชิกในครอบครัวก็ถึงขั้นผูกคอตาย จนกลายเป็นเรื่องที่วิพากษ์วิจารณ์กันในวงกว้างถึงแนวทางในการชักชวนให้ทำบุญของวัดพระธรรมกาย

แม้ในระยะหลังจะมีการออกมาให้สัมภาษณ์ของบุคคลภายในวัดพระธรรมกาย ปฏิเสธในเรื่องดังกล่าวว่าไม่ได้ชักชวนให้ศิษยานุศิษย์ทำบุญเป็นจำนวนมาก ตามข่าวลบที่ออกมา

อย่างไรก็ตามหากใครเคยฟังคำกล่าวของนายอนันต์ อัศวโภคิน ประธาน บริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ และธนาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส์ ศิษย์เอกของวัดพระธรรมกาย ในงานทำบุญของวัดพระธรรมกายเมื่อ 10 ตุลาคม 2557 ว่า “พวกเราต้องจำกันไว้นะว่า ผังที่ติดตัวมาเป็นผังที่พระนิพพาน พระต้นธาตุ พระต้นธรรม ท่านทำติดตัวมาให้เรา ปัจจัยที่ได้มา ไม่ใช่ปัจจัยของเรา กลัวว่าทำบุญไปแล้ว เราเหลือน้อยลงแล้วเราจะทำอย่างไร เป็นผม ผมทำหมดเลย เหลือแค่ไหนผมทำหมดเลย”

จากคำกล่าวของศิษย์เบอร์ต้น ๆ ของวัดพระธรรมกาย ย่อมจะเข้าใจถึงตรรกะในการทำบุญของวัดพระธรรมกายได้เป็นอย่างดี

วัดใหญ่ใช้เงินเยอะ

อดีตศิษย์วัดพระธรรมกายที่ถอนตัวออกมาจากวัดแห่งนี้ เล่าให้ฟังว่า กิจกรรมทำบุญของวัดพระธรรมกายมีอย่างต่อเนื่อง ทั้งการทำบุญปกติเช่นสัปดาห์แรกต้นเดือนและวันสำคัญทางศาสนา และได้เพิ่มกิจกรรมพิเศษต่าง ๆ เช่นวันสำคัญของทางวัดพระธรรมกายหรือคิดโครงการอื่น ๆ ขึ้นมา เพื่อรับบริจาคอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้วัดพระธรรมกายมีแนวทางที่จะขยายวิธีคิดของตัวเองออกไปทั้งในประเทศและต่างประเทศ มีสิ่งปลูกสร้างขนาดใหญ่ภายในวัด มีศูนย์ปฏิบัติธรรมอยู่ทั่วประเทศและสาขาในต่างประเทศ ต้องใช้เงินจำนวนมากเพื่อเข้าไปอุดหนุนเครือข่ายต่าง ๆ เพื่อให้เป้าหมายของตัวเองประสบความสำเร็จ เงินจึงเป็นสิ่งสำคัญต่อวัดแห่งนี้

กระบวนการรับบริจาคหรือดึงดูดใจให้คนทำบุญมาก ๆ นั้น เริ่มตั้งแต่ของแจกเมื่อทำบุญครบตามจำนวนที่ตั้งไว้ พระของขวัญรุ่นต่าง ๆ เป็นตัวดึงดูดลูกศิษย์ระดับล่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี หากเป็นงานพิธีใหญ่ถ้าต้องการร่วมในพิธีก็จะมีวิธีการจัดการในลักษณะเดียวกับภาคธุรกิจ เช่น งานกฐิน หากต้องการถือผ้ากฐินในระดับแถวหน้า ก็ต้องทำบุญที่สูงขึ้น

ลูกศิษย์ในวัดทราบกันดีถึงรหัสในการบริจาคคือ M S m บริจาคมากจะอยู่ในลำดับแถวหน้า เช่น M เท่ากับหลักล้านบาท S บริจาคในหลักแสนบาท m บริจาคหลักหมื่นบาท

ทางวัดได้สร้างจุดแข็งประการหนึ่งคือการแยกประเภทของสวรรค์ออกเป็นลำดับขั้น การบริจาคมากเมื่อตายไปจะได้ขึ้นไปสวรรค์ในชั้นสูง จึงเป็นอีกวิธีการหนึ่งที่กระตุ้นให้ลูกศิษย์วัดตั้งหน้าตั้งตาทำบุญเพื่อหวังผลว่าตัวเองเมื่อเสียชีวิตไปจะได้ขึ้นสวรรค์ในชั้นที่สูง ๆ ลักษณะดังกล่าวไม่แตกต่างไปจากหลักของการลงทุนในทางโลก

จึงไม่แปลกที่หลายคนหมดเนื้อหมดตัว บ้านแตกสาแหรกขาด ครอบครัวพัง หรือต้องสูญเสียคนในครอบครัวไปกับการทำบุญให้กับวัดแห่งนี้ นั่นเป็นเพียงกลุ่มระดับล่างเท่านั้นที่เสียเงินบริจาคให้กับทางวัด
นายอนันต์ อัศวโภคิน ศิษย์เอกดูแลงานก่อสร้างในวัดพระธรรมกาย
ไม่ใช่แค่บริจาคอย่างเดียว

แหล่งข่าวกล่าวต่อว่า จริง ๆ แล้วในวัดพระธรรมกายมีลูกศิษย์อยู่ในทุกระดับ ลูกศิษย์จำนวนหนึ่งก็ได้ประโยชน์จากวัดพระธรรมกายไปเช่นกัน ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มศิษย์เอกที่ใกล้ชิดกับพระธัมมชโย อย่างคุณอนันต์ อัศวโภคิน รับผิดชอบเรื่องงานก่อสร้างทั้งหมดภายในวัดพระธรรมกาย บริษัทที่เข้ามารับงานก่อสร้างทั้งหมดในวัดพระธรรมกายคือบริษัทฤทธา ซึ่งเป็นบริษัทก่อสร้างขนาดใหญ่

ก่อนหน้านี้คุณอนันต์เคยเข้ามารับหน้าที่ฟื้นฟูกิจการของบริษัทก่อสร้างแห่งหนึ่งอย่างคริสเตียนีแอนด์นีลเสน CNT ซึ่งมีผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นสำนักงานทรัพย์สินฯ และพลิกฟื้น CNT ขึ้นมาได้ด้วยการรับงานก่อสร้างในวัดพระธรรมกาย เมื่อพ้นจากหน้าที่ไปทางบริษัทฤทธาก็เข้ามารับงานก่อสร้างในวัดพระธรรมกายแทน

“เราไม่พบว่าคุณอนันต์เป็นเจ้าของบริษัทฤทธา ตามที่หลายคนตั้งข้อสังเกตว่าคุณอนันต์เป็นเจ้าของ แต่น่าจะเป็นเรื่องของความไว้วางใจกัน เพราะฤทธารับงานก่อสร้างให้สาขาต่าง ๆ ของห้างโฮมโปรของคุณอนันต์มาตลอด อีกทั้งเจ้าของฤทธา คือ สุวัฒน์ เชาว์ปรีชา เป็นรุ่นพี่วิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ของคุณอนันต์”

ในวงการก่อสร้าง ฤทธาเป็นที่ยอมรับกันในด้านฝีมือ แม้การก่อสร้างในวัดพระธรรมกายก่อนหน้านี้อาจมีบริษัทอื่นเข้าไปบ้าง แต่พระในวัดแห่งนี้หลายท่านจบวิศวะมาก็ดูงานออก สุดท้ายจึงมาจบที่บริษัทฤทธา ซึ่งมีคุณอนันต์ อัศวโภคิน เป็นผู้รับผิดชอบงานก่อสร้างทั้งหมดในวัดพระธรรมกาย

อีกทั้งทางธนาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส์ก็ยังปล่อยสินเชื่อให้กับบริษัทฤทธา เพื่อใช้ในการดำเนินธุรกิจ จึงเป็นภาพสะท้อนของความสัมพันธ์ระหว่างคุณอนันต์กับบริษัทฤทธา

นอกเหนือไปจากเรื่องการก่อสร้างแล้ว จากกรณีที่นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ที่โดนคดียักยอกทรัพย์ พบว่ามีการขายที่ดินจำนวน 8 แปลง รวมเนื้อที่ประมาณ 57 ไร่ ในตำบลคลอง 3 อำเภอคลองหลวง ซึ่งอยู่ใกล้กับวัดพระธรรมกาย ให้กับ นางสาวอลิสา อัศวโภคิน ลูกสาวนายอนันต์ อัศวโภคิน เจ้าของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังของไทย โดยหนังสือสัญญาฉบับดังกล่าว ลงวันที่ 7 มิถุนายน 2556 ตกลงราคาซื้อขายกันเป็นเงิน 298 ล้านบาท

เรื่องหลักฐานว่าใครได้ประโยชน์นั้นคงยากที่จะค้นหา เพราะเป็นเรื่องภายในวัดและจะทราบกันเฉพาะลูกศิษย์ระดับบนเท่านั้น แต่เป็นที่ทราบกันว่างานพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เกี่ยวเนื่องกับวัดพระธรรมกายนั้น ทางวัดต้องการสร้างที่พักอาศัยให้กับผู้มาปฏิบัติธรรม

ดังนั้นที่ดินข้าง ๆ วัดพระธรรมกายจึงเป็นอีกหนึ่งแนวทางที่จะพัฒนาเพื่อขายให้กับลูกศิษย์ที่มีความพร้อม และสะดวกในการเข้าพักเมื่อปฏิบัติธรรมเสร็จ
นายบุญชัย เบญจรงคกุล ศิษย์เอกอีกราย
ต้องระดับศิษย์เอกเท่านั้น

ส่วนศิษย์เอกอีกคนอย่างนายบุญชัย เบญจรงคกุล ประธานกรรมการ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ DTAC มีเพียงเสียงที่เล่าต่อกันมาว่า โทรศัพท์มือถือที่ใช้ในวัดพระธรรมกายส่วนใหญ่เป็นของเครือข่าย DTAC

อย่างไรก็ตาม พบว่า 5 มิถุนายน 2556 นายศุภชัย ศรีศุภอักษร ได้ขายที่ดินใกล้วัดพระธรรมกาย ตำบลคลอง 3 อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี อีก 1 แปลง โฉนดเลขที่ 2202 เนื้อที่ 30 ไร่ ในราคา 25 ล้านบาท ให้นางวรรณา จิรกิติ ภรรยานายประกอบ จิรกิติ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ และเป็นน้องสาวนายบุญชัย เบญจรงคกุล

ส่วนลูกศิษย์ระดับสูงที่มีชื่อเสียงก่อนหน้านั้น คือ นายสอง วัชรศรีโรจน์ นักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์มือฉกาจ ในระยะหลังได้ลดบาทบาทด้านการลงทุนไปหลังจากถูกข้อหาปั่นหุ้น โดยมีเสียงกล่าวอ้างกันไปต่าง ๆ นานา ว่าเงินที่นำมาใช้ในการลงทุนนั้นมาจากวัดพระธรรมกาย ซึ่งตรงนี้ยังไม่มีใครสามารถตรวจสอบได้
ทักษิณ ชินวัตรและครอบครัว กับการทำบุญที่วัดพระธรรมกาย
หาลูกค้า-ฐานเสียง

ในบรรดาลูกศิษย์ยังมีเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ระหว่างลูกศิษย์ด้วยกัน โดยกลุ่มนักธุรกิจหลายรายที่เข้ามาในวัดเพื่อหวังหาทั้งลูกค้า และสร้างคอนเนกชันทางธุรกิจเพิ่มขึ้น เพราะทราบดีว่ามีคนระดับเจ้าของธุรกิจและข้าราชการระดับสูง เข้ามาปฏิบัติธรรมที่วัดพระธรรมกายแห่งนี้เป็นจำนวนมาก

ที่ชัดเจนมากที่สุดคือกลุ่มประกันและกลุ่มขายตรงที่มีทั้งเข้ามาด้วยความตั้งใจจริงและเข้ามาเพื่อหาลูกค้าเพิ่ม เพราะการเข้ามาในลักษณะญาติธรรมเหมือนกันจะทำให้การขายทำได้ง่ายขึ้น ด้วยความเห็นอกเห็นใจกัน รวมไปถึงกลุ่มโบรกเกอร์หุ้นที่เข้ามาเพื่อสร้างลูกค้าซื้อขายหุ้นให้กับตัวเอง

จะเห็นได้ว่ามีศิษย์ของวัดพระธรรมกายบางกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากวัดแห่งนี้เช่นกัน

ไม่เพียงแค่การหาประโยชน์ในทางธุรกิจของบรรดาลูกศิษย์ด้วยกันแล้ว นักการเมืองก็ใช้ฐานลูกศิษย์ของวัดพระธรรมกายให้เกิดประโยชน์เช่นเดียวกัน ที่ชัดเจนที่สุดได้แก่พรรคเพื่อไทย โดยที่ก่อนหน้านี้ทักษิณ ชินวัตรและครอบครัวรวมถึงนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มักเข้ามาทำบุญที่วัดแห่งนี้ อีกทั้งศิษย์เอกของวัดพระธรรมกายบางรายก็เคยให้การสนับสนุนงานทางการเมืองกับทักษิณมาตลอด ด้วยฐานของลูกศิษย์ที่มากกว่า 10 ล้านคน ย่อมส่งผลบวกต่อการเลือกตั้งในแต่ละครั้ง

ที่ผ่านมาก็มีลูกศิษย์วัดพระธรรมกายจำนวนไม่น้อยที่ถอนตัวออกไปเช่นกัน บางรายก็ถึงกับหมดตัว แต่คนกลุ่มนี้มักจะไม่ออกมาเปิดเผยตัว เนื่องจากอายและเป็นเรื่องของการเสียศักดิ์ศรี ส่วนใหญ่จึงเลือกที่จะเงียบ

อย่างเช่นน้องชายอดีตรองนายกรัฐมนตรีรายหนึ่ง เคยเป็นผู้บริจาคจำนวนมากให้กับวัดพระธรรมกาย บังเอิญธุรกิจที่เขาทำอยู่ประสบปัญหาขาดทุน สุดท้ายก็ต้องถอยออกไปจากวัด และทางวัดก็มักจะกล่าวว่าไม่รู้จักลูกศิษย์รายนี้ เช่นเดียวกับที่นายศุภชัย ศรีศุภอักษร เคยถูกปฏิเสธว่าทางวัดไม่รู้จัก นี่ถือว่าเป็นสูตรสำเร็จที่วัดพระธรรมกายใช้กับลูกศิษย์ที่หมดความหมายกับวัด

กำลังโหลดความคิดเห็น