xs
xsm
sm
md
lg

บอร์ดบริหาร “เค.ซี.พร็อพเพอร์ตี้” ต้องรับผิดกรณีรับเช็ค-โอนซื้อที่ดิน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

คณะกรรการตรวจสอบ “เค.ซี.พร็อพเพอร์ตี้” เผยการซื้อที่ดิน 3 แปลงของบริษัทเป็นไปตามการซื้อขายข้อมูลโดยสุจริต เว้นกรณีการรับเช็ค และโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินให้กับผู้ขายก่อนฝากเช็คเข้าธนาคารถือเป็นการขาดความระมัดระวัง และการขายไปแล้วซื้อกลับก่อให้เกิดภาระค่าใช้จ่ายเรื่องค่าธรรมเนียมการโอน และภาษีธุรกิจเฉพาะ บอร์ดบริหารต้องร่วมรับผิดชอบเป็นการส่วนตัว ยันหากพบข้อมูลแคลงใจแจ้งต่อสาธารณะ

รศ.ดร.สวงค์เศวตวัฒนา ประธานกรรมการตรวจสอบ บริษัท เค.ซี.พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ KC เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัท และคณะกรรมการบริหาร (บอร์ด) มีความรับผิดชอบต่อผู้ถือหุ้นเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ และการกำกับดูแลให้การบริหารจัดการเป็นไปตามเป้าหมาย และแนวทางที่จะก่อให้เกิดประโยชน์แก่ผู้ถือหุ้น อยู่ในกรอบของการมีจริยธรรมที่ดี คำนึงผลประโยชน์ของผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย และสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำหน้าที่ตามหลัก Fiduciary Duty กล่าวคือ ตามมาตรา 85 พ.ร.บ.บริษัทมหาชน คณะกรรมการบริษัทมีหน้าที่ในการปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมายวัตถุประสงค์ข้อบังคับ มติที่ประชุมผู้ถือหุ้น ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และความระมัดระวังรักษาผลประโยชน์ของบริษัทฯ (มาตรา 85 พ.ร.บ.บริษัทมหาชน) และตามมาตรา 89/7 พ.ร.บ.หลักทรัพย์ในการดำเนินกิจการของบริษัท โดยบอร์ดต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบ ความระมัดระวัง และความซื่อสัตย์สุจริต รวมทั้งต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมายวัตถุประสงค์ข้อบังคับของบริษัท และมติคณะกรรมการ ตลอดจนมติที่ประชุมผู้ถือหุ้น อีกทั้งต้องทำการเปิดเผยข้อมูลต่อผู้ถือหุ้น (Disclosure) อย่างถูกต้องครบถ้วน และโปร่งใส คณะกรรมการบริษัท และคณะกรรมการบริหารจะต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบ และระมัดระวัง (Duty of Care)

บอร์ด และคณะกรรมการบริหารจะต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต (Duty of Loyalty) โดยจะต้องกระทำการโดยสุจริต เพื่อประโยชน์สูงสุดของบริษัทฯ มีจุดมุ่งหมายในการทำธุรกรรมโดยชอบ และเหมาะสม และจะต้องไม่ขัด หรือแย้งกับผลประโยชน์ของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ ข้อสรุปต่อการทำธุรกรรมซื้อขายที่ดินของคณะกรรมการบริหาร 3 รายการ การทำธุรกรรมซื้อขายที่ดินของคณะกรรมการบริหาร 3 ธุรกรรม ภายใต้อำนาจการพิจารณาของคณะกรรมการบริหาร โดยไม่ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการบริษัท คือ การขายที่ดิน และซื้อคืนที่ดินบึงคำพร้อย การซื้อที่ดินบางปะอิน และการขายที่ดินแพรกษาใหม่

สำหรับธุรกรรมการขายที่ดิน และซื้อคืนที่ดินบึงคำพร้อย ตามเอกสารที่ปรากฏ และการชี้แจงของคณะกรรมการบริหารธุรกรรมดังกล่าวเป็นการซื้อขายตามปกติของธุรกิจ เนื่องจากคณะกรรมการบริหารได้ปฏิบัติตามขั้นตอน และทำการตัดสินใจโดยตัดสินใจบนพื้นฐานของข้อมูลที่เชื่อโดยสุจริตว่า เพียงพอ และเป็นขั้นตอนตามปกติของการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ และไม่มีส่วนได้เสียกับผู้ซื้อไม่ว่าทั้งทางตรง หรือทางอ้อม จึงไม่สรุปว่า คณะกรรมการบริหารนำที่ดินดังกล่าวไปหาผลประโยชน์โดยมิชอบ

อย่างไรก็ตาม การได้รับเช็ค และโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินให้กับผู้ขายก่อนฝากเช็คเข้าธนาคาร และได้รับเงินตามเช็คที่สั่งจ่ายเป็นการดำเนินงานโดยขาดความรับผิดชอบระมัดระวัง (Duty of Care) และการขายไปแล้วซื้อกลับ ก่อให้เกิดภาระค่าใช้จ่ายเรื่องค่าธรรมเนียมการโอน และภาษีธุรกิจเฉพาะเป็นจำนวนเงิน 1.27 ล้านบาท ซึ่งคณะกรรมการตรวจสอบเห็นว่า คณะกรรมการบริหารจะต้องร่วมกันรับผิดชอบเป็นการส่วนตัว

ขณะที่การซื้อที่ดินบางปะอิน เนื่องจากคณะกรรมการบริหารได้ปฏิบัติตามขั้นตอน และทำการตัดสินใจโดยตัดสินใจบนพื้นฐานของข้อมูลที่เชื่อโดยสุจริตว่า เพียงพอ และเป็นขั้นตอนการซื้อที่ดินตามปกติของการดำเนินธุรกิจ และการพิจารณาซื้อที่ดินเป็นไปตามระบบการควบคุมภายในของบริษัทฯ และไม่มีส่วนได้เสียกับผู้ซื้อไม่ว่าทั้งทางตรง หรือทางอ้อม
 
อย่างไรก็ตาม การสั่งจ่ายเช็คที่นำชำระหนี้แก่ผู้ขายเป็นชื่อ นายสรรชัย อินทรอักษร กรรมการโดยไม่ขีดฆ่าผู้ถือ และระบุ Account Payee Only เพื่อความสะดวกในการทำธุรกรรม ไม่เป็นไปตามมาตรฐานของฝ่ายการเงินของบริษัทฯ แม้ว่านายสรรชัย ได้ดำเนินการตามคำแนะนำของที่ปรึกษากฎหมายของบริษัทฯ คณะกรรมการบริหารรายที่สั่งการจ่ายเช็คได้ดำเนินงานโดยขาดความรับผิดชอบระมัดระวัง (Duty of Care) และบกพร่องจากการปฏิบัติตามระบบการควบคุมภายในเรื่องมาตรฐานทางการบัญชี และการเงินของบริษัทฯ
 
กรณีการขายที่ดินแพรกษาใหม่ เนื่องจากคณะกรรมการบริหารได้ปฏิบัติตามขั้นตอน และทำการตัดสินใจโดยตัดสินใจบนพื้นฐานของข้อมูลที่เชื่อโดยสุจริตว่า เพียงพอ และเป็นขั้นตอนการขายที่ดินตามปกติของการดำเนินธุรกิจ และการพิจารณาขายที่ดินเป็นไปตามระบบการควบคุมภายในของบริษัทฯ และไม่มีส่วนได้เสียกับผู้ซื้อ นายหน้า หรือผู้แนะนำลูกค้า ไม่ว่าทั้งทางตรง หรือทางอ้อม สำหรับค่าใช้จ่ายด้านนายหน้า 5 ล้านบาท และผู้แนะนำลูกค้า 5.34 ล้านบาท เป็นอัตราที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยปกติของบริษัทฯ แต่คณะกรรมการบริหารคำนึงถึงค่าตอบแทน (เงิน) สุทธิจากการขายที่ดินจำนวนสูงที่สุด คือ 80.36 ล้านบาท ซึ่งสูงที่สุดเมื่อเทียบกับผู้เสนอซื้อรายอื่น จึงเป็นการตัดสินใจทางธุรกิจ (Business Judgement Rule) ด้วยความสุจริต และสมเหตุสมผล เพื่อประโยชน์สูงสุดของบริษัทฯ บนพื้นฐานของข้อมูลที่เพียงพอ และไม่มีส่วนได้เสียไม่ว่าทางตรง หรือทางอ้อมในการตัดสินใจดำเนินการแล้ว จึงมีข้อสรุปว่า คณะกรรมการบริหารจึงปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบ และระมัดระวัง (Duty ofCare) โดยชอบแล้ว ขั้นตอนการดำเนินการของคณะกรรมการตรวจสอบเพื่อแก้ไขระบบควบคุมภายใน (Internal Control) เพื่อเสนอให้ผู้สอบบัญชีพิจารณาคณะกรรมการตรวจสอบ ได้เสนอที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ วันที่ 21 พฤศจิกายน 2559 ให้พิจารณากำหนดมาตรการเพิ่มเติมในระบบการควบคุมภายใน (Internal Control) ของบริษัทฯ ที่สืบเนื่องจากประเด็นการทำธุรกรรมซื้อขายที่ดินทั้ง 3 รายการ ตามที่ผู้สอบบัญชีมีข้อสงสัยโดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 12/2559 วันที่ 21 พฤศจิกายน 2559 มีมติ ดังนี้

1) ให้คณะกรรมการตรวจสอบ และกรรมการอิสระ ตรวจสอบ และเสนอการแก้ไขการดำเนินการของบริษัทฯ และนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เพื่อพิจารณาแก้ไขระบบการควบคุมภายในของบริษัทฯ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน

2) กำหนดให้ธุรกรรมรายการได้มา และจำหน่ายไป ซึ่งสินทรัพย์ของบริษัทฯ คณะกรรมการบริหารต้องนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ซึ่งประกอบด้วยคณะกรรมการตรวจสอบ และกรรมการอิสระเป็นผู้พิจารณาอนุมัติ

3) การสั่งจ่ายเช็คธนาคารเพื่อชำระหนี้แก่เจ้าหนี้ของบริษัทฯ ต้องสั่งจ่ายโดยระบุชื่อเจ้าหนี้ โดยขีดฆ่าผู้ถือ และระบุ Account Payee Only เท่านั้น

4) การโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินตามธุรกรรมจำหน่ายไป ซึ่งสินทรัพย์ของบริษัทฯ จะต้องโอนกรรมสิทธิ์เมื่อบริษัทฯได้รับชำระหนี้เป็นแคชเชียร์เช็คธนาคาร หรือได้รับเงินตามเช็คธนาคารที่ชำระแก่บริษัทฯแล้วเท่านั้น การชำระหนี้ค่าซื้อที่ดินโดยบริษัทฯ ให้แก่ผู้ขายที่ดิน บริษัทฯ จะชำระมัดจำตามงวดที่กำหนดไว้

5) การชำระหนี้ค่าซื้อที่ดิน โดยบริษัทฯ ให้แก่ผู้ขายที่ดิน บริษัทฯ จะชำระมัดจำตามงวดที่กำหนดไว้ในสัญญาจะซื้อจะขายที่ดิน และชำระงวดสุดท้ายในวันรับโอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน
 
การแก้ไขระบบการควบคุมภายใน ตลอดจนระเบียบ และข้อบังคับของบริษัทที่เกี่ยวข้อง บริษัทฯ จะหารือกับผู้สอบบัญชีรับอนุญาต เพื่อให้ผู้สอบบัญชีประเมินระบบควบคุมภายในของบริษัทฯ ว่ารัดกุมเพียงพอหรือไม่ เพื่อดำเนินการแก้ไขเพิ่มเติมให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน จะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2559 เพื่อผู้สอบบัญชีสามารถแสดงความเห็นต่องบการเงินของบริษัทฯ ได้ต่อไป

เนื่องจากคณะกรรมการตรวจสอบ และคณะกรรมการบริษัท ได้รับทราบข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมทั้ง 3 รายการของคณะกรรมการบริหาร ตามหนังสือของผู้สอบบัญชีฯ เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2559 จึงมีปัจจัยเรื่องระยะเวลาที่จำกัดในการพิจารณาคำชี้แจงของคณะกรรมการบริหารการรวบรวมเอกสารที่เกี่ยวข้อง และตรวจสอบเอกสาร หากในภายหลัง คณะกรรมการตรวจสอบพบข้อเท็จจริงที่มีนัยสำคัญต่อการพิจารณาให้ข้อสรุปของคณะกรรมการตรวจสอบต่อการทำธุรกรรมข้างต้นเพิ่มเติม คณะกรรมการตรวจสอบจะแจ้งต่อผู้สอบบัญชี และชี้แจงต่อนักลงทุน และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย


กำลังโหลดความคิดเห็น