xs
xsm
sm
md
lg

ลุ้นศาลปกครองไต่สวนคุ้มครองชั่วคราวเบรกขึ้นราคาก๊าซเอ็นจีวี-แอลพีจี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เครือข่ายผู้บริโภคยื่นฟ้องคดีศาลปกครอง เมื่อวันที่ 13 ม.ค. 2555
ASTVผู้จัดการออนไลน์ -การประกาศปรับโครงสร้างราคาพลังงานทั้งก๊าซฯ-น้ำมันโดยอ้างเพื่อสะท้อนต้นทุนที่แท้จริงของกระทรวงพลังงานเริ่มขึ้นพร้อมๆ กับการยื่นฟ้องศาลปกครองของมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคเพื่อขอให้เพิกถอนมติขึ้นราคาก๊าซเอ็นจีวีและแอลพีจี ซึ่งศาลนัดไต่สวนฉุกเฉินคุ้มครองชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษาในบ่ายวันที่ 16 ม.ค.นี้

โปรโมชั่นที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ได้หาเสียงนโยบายลดต้นทุนพลังงานหมดสิ้นสุดลงแล้ว ถึงวันนี้ประชาชนคนไทยก็จะได้รู้ว่า นอกจากกองทุนน้ำมันที่ ยิ่งลักษณ์ พูดเอามันส์บนเวทีหาเสียงว่าจะยกเลิก จะลดการจัดเก็บภาษี เพื่อช่วยเหลือพี่น้อง ฯลฯ ในที่สุดกองทุนน้ำมันก็ยังอยู่และถึงเวลารีดภาษีจากผู้ใช้น้ำมันเข้ากองทุนเช่นเดิม ไม่เพียงเท่านั้น ราคาก๊าซเอ็นจีวีที่ตรึงราคาเพื่อลดค่าครองชีพให้กับประชาชนโดยตรง ก็ได้ฤกษ์ปรับราคาในรัฐบาลชุดนี้ เช่นเดียวกับก๊าซแอลพีจี ที่ปรับราคาขึ้นเช่นกัน

ราคาพลังงานที่ปรับขึ้นโดยมีผลตั้งแต่วันที่ 16 ม.ค. 2554 นั้น ประกอบด้วย ก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (เอ็นจีวี) ปรับขึ้น 50 สตางค์ต่อกิโลกรัม หรือขึ้นราคาเป็น 9 บาทต่อกิโลกรัม ส่วนราคาก๊าซแอลพีจีสำหรับยานยนต์ปรับขึ้น 41 สตางค์ต่อลิตร หรือ 75 สตางค์ต่อกิโลกรัม และราคาเบนซิน-แก๊ซโซฮอล์ ปรับขึ้น 1.07 บาทต่อลิตร ดีเซลราคาเพิ่มขึ้น 64 สตางค์ต่อลิตร กระทรวงพลังงานให้เหตุผลการปรับราคาพลังงานครั้งนี้ว่าเป็นไปตามนโยบายการสะท้อนต้นทุนราคาพลังงาน และสร้างความเป็นธรรม ลดการอุดหนุนราคาของผู้ใช้น้ำมันที่มาอุดหนุนราคาก๊าซ

ผลของประกาศดังกล่าว ทำให้บริษัท ปตท. ปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์อีก 1.07 บาทต่อลิตร และดีเซลปรับขึ้น 64 สตางค์ต่อลิตร ส่งผลให้ราคาแก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ 37.26 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ 35.51 บาทต่อลิตร น้ำมัน E20 อยู่ที่ 34.51 บาทต่อลิตร น้ำมัน E85 ราคาอยู่ที่ 22.31 บาทต่อลิตร และดีเซล 31.13 บาทต่อลิตร เบนซิน 91 ลิตรละ 38.54 บาท ดีเซลหมุนเร็วลิตรละ 31.13 บาท

ข้ออ้างในการปรับราคาพลังงานทุกครั้งที่ว่าเพื่อสะท้อนต้นทุนที่แท้จริงและเพื่อความเป็นธรรมนั้น ความจริงแล้วมีข้อกังขาจากสังคมอยู่มาก ทั้งโครงสร้างราคาน้ำมันที่อิงราคาสิงคโปร์ ซึ่งทำให้ราคาน้ำมันที่ขายในประเทศแพงกว่าที่ส่งออกเสียอีก ตลอดวเลาที่ผ่านมา กระทรวงพลังงาน กลับไม่ใส่ใจปรับโครงสร้างสูตรราคาใหม่ให้มีความยุติธรรมต่อประชาชน

ส่วนโครงสร้างราคาก๊าซฯ ทั้งแอลพีจี และเอ็นจีวี ที่มักอ้างว่าต้องอิงราคาตลาดโลก ทั้งที่เป็นก๊าซฯที่ขุดได้ในประเทศไทยซึ่งเป็นทรัพยากรที่คนไทยทุกคนเป็นเจ้าของ ไม่นับว่าต้นทุนการซื้อก๊าซฯ จากแหล่งอ่าวไทยต่ำกว่าราคาตลาดโลก แต่เมื่อเวลาขายกลับต้องการขายในราคาสูงเท่ากับตลาดโลก หากไม่ได้ราคาเท่ากับตลาดโลกรัฐบาลก็ต้องจ่ายชดเชย

โครงสร้างราคาพลังงานที่บิดเบี้ยว น่าสงสัย ทำให้เกิดปัญหาและเป็นภาระที่ประชาชนจำต้องแบกรับโดยไม่มีปากมีเสียงและไม่มีทางหลีกเลี่ยงเสมอมา กระทั่งล่าสุด กรณีการปรับราคาก๊าซฯเอ็นจีวีและแอลพีจี มีกระแสคัดค้านและเปิดเผยข้อมูลตัวเลขต้นทุนเนื้อก๊าซฯ และค่าขนส่ง ที่แตกต่างกันมากระหว่างเครือข่ายประชาชนกับปตท. กระทั่งสุดท้ายประชาชนในนามเครือข่ายผู้บริโภค ได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง เมื่อวันที่ 13 ม.ค. ที่ผ่านมา นับเป็นการยื่นฟ้องศาลครั้งแรกในคดีการปรับราคาพลังงานที่ไม่โปร่งใส ไม่เป็นธรรม

คดีนี้ นางสาวสารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค พร้อมด้วยนางสาวบุญยืน ศิริธรรม ประธานสหพันธ์องค์กรผู้บริโภค และตัวแทนผู้บริโภค ประกอบด้วย นางสาวเรณู ภู่อาวรณ์ และนายกำชัย น้อยบรรจง ยื่นฟ้องคดีต่อศาลปกครองกลาง โดยยื่นฟ้อง 1.นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล มีอำนาจหน้าที่กำกับโดยทั่วไป ซึ่งการบริหารราชการแผ่นดิน

2.คณะรัฐมนตรี ซึ่งเป็นคณะบุคคลที่ประกอบด้วยบุคคลผู้มีตำแหน่งต่างๆ กันหลายคน มีอำนาจหน้าที่บริหารราชการแผ่นดิน ให้เป็นไปตามนโยบายที่ได้แถลงไว้ต่อรัฐสภา ตามรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. ๒๕๕๐ มาตรา ๑๗๑ อันประกอบด้วย หัวหน้าคณะ 1 คน ซึ่งเรียกว่า นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีอื่น ตามจำนวนที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ มีอำนาจหน้าที่บริหารราชการแผ่นดินตามหลักความรับผิดชอบร่วมกัน

3.รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน มีหน้าที่กำกับ จัดหา พัฒนาและบริหารจัดการพลังงานและราชการอื่นตามที่กฎหมายกำหนด

4.คณะบุคคลที่ประกอบด้วยบุคคลผู้มีตำแหน่งต่างๆ กันหลายคน ตามพระราชบัญญัติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการเสริมสร้างนโยบายและแผนการบริหารและพัฒนาพลังงานของประเทศ 5.บริษัท ปตท. จำกัด มหาชน ต่อศาลปกครองกลาง

กรณีการฟ้องครั้งนี้ ผู้ฟ้องคดีอ้างว่า เกิดจาก คณะรัฐมนตรีมีมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 4ตุลาคม 2554 เห็นชอบตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ให้ทยอยปรับขึ้นราคาขายปลีกก๊าซ NGV และ LPG สำหรับภาคขนส่ง เริ่ม 16 มกราคม 2555 ซึ่งส่งผลกระทบกับผู้บริโภค ผู้ฟ้องคดีขอให้ศาลมีคำสั่ง ดังนี้

1.ขอให้เพิกถอนมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 4 ตุลาคม 2554 ที่เห็นชอบมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ครั้งที่ 5/2554 (ครั้งที่ 137) วันที่ 30 กันยายน 2554

2.ขอให้เพิกถอนมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ วันที่ 30 กันยายน 2554

3.ขอให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 และ 2 เปิดเผยต้นทุนที่แท้จริงของราคาเนื้อก๊าซ รวมถึงให้ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมที่นอกเหนือจากข้อมูลของผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๓ ซึ่งมีผลประโยชน์เกี่ยวข้องโดยตรง เพื่อกำหนดราคาที่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค

4.ขอให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 และ 2 รับฟังความคิดเห็นจากองค์กรหรือผู้แทนผู้บริโภค ประชาชนทั่วไป ผู้ประกอบการรถยนต์ รถยนต์สาธารณะ ภาคการขนส่ง รวมทั้งภาคอุตสาหกรรมอื่นๆที่เป็นผู้ได้รับผลกระทบ เพื่อประกอบการตัดสินใจทุกครั้งก่อนมีการดำเนินการ ตามเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญมาตรา 61

ต่อมาเวลา 16.40 น.ของวันที่ 13 ม.ค. นายเทิดพงศ์ พงษ์จันทร์ ตุลาการศาลปกครองกลาง ได้มีคำสั่งว่า กรณีมีเหตุจำเป็นที่ศาลจะต้องรับฟังข้อเท็จจริงในมุมคดีพิพาทจากผู้ถูกฟ้องคดี และผู้ฟ้องคดีเพื่อพิจารณามีคำสั่งเกี่ยวกับวิธีการคุ้มครองชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษาโดยศาลนัดไต่สวนในวันจันทร์ ที่ 16 มกราคม 2555 เวลา 13.00 น. ณ ห้องพิจารณาคดี

เป็นที่น่าลุ้นระทึกอย่างยิ่งว่า ระหว่างยักษ์ใหญ่ ปตท. ซึ่งมีอิทธิพลและอำนาจเหนือรัฐ กับเครือข่ายประชาชนผู้เดือดร้อน สุดท้ายแล้ว ศาลปกครองจะพิจารณาตัดสินคดีออกมาเป็นเช่นใด

ในการไต่สวนคดี ศาลได้ใช้เวลาไต่สวนเสร็จสิ้น เมื่อเวลา 17.40 น.ของวันที่ 16 ม.ค. หลังจากนั้น น.ส.สารี อ๋องสมหวัง ผู้จัดการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า ในการไต่สวนฝ่ายผู้ฟ้องได้ย้ำถึงเหตุที่ต้องนำคดีมายื่นฟ้องและการขอให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวว่า เนื่องจากการพิจารณาปรับขึ้นราคาไม่ได้พิจารณาจากต้นทุนที่เป็นจริง ขณะที่การปรับขึ้นราคา ยังมีเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนเกี่ยวกับคณะกรรมการที่พิจารณากับองค์กรที่ดำเนินกิจการพลังงาน และการพิจารณาปรับขึ้นราคายังเป็นการเอื้อในกิจการบางส่วน ซึ่งเห็นว่าชี้แจงของฝ่ายผู้ถูกฟ้องที่มีตัวแทนมาให้ถ้อยคำยังอธิบายได้ไม่ชัดเจน

ศาลได้แจ้งต่อผู้ฟ้องคดีว่า หากมีคำสั่งว่าจะกำหนดมาตรการคุ้มครองชั่วคราวหรือไม่ตามคำร้อง ก็จะแจ้งคำสั่งให้คู่ความทราบทางแฟกซ์ หรืออาจโทรแจ้งภายในคืนนี้ หรืออย่างช้าในวันพรุ่งนี้ 17 ม.ค.

(อ่านคำฟ้องคดีโดยละเอียดในข่าวประกอบ)
กำลังโหลดความคิดเห็น