xs
xsm
sm
md
lg

ทุ่มล้านล้านถมทะเลสร้างเมืองใหม่ ไอเดียสุดบรรเจิด “ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าที่นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของไทย กำลังถูกจับตาว่าเธอจะขับเคลื่อนนโยบายประชานิยมสู่รูปธรรมได้อย่างไร
ASTVผู้จัดการออนไลน์ - “ปูโคลนนิ่ง” หืดจับตั้งแต่ไก่โห่ ประชานิยมขึ้นค่าแรง เลิกกองทุนน้ำมัน ยังมึนงงหาทางไปไม่ถูก “พี่แม้ว” ออกโรงช่วยน้องเบี่ยงประเด็นชูเมกะโปรเจคถมทะเลสร้างเมืองใหม่ไอเดียสุดบรรเจิด “ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ” ถูกถล่มซ้ำทันควัน ทำลายมวลชนรากหญ้าสูญอาชีพประมงชายฝั่งเพียงเพื่อหวังขายที่ดินให้ต่างชาติ นักลงทุนกระเป๋าหนัก ทำกรุงเทพฯจมบาดาล

ประชานิยม “หลอกว่าจะให้” รอบใหม่ ดูท่าไม่ง่ายที่จะทำให้สำเร็จอย่างที่ป่าวประกาศ เอาแค่เรื่องการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท ซึ่งเป็นประเด็นโดนใจมวลชนคนรากหญ้าที่สุดก็ยังไม่มีความชัดเจน ถึงวันนี้ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าที่นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทย ได้แต่อ้ำอึ้งไปมาอยู่กว่าสัปดาห์แล้วโดยไม่รู้ว่าจะจัดการเดินหน้านโยบายนี้ให้เป็นจริงได้อย่างไร คล้ายกับว่าตอนร่างนโยบายหาเสียงนั้นไม่ได้มีการศึกษาข้อมูลเรื่องนี้ให้ถี่ถ้วนเสียก่อนว่าจะทำได้ ไม่ได้ แค่ไหน

ขณะที่เสียงทวงสัญญาเริ่มดังเซ็งแซ่ ไหนว่าจะปรับขึ้นภายใน 90 วัน ทำไมลากไปถึงมกราคม ปีหน้า (2555) ไหนตอนหาเสียงบอกว่าจะปรับขึ้น 300 บาทถ้วนหน้า ทำไมได้แค่กรุงเทพฯ กับภูเก็ตก่อน แล้วพื้นที่จังหวัดอื่นจะปรับเท่าใด ปรับเมื่อใด ฯลฯ ขณะที่เสียงจากนายจ้างก็ออกมาค้านระคนด้วยเสียงโอดครวญ เจ๊งแน่ๆๆ

ไม่นับค่าจ้างเดือนละ 15,000 บาท สำหรับคนจบปริญญาตรี ที่มีคนฝันหวานถึงความอยู่ดีกินดีขึ้นกันถ้วนหน้า ก็ยังหาความชัดเจนไม่ได้ จะให้แต่เพียงข้าราชการ และพนักงานรัฐวิสาหกิจ เท่านั้นหรือ พนักงานของรัฐ ลูกจ้างประจำ ลูกจ้างชั่วคราวแต่อยู่มานานชั่วนาตาปีเพราะไม่มีอัตราบรรจุ ซึ่งเป็นบุคลากรอยู่ในระบบราชการหรือองค์การอิสระจะรวมเข้าไว้ด้วยไหม แล้วพนักงานในบริษัทเอกชนจะได้รับอานิสงค์จากนโยบายนี้อย่างไรถ้านายจ้างไม่สนองนโยบายของรัฐบาลใหม่เหมือนกลุ่มบริษัทศึกษาภัณฑ์ขอนแก่น ของนายประสม ประคุณสุขใจ ลำพังการลดภาษีนิติบุคคลจะจูงใจให้นายจ้างปรับขึ้นค่าแรงให้ลูกจ้างหรือไม่ คำตอบคือไม่ แน่นอน

ส่วนกองทุนน้ำมันที่ประกาศชัดในวันปราศรัยใหญ่นัดสุดท้ายที่สนามกีฬาราชมังคลากีฬาสถาน เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2554 ว่า สิ่งแรกที่พรรคเพื่อไทยจะทำหากได้เป็นรัฐบาลคือการแก้ปัญหาค่าครองชีพด้วยการยกเลิกกองทุนน้ำมัน ซึ่งจะทำให้ราคาน้ำมันลดลง เพราะราคาน้ำมันเป็นต้นทุนสำคัญของสินค้าทุกประเภทจะให้พี่น้องมาแบกรับภาระไม่ได้ ยังไม่ทันไร ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็กลับลำว่าไม่ได้จะยกเลิกกองทุนน้ำมันเพียงแค่ยกเลิกเก็บเงินเข้ากองทุนฯ เท่านั้น ส่วนการแก้ไขปัญหาราคาก๊าซฯ ที่จะพุ่งสูงขึ้นหากไม่มีเงินจากกองทุนน้ำมันมาอุ้มจนถึงวันนี้ก็ยังไม่ชัดว่าจะจัดการอย่างไร

เรื่องกองทุนน้ำมัน ถ้าหากย้อนกลับไปสมัยรัฐบาลทักษิณ จะพบว่า ทักษิณ ไม่เพียงไม่เคยมีแนวคิดยกเลิกกองทุนน้ำมันแต่ยังใช้กองทุนน้ำมันหาเสียงโดยกู้เงินมาอุดหนุนราคาดีเซลจนกองทุนฯ มีหนี้บานเบอะเกือบแสนล้าน เมื่อราคาน้ำมันโลกลดลง ราคาน้ำมันในประเทศลดไม่ได้เพราะต้องรีดเงินเข้ากองทุนฯ โป๊ะหนี้ ซึ่งเป็นวิธีบริหารจัดการกองทุนน้ำมันที่ทำกันจนเป็นปกติวิสัย

ระหว่างที่ “ปูโคลนนิ่ง” กำลังเริ่มเสียรังวัดจากเรื่องค่าแรงและกองทุนน้ำมัน ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีตัวจริงเสียงจริง ก็ออกโรงมาช่วยน้องโหมกระแสเมกะโปรเจคผ่านสื่อหวังเบี่ยงเบนประเด็นความสนใจจากสังคม โดยยก 3 เมกะโปรเจคใหญ่ คือ ถมทะลสร้างเมืองใหม่ แก้ไขปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพฯ, พัฒนาระบบชลประทาน 25 ลุ่มน้ำ และโครงการขนส่งระบบราง โดยโครงการที่สร้างความฮือฮาที่สุด ก็คือ ถมทะเลสร้างเมืองใหม่ ซึ่งเป็นโครงการที่เพื่อไทยโหมประโคมมาตั้งแต่หาเสียงแล้ว

โครงการถมทะเลดังกล่าว เพื่อไทย วาดหวังได้สองเด้ง หนึ่ง การถมทะเลจากปากอ่าวออกไป 10 กิโลเมตร พร้อมกับสร้างเขื่อนกันน้ำทะเลเป็นแนวยาวเพื่อป้องกันและรักษาระดับน้ำทะเลไม่ให้เข้ามาท่วมกรุงเทพฯ สอง การถมทะเลจากเมืองปากน้ำจนถึงจังหวัดสมุทรสาครจะทำให้ได้ที่ดินเพิ่มรวมประมาณ 3 แสนไร่ แผ่นดินงอกใหม่นี้จะถูกสร้างเป็นเมืองใหม่โดยแบ่งเป็นพื้นที่สาธารณะ 2 แสนไร่ อีก 1 แสนไร่ จะนำไปขายให้กับเอกชนที่จะเข้ามาลงทุน กะว่าจะฟันกำไรถึงไร่ละ 20 ล้าน รวมแสนไร่ก็เป็นเงินมหาศาลถึงสองล้านล้านบาท เงินส่วนนี้จะถูกผันไปพัฒนาระบบน้ำใน 25 ลุ่มน้ำทั่วประเทศ โดยเฉพาะชลประทานระบบท่อที่ต้องใช้เม็ดเงินลงทุนประมาณ 4 แสนล้านบาท

เมืองใหม่แห่งนี้ ถูกวางไว้ว่าจะเป็นแหล่งศูนย์กลางธุรกิจแห่งอนาคต ไม่ว่าจะเป็นศูนย์กลางทางการเงิน ศูนย์ธุรกิจทางไอที คล้ายกับซิลิคอนวัลเลย์ ศูนย์กลางการรักษาพยาบาล ศูนย์กลางการเป็นสำนักงานใหญ่ของบริษัทข้ามชาติในภูมิภาคนี้ ทำให้ประชากรมีงานทำไม่ต่ำกว่า 100,000 อัตรา โดยมีระบบการคมนาคมที่สะดวกรองรับ เช่น รถไฟฟ้า และรถไฟความเร็วสูงเชื่อมต่อกับกรุงเทพได้สะดวกและภายในระยะเวลาอันสั้น โมเดลการสร้างเมืองใหม่นี้จะคล้ายๆ เมือง Putrajaya และ Cyberjaya ของมาเลเซีย

ไอเดียสุดแสนบรรเจิด “ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ” ดังกล่าวข้างต้นชวนเคลิบเคลิ้มเป็นอย่างยิ่ง คราวนี้ความฝันที่จะสร้างเมืองอุตสาหกรรมไอที อุตสาหกรรมซอฟท์แวร์ในไทยที่ผลักดันกันมานมนานคงจะเป็นจริงเสียที แต่เดี๋ยวก่อน งานนี้กลุ่มอนุรักษ์ กลุ่มเอ็นจีโอ กลุ่มนักกฎหมายสิ่งแวดล้อม กลุ่มประชาคมและชุมชนริมทะเลที่ทำมาหาเลี้ยงชีพด้วยการทำประมงชายฝั่ง ทั้งเลี้ยงหอย ปู ปลา เขาจองกฐินกันไว้แล้ว ประกาศลงมือเมื่อไหร่ เจอพวกค้านไม่ได้ผุดได้เกิดแน่ ถึงแม้เพื่อไทยจะถือดีว่าได้รับชัยชนะจากการเลือกตั้งมาอย่างถล่มทลายก็ตาม

ย้อนกลับไปไม่นาน หากยังไม่ลืมกันง่ายเกินไปนัก สมัยรัฐบาลทักษิณ เคยมีการผลักดันโครงการก่อสร้างถนนเลียบอ่าวไทย เป็นโครงการเส้นทางลัดสู่ภาคใต้ (สมุทรสาคร-แหลมผักเบี้ย-ชะอำ) นั่นเพียงแค่จะทำถนนเลียบอ่าว ยังไม่ถึงขั้นถมทะเลผืนมหึมาดังเช่นเวลานี้ ต่างมีเสียงค้านทุกสารทิศเพราะผลกระทบต่อระบบนิเวศวิทยา ป่าชายเลน การไหลของกระแสน้ำ วิถีชีวิต ชุมชม แม้ว่าจะมีการระดมนักวิชาการจากรั้วมหาวิทยาลัยชั้นนำมาเป็นคลังสมอง สุดท้ายรัฐบาลทักษิณก็ต้องถอดใจไปไม่รอด เพราะต้องใช้เม็ดเงินลงทุนมหาศาลกว่า 7 หมื่นล้าน ต้องจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม (EIA) ต้องเปิดประชาพิจารณ์ ซึ่งยากที่จะผ่านการเห็นชอบ

มาคราวนี้ ไม่ใช่แค่ถามไถ่กันว่าจะเอาเงินไหนมาลงทุนถมทะเล ตารางเมตรละหมื่น ถมที่ 3 แสนไร่ ตกประมาณ 1.5 ล้านล้านบาท เพราะการจะทำโครงการนี้ให้สำเร็จต้องผ่านกระบวนการ ผ่านขั้นตอนมากมาย ตั้งแต่การแก้ไขกฎหมาย การเปลี่ยนสีผังเมือง การทำรายงานประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) รายงานประเมินผลกระทบต่อสุขภาพ (HIA) การรับฟังความเห็นของผู้มีส่วนได้เสีย ต้องให้องค์การอิสระด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพให้ความเห็นก่อนดำเนินโครงการ ตามมาตรา 67 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญฯ ปี 2550

ผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อระบบนิเวศน์ การกัดเซาะชายฝั่งทะเลที่จะรุนแรงขึ้นเพราะการเปลี่ยนทิศทางการไหลของน้ำ ที่สำคัญการสร้างเขื่อนกั้นน้ำทะเลผลลัพธ์ที่จะตามมาในทางกลับกันคือการปิดกั้นน้ำที่จะระบายลงสู่ท้องทะเล ซึ่งจะส่งผลให้กรุงเทพฯและปริมณฑลกลายเป็นเมืองบาดาลจมอยู่ใต้ท้องทะเลแทนที่จะแก้ไขปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพฯ ดังคำโฆษณา

นี่ยังไม่นับว่า ที่ดินริมทะเลสวยจากการถมทะเลจะขายให้ใคร โครงการนี้ยังไม่มีนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์กลุ่มไหนขานรับ หรือหากจะขายให้ต่างชาติ ก็จะถูกสังคมต้องข้อกังขาเหมือนเมื่อคราวรัฐบาลทักษิณ จะออกกฎหมายมารองรับโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษ ที่เปิดโอกาสให้ต่างชาติเข้ามาเช่าที่ดินระยะยาว 99 ปี ว่าเป็นกฎหมายขายชาติขายแผ่นดิน ซึ่งสุดท้ายก็พังพาบไปเช่นกัน

หากคิดอย่างมีตรรกะ ดูท่าเมกะโปรเจค ถมทะเลสร้างเมืองใหม่ ไอเดียสุดบรรเจิด “ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ” มีสิทธิ์แท้งก่อนคลอด
กำลังโหลดความคิดเห็น