xs
xsm
sm
md
lg

"ปู"ปัดควบกลาโหม ยื้อขึ้นค่าแรง จำนำข้าวเปลือก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-"ยิ่งลักษณ์" ถอยห่างกลาโหม ยันไม่ถ่างควบ บ่ายเบี่ยงค่าแรง 300 รอปีหน้า ข้าวตันละ 15,000 รอปลายปี ตอนนี้ยังไม่อยากพูดถึง ส่วนถมทะเลเป็นเมืองใหม่ก็ยังอีกไกลไม่เร่งรีบ "มาร์ค"ให้เวลารัฐบาลทำตามนโยบาย ยังไม่เร่งรัด ด้านผบ.ทร. ขอพักผ่อน ยันไม่รับเก้าอี้รมว.กลาโหม

วานนี้ ( 12 ก.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าที่นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมยุทธศาสตร์ด้านนโยบายต่างๆ ของพรรคถึงกระแสข่าวที่ระบุว่าตนจะควบตำแหน่งรมว.กลาโหม ว่า ขอยืนยันตนจะไม่ควบทั้ง 2 ตำแหน่ง และจะขอรับเพียงตำแหน่งเดียวเท่านั้น เพราะถือว่าเป็นตำแหน่งที่มีภารกิจ และนโยบายที่จะต้องผลักดันเพื่อให้เกิดความชัดเจน

ทั้งนี้ ขอยืนยันว่าโผคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะจัดทำขึ้นที่ประเทศไทย โดยพิจารณาตามความรู้ความสามารถ ซึ่งตอนนี้ได้มีการเริ่มมองบุคคลภายนอกเอาไว้ในใจแล้ว แต่ขอยังไม่ระบุว่าเป็นใครและจะนั่งในกระทรวงใด เนื่องจากยังต้องรอการประกาศรับรองผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการก่อน ซึ่งคาดว่าภายหนึ่ง 1 สัปดาห์ ภายหลังจากที่มีการแต่งตั้งตำแหน่งของตนเอง โผ ครม.ก็จะเสร็จสิ้น เนื่องจากเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ประชาชนสับสน เพราะตนได้ประกาศว่าจะจัดทำด้านนโยบายก่อน
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ครม.ชุดนี้ตนจะพยายามฟอร์มทีมให้หน้าตาออกมาดูดี เนื่องจากตนอยากจะทำให้ดีที่สุด เมื่อผุ้สื่อข่าวถามว่า หากจะทำให้ดูดี จะต้องไม่มีกลุ่มคนเสื้อแดงเข้ามาหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า คงไม่จำเป็น เพียงแค่ดูคนที่มีความรู้ ความสามารถ อย่างไรก็ตาม คงไม่ถึงขนาดที่จะต้องเชิญบุคคลดังกล่าวมาแสดงวิสัยทัศน์ก่อนเข้ารับตำแหน่ง

"ไม่ได้คาดหวังว่าทางกกต.จะรับรองตำแหน่งส.ส.ของตนในวันนี้เลยหรือไม่ แต่ก็ขอยืนยันว่า กรณีการผัดหมี่โคราช เป็นการผัดอย่างเดียว ไม่ได้มีการแจกจ่ายประชาชน"

** ค่าแรง 300 บาทรอปีหน้านะจ๊ะ

น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวถึงกรณีที่ยังคงมีข้อกังวลถึงการแบกรับภาระจากการปรับเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำเป็น 300 บาทต่อวันว่า นโยบายนี้จะเริ่มต้นในเดือนม.ค.2555 ซึ่งในปีนี้จะมีการทำงานร่วมกับกระทรวงแรงงาน ภาคเอกชน สำนักงบประมาณ จะเป็นการศึกษาที่พรรคเพื่อไทยจะสะท้อนให้เห็นว่าจะมีการช่วยเหลือภาคผลิตอย่างแท้จริง ตนจึงขอยืนยันว่านโยบายที่ประกาศเอาไว้ พรรคเพื่อไทยจะขอขับเคลื่อนให้เป็นจริงในทุกนโยบาย

** ข้าวตันละ15,000ปลายปีคุยกัน

หลังการประชุมยุทธศาสตร์ด้านนโยบาย น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวอีกว่า ได้มีการหารือใน 2 หัวข้อหลัก คือ การก่อร่างนโยบายที่จะนำเสนอกับประชาชน และนโยบายเร่งด่วน ซึ่งที่ประชุมได้มีการรายงานความคืบหน้าต่างๆ โดยนโยบายทุกๆ นโยบายจะต้องรู้ว่าเมื่อปฏิบัติแล้วจะเป็นอย่างไร ทั้งนี้ ก็จะต้องหารือกับผู้เชี่ยวชาญเฉพาะเรื่องด้วย

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ประเทศอินโดนีเซียจะเปลี่ยนการรับซื้อข้าวจากประเทศไทย ไปเป็นประเทศเวียดนามนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า นโยบายรับจำนำข้าว ก็ต้องดูระบบอื่นๆ ของข้าวด้วย เช่น ปริมาณการผลิต และการส่งออก แต่ตนเชื่อว่าข้าวไทยเป็นข้าวที่มีคุณภาพ ก็จำเป็นที่จะต้องเน้นเรื่องคุณภาพด้วย ไม่ใช่เรื่องของราคาอย่างเดียว จึงจำเป็นที่จะต้องมีการหารือกับประเทศเพื่อนบ้าน

อย่างไรก็ตาม คาดว่านโยบายนี้จะเริ่มต้นได้ในช่วงฤดูเก็บเกี่ยวครั้งหน้าในเดือนพ.ย. ตอนนี้ยังไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้มากนัก เนื่องจากกังวลถึงการกักตุนปริมาณของข้าวเปลือก ซึ่งจะกระทบกับประชาชนในช่วงนี้ได้

นอกจากนี้ ในที่ประชุมยังได้หารือเรื่องการลดราคาของสินค้าอุปโภคบริโภคในบางรายการที่มีการปรับราคาสูงขึ้น และยังเป็นสินค้าที่ประชาชนจำเป็นต้องใช้ อย่างไรก็ตาม ก็จำเป็นที่จะต้องดูโครงสร้างราคาของสินค้าด้วย ส่วนนโยบายถมทะเลให้กลายเป็นเมืองใหม่ ของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นั้น ในขณะนี้ยังไม่ขอพูดถึง หากมีความชัดเจนแล้วจะชี้แจงให้ทราบ

**"มาร์ค"ให้เวลารัฐบาลทำตามนโยบาย

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงนโยบายของพรรคเพื่อไทยที่กำลังได้รับการวิพากษ์วิจารณ์อยู่ในขณะนี้ว่า นโยบายใดที่จะมีผลกระทบ ควรจะเร่งหามาตรการรองรับ และปรึกษาหารือกับผู้ที่จะได้รับผลกระทบ ก็จะดำเนินการได้ อย่างไรก็ตาม ต้องให้เวลาเขา อย่างเรื่องค่าแรง 300 บาท ก็มีการพูดเปรยๆ ว่า ยังไม่ได้ทำทันที ฉะนั้น เขาคงมีเวลาเตรียมมาตรการรองรับ

เมื่อถามว่า ตอนนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ออกมาชี้นำแล้วว่าจะขึ้นค่าแรงเฉพาะกรุงเทพฯ ปริมณฑล และจ.ภูเก็ต นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เท่าที่ฟังยังไม่มีข้อยุติอะไร อยากย้ำอีกครั้งว่า จริงๆ อยากให้รัฐบาลได้ใช้เวลาศึกษาทุกอย่างให้ดีเสียก่อน เพราะการออกมาให้ความเห็นกันมากๆ มันอาจทำให้เกิดความสับสน เดี๋ยวจะเกิดความคาดหวัง หรือไปอะไรต่างๆ แล้วจะเป็นปัญหาภายหลัง

เมื่อถามว่า การยังไม่ตกผลึกทางความคิด แต่ไปกำหนดนโยบายหาเสียง มันคือความรับผิดชอบต่อประชาชนหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ในฐานะพรรคการเมือง เขาต้องรับผิดชอบ แต่ก็ต้องเปิดโอกาส ยังไปสรุปไม่ได้ว่าทำได้ไม่ได้ เขามีหน้าที่ที่จะต้องเดินหน้า ทำตามคำมั่นที่สัญญาไว้

** อย่านั่งควบจะได้มีเวลาทำอย่างอื่น

เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะนั่งควบรมว.กลาโหมด้วย นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า รอให้ได้ข้อยุติก่อนดีกว่า เพราะตนไม่ทราบ แต่เป็นสิทธิ์ที่ทำได้ ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีหลายท่าน ก็ควบ สำหรับตนที่ตัดสินใจไม่ควบตำแหน่งใดเลย เพราะคิดว่าภาระตรงนี้ค่อนข้างจะมากอยู่แล้ว

เมื่อถามว่า ความสัมพันธ์ระหว่างการเมืองกับกองทัพหลังจากนี้ไป คิดว่าควรจะเป็นอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ควรจะเป็นตามกระบวนการ ตามวิถีทางของประชาธิปไตย กองทัพมีหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ ตามกฎหมาย ก็ต้องดำเนินการไป และสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล ขณะเดียวกัน รัฐบาลก็ควรจะให้กองทัพดำเนินการตามภารกิจหน้าที่ได้อย่างเต็มที่

เมื่อถามว่า มีความเป็นห่วงว่า กองทัพ ถูกทำให้เผชิญหน้ากับพรรคเพื่อไทยมาโดยตลอด จะมีปัญหาเรื่องการเมืองเข้าไปแทรกแซงหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เวลานี้น.ส.ยิ่งลักษณ์ กับพรรคเพื่อไทย จะต้องพยายามลดบรรยากาศของการเผชิญหน้ากับทุกภาคส่วนให้เป็นไปตามนโยบายที่อยากจะเดินไปสู่การปรองดอง ดังนั้น อะไรที่เป็นการแบ่งแยก และเผชิญหน้าก็ควรจะลด

**ต้องก้าวข้าม"ทักษิณ"ให้ได้

เมื่อถามว่า รู้สึกอย่างไร ที่หลังการเลือกตั้งแล้วประเทศไทยยังก้าวข้าม พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยังไม่ทราบว่าก้าวข้าม ไม่ข้าม เมื่อถามว่าเวลานี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังออกมาชี้นำการบริหารประเทศ ผ่านพรรคเพื่อไทยอยู่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยังไม่ทราบว่ารัฐบาลเขาจะมีท่าทีอย่างไรกับการชี้นำ มื่อถามว่าในทางกฎหมาย มีอะไรที่จะสามารถเอาผิดได้หรือไม่ ที่ให้คนหนีคดี มาชี้นำการบริหารประเทศ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ชี้นำมากๆ อาจจะนำไปสู่การก้าวข้ามได้ เมื่อถามว่า คิดว่าประเทศไทย จะก้าวพ้น "พี่ชายสั่ง น้องสาวปฏิบัติ" ได้ หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ต้องก้าวพ้น ต้องก้าวให้พ้นอยู่แล้ว

** ผบ.ทร.ไม่รับรมว.กลาโหม

พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผบ.ทร. กล่าวถึง กระแสข่าว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ทาบทามให้ ดำรงตำแหน่ง รมว.กลาโหม ว่า เป็นข่าวลือมากกว่า เพราะไม่มีการทาบทามอะไรเลย เป็นเรื่องที่มีการพูดคุยกันไป พูดกันมาว่า คนนั้นคนนี้จะเป็น รมว.กลาโหม ซึ่งเป็นการคาดเดา และบางทีก็มีข่าวว่า ตนเดินทางไปประเทศบรูไน โดยไปกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด เมื่อวันที่ 5-7 ก.ค.ที่ผ่านมา ความจริงตนไปส่งเรือร่วมพิธีสวนสนามทางเรือ ครบรอบ 50 ปี กองทัพเรือบรูไน มีการจัดนิทรรศการด้านอาวุธ ซึ่งการไปครั้งนี้ ไม่ได้มีการจัดทำโผ อะไรทั้งสิ้น และไม่ได้เดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ตามที่เป็นข่าว และตนไม่ได้เห็น และไม่ได้พบท่านเลย ได้เจอเพียงผบ.เหล่าทัพของชาติต่างๆ และวันนั้นได้รับประทานอาหารกับ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเท่านั้น

เมื่อถามว่า หากรัฐบาลขอให้ท่านดำรงตำแหน่ง รมว.กลาโหมเพื่อทำงานให้ประเทศชาติ พล.ร.อ.กำธร กล่าวว่า โดยส่วนตัว ตอนนี้อายุ 60ปี รับราชการมา 40 ปี เป็นเวลาที่ตนควรพักผ่อนอยู่กับครอบครัว เป็นเวลาที่จะทำในสิ่งที่ชอบ ได้พบกับความสุข ได้ศึกษาในเรื่องที่เราไม่เคยศึกษา ไม่ว่าทางโลก ทางธรรม ตนตั้งใจเช่นนี้มานานแล้ว

"มีคนเหมาะสมเยอะแยะ คงไม่ใช่ผม ที่จะเก่งกาจอะไร คนเก่งๆ มีเยอะ ทั้งคนในเพื่อไทยเอง หรือตท.10 ที่ ช่วยงานในพรรค แต่ไม่มีชื่อในปาร์ตี้ลิสต์ คนที่มีขีดความสามารถก็มี คิดว่า ผมยังดำรงจุดมุ่งหมายของผม คือ ขอพักผ่อน หาความสงบ ดูแลครอบครัวเป็นพลเมืองที่ดี เป็นพ่อบ้านที่ดี และเป็นพุทธศาสนิกชนที่ดี" ผบ.ทร. กล่าว

** หนุน"ขุนค้อน"นั่งประธานสภา

นายสิงห์ชัย ทุ่งทอง ส.ว.อุทัยธานี โฆษกคณะกรรมการติดตามสถานการณ์บ้านเมือง วุฒิสภา กล่าวถึงความเคลื่อนไหวจัดตั้งรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย ที่มีข่าวลือเรื่องโควตา ว่า น่าจะเป็นการโยนหินถามทางของพวกตัวเล็กๆ ในพรรค ใครขยับก็เป็นข่าวอยู่แล้วช่วงนี้ แต่คิดว่าพรรคเพื่อไทย หัวหน้าใหญ่จะเป็นคนกำกับ โดยเฉพาะสถานการณ์แบบนี้ เชื่อว่า จะเอาคนที่สร้างภาพลักษณ์ให้ครม.ใหม่ และเน้นประสิทธิภาพ มากกว่าระบบโควตา เพื่อขับเคลื่อนนโยบาย ทั้งค่าแรงขั้นต่ำ เงินเดือนปริญญาตรี 1.5 หมื่นบาท ลดราคาพลังงาน โครงการรับจำนำข้าว ให้มีประสิทธิภาพ เพื่อดึงมวลชนเป็นฐานสนับสนุนให้เข้มแข็งขึ้น

ส่วนตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่มีแคนดิเดต 3 คน ได้แก่ นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ นายวิทยา บุรณศิริ และ ร.ต.อเฉลิม อยู่บำรุง ทุกคนมีความเหมาะสม แต่นายสมศักดิ์ จะดูเด่นกว่าคนอื่น เพราะมีประสบการณ์ เป็นรองประธานสภาฯ มาแล้ว 2 สมัย มีลูกนิ่ง และแม่นข้อบังคับ ส่วนนายวิทยา ก็มีความประนีประนอม แต่ยังมีภาพที่ติดกับพรรคมากกว่า ส่วนร.ต.อ.เฉลิม มีสีสัน พูดตรงไปตรงมาแบบซื้อใจกัน ส่วนตนชอบ ร.ต.อ.เฉลิม แต่ไม่แน่ใจว่า ในสถานการณ์แบบนี้ ที่อาจจะได้คนที่นุ่มนวลกว่า
กำลังโหลดความคิดเห็น