เครื่องดื่มชูกำลังที่โฆษณาสรรพคุณว่า มีวิตามิน แร่ธาตุ กินแล้วสมองดี ยังต้องมีคำเตือนตัวเล็กจิ๋วว่า “ โปรดอย่าดื่มเกินวันละ 2 ขวด”
ประกาศของสถาบันการเงิน เชื้อเชิญให้ประชาชนซื้อผลิตภัณฑ์การเงิน ยังต้องมีข้อความเตือนว่า “ การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดศึกษาข้อมูล ก่อนตัดสินใจ”
โฆษณาลดแลกแจกแถม ราคาพิเศษ ซื้อ 1 แถม 1 ยังมีเครื่องหมายดอกจันทน์ (***) ซ่อนเงื่อนไขว่า บริษัทขอสงวนสิทธิ เปลี่ยนแปลง โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
คำเตือน เครื่องหมายดอกจันทน์เหล่านี้ เป็นสิ่งที่แสดงว่า ประกาศชี้ชวน โฆษณาเหล่านั้น ไม่ใช่ความจริงทั้งหมด ส่วนใหญ่เป็นเรื่องโกหก ผู้บริโภค นักลงทุน ต้องฟังหูไว้หู อย่าหลงเชื่อ หากไม่เป็นจริงตามโฆษณา โทษเราไม่ได้ เพราะ เราเตือนคุณแล้ว
นโยบายของพรรคเพื่อไทย ตอนหาเสียง สัญญาว่า จะให้อย่างไม่มีเงื่อนไข ให้ทันที อย่างเช่น เพิ่มค่าแรงขั้นต่ำเป็นวันละ 300 บาท ให้เงินเดือน 15,000 บาท แก่ผู้ที่เพิ่งจบปริญญาตรี ลดราคาน้ำมันเบนซิน ลิตรละ 7 บาท ดีเซลลิตรละ 2.20 บาท ลดภาษีเงินได้นิติบุคคลเหลือ 23 % คืนภาษีรถยนต์ปีแรก ให้ผุ้ซื้อรถใหม่ จำนำราคาข้าวเปลอืกเกวียนละ 15,000 บาท ฯลฯ
หลังจากได้ชัยชนะในการเลือกตั้ง ได้จัดตั้งรัฐบาลแล้ว พรรคเพื่อไทยจึงเพิ่งจะมาใส่เครื่องหมายดอกจันทน์ข้างๆนโยบายหาเสียงนี้ เป็นต้นว่า ค่าแรงขั้นต่ำวันละ 300 บา ทที่ตอนหาเสียงสัญญาว่า จะให้ทั่วประเทศ เอาไหมคะ นั้น ขอใส่เครื่องหมายดอกจันทน์ว่า จะให้เฉพาะแรงงานที่มีฝีมือเท่านั้น จะให้เฉพาะในกรุงเทพ และภูเก็ต เท่านั้น จะไม่ให้ทันทีหรือภายใน 90 วัน แต่จะให้วันที่ 1 มกราคมปีหน้า หรือเดือนตุลาคมปีหน้า
คนที่จบปริญาตรี เอาไปเลยเงินเดือนๆละ 15,000 บาท เอาไหมคะ นั้น ขอใส่เครื่องหมายดอกจันทน์ว่า จะให้เฉพาะอำมาตย์ คือ พวกข้าราชการ ส่วนไพร่ กินเงินเดือนเอกชนไม่เกี่ยว
ราคาน้ำมันเบนซิน ที่หาเสียงว่า จะลดลงลิตรละ 7 บาท ดีเซลลิตรละ 2.20 บาท เอาไหมคะ นั้น ขอปรึกษาคณะกรรมการก่อนว่า จะหาเงินจากไหนมาอุ้มค่าแก๊สเอ็นจีวี และแอลพีจี เพราะถ้างดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน แก๊สเอ็นจีวีอาจจะขึ้นไปลิตรละ 15 บาท แก๊สหุงต้ม ขึ้นไปเป็นถังละ 500 บาท เอาไหมคะ
มีคนส่วนน้อยในประเทศเท่านั้น ที่รู้ว่า โฆษณาหาเสียง สัญญาว่าจะให้ของพรรคเพือ่ไทยนั้น แท้จริงแล้ว มีเครื่องหมายดอกจันทน์ดอกใหญ่เบ้อเริ่มเทิ่มอยู่แล้ว คือ ตัวผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญ นช. ทักษิณ ชินวัตร ผู้เป็นสัญลักษณ์ขอ งการ พูดอย่าง ทำอย่าง พูดไปก่อน ค่อยคิดทีหลังว่าจะทำได้หรือไม่ได้ และ ทำโดยมีผลประโยชน์ทับซ้อน
หนึงในนโยบายหลัก ที่ นช. ทักษิณ เป็นคนคิดให้พรรคเพื่อไทยนำไปหาเสียงคือ โครงการถมทะเลดังกล่าว สร้างเมืองใหม่ ที่ปาก่อ่าวไทย โดยจะถมทะเลออกไป 10 กิโลเมตร พร้อมกับสร้างเขื่อนกันน้ำทะเลเป็นแนวยาวเพื่อป้องกันและรักษาระดับน้ำทะเลไม่ให้เข้ามาท่วมกรุงเทพฯ และการถมทะเลจากปากน้ำจนถึงจังหวัดสมุทรสาครจะทำให้ได้ที่ดินเพิ่มรวมประมาณ 3 แสนไร่ แผ่นดินงอกใหม่นี้จะถูกสร้างเป็นเมืองใหม่โดยแบ่งเป็นพื้นที่สาธารณะ 2 แสนไร่ อีก 1 แสนไร่ จะนำไปขายให้กับเอกชนที่จะเข้ามาลงทุน กะว่าจะฟันกำไรถึงไร่ละ 20 ล้าน รวมแสนไร่ก็เป็นเงินมหาศาลถึงสองล้านล้านบาท เงินส่วนนี้จะถูกผันไปพัฒนาระบบน้ำใน 25 ลุ่มน้ำทั่วประเทศ โดยเฉพาะชลประทานระบบท่อที่ต้องใช้เม็ดเงินลงทุนประมาณ 4 แสนล้านบาท
คงเป็นเพราะอยู่ดูไบหลายปี นช. ทักษิณ จึงอาจจะจดจำโครงการดูไบ เวิลด์ ที่มีการถมทะเล สร้างเกาะเป็นชื่อประเทศต่างๆ ขายให้กับมหาเศรษฐี ดาราฮอลลี่วู้ด บุคคลผู้มีชื่อเสียงทั้วโลก นำมาเป็นไอเดียของตน
เมื่อต้นปีนี้ ในศาลดูไบ เวิล์ด ซึ่งเป็นศาลเฉพาะที่จัดตั้งขึ้นเพื่อตัดสินคดีความ ที่เป็นข้อพิพาทเกี่ยวกับ การลงทุน ในโครงการนี้โดยตรง ผู้บริหารของบริษัทเพนกวิน มารีน ซึ่งเป็นผู้รับจ้างการบริการขนส่งระหว่างแผ่นดินใหญ่กับเกาะต่างๆในโครงการดูไบ เวิลด์ ไปให้การในศาลว่า เกาะต่างๆในโครงการกำลังจมลงไปในทะเล เพราะทรายและหินที่นำมาถมทะเลให้เป็นแผ่นดินนั้น ทรุดตัวลงไปเรื่อยๆ ส่วนร่องน้ำ ที่เป็นเส้นทางเดินเรือ ก็เริ่มตื้นเขิน
นอกจากนั้น ทั้งโครงการ มีเกาะกรีนแลนด์ เพียงเกาะเดียว ที่มีการปลูกสร้างบ้านพักอาศัย เพราะเจ้าของเกาะ คือ เจ้าผู้ครองนครดูไบ ที่ต้องการสร้างภาพให้โครงการ ส่วนเกาะอื่น ล้วนเป็นเกาะร้าง
แต่ผู้บริหารของบริษัทนาคีล ซึ่งเป็นเจ้าของโครงการปฏิเสธว่า เกาะต่างๆในดูไบ เวิลด์ ไม่มีการทรุดตัวแต่อย่างใด
วิธีคิดของ นชข. ทักษิณ กับบริวาร ที่นั่งจิ้มเครื่องคิดเลขว่า แผ่นดินที่งอกขึ้นใหม่ 3 แสนไร่ จะเอาไปขาย 1 แสนไร่ กำไรไร่ละ 20 ล้านบาท รวมแสนไร่เป็นเงิน 2 ล้านล้านบาท ก็เหมือนกับวิธีคิด ในโครงการอีลิท การ์ด ที่ฝันเฟื่องว่า จะขายบัตรใบละ 1 ล้านบา ทให้กับคนต่างชาติ และ 2 ล้านบาทสำหรับนิติบุคคลต่างชาติ ภายใน 5 ปี จะหาสมาชิกได้ 5 ล้านคน ได้เงินเข้าประเทศ 1 ล้านล้านบาท โดยตั้งเป้าว่า ในปีแรกคือ ปี 2547 จะหาสมาชิกได้ 1 แสนราย
โครงการนี้เริ่มดำเนินการปลายปี 2546 จนถึงต้นปี 2552 มีสมาชิกสะสมรวม 2,570 ราย หรือเท่ากับ 0.25 % ของเป้าที่ตั้งไว้ได้เงินมาเพียง 500 ล้านบาทเท่านั้น แต่มีหนี้สิน และยอดขาดทุนสะสม 1 พันกว่าล้านบาท ตกทอดเป็นมรดกจากยุค คิดใหม่ ทำใหม่มาจนถึงยุค ทักษิณคิด เพื่อไทยทำในวันนี้
นีคือ เครื่องหมายดอกจันทน์ ดอกแรกของนโยบายถมทะเล ขายแผ่นดิน คือ ความเป็นไปไม่ได้ แตเรื่องที่มีความสำคัญที่สุด ที่จะส่งผลกระทบอย่างมหาศาลต่อสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ และชีวิตของคนไทยในแถบปากอ่าวไทย อันเป็นพื้นที่เป้าหมายแหง่การถมทะเล ขายแผ่นดิน
เคยถามคนไทยเหล่านั้น และคนไทยทั้งประเทศไหม อย่าคิดว่า ชนะเลือกตั้งแล้ว จะทำอะไรก็ได้ เพราะที่ได้ไปนั้นคือ อำนาจทางการเมือง แต่แผ่นดินไทย ยังเป็นของคนไทยทุกคน ในแผ่นดินนี้
อย่างไรก็ตาม ฟันธงได้เลยว่า นโยบายนี้ ไม่มีทางทำได้อย่างแน่นอน 100 % เพราะนอกจากจะมีปัญหาในทางก่อสร้างแล้ว ยังจะถูกต่อต้านคัดค้านจากประชาชนอย่างหนักหน่วง จริงจังแน่