เอ็มโอยู 43 ที่รัฐบาลอภิสิทธิ์ ดื้อตาใสกอดเอาไว้แน่น ไม่ได้มีความศักดิ์สิทธิ์ใดๆ ที่ฝ่ายกัมพูชาจะฟังเสียงทักท้วงของฝ่ายไทย ไม่ใช่เฉพาะกรณีการรุกล้ำตั้งชุมชน สร้างวัด บนเขาพระวิหารเท่านั้น แม้แต่การสร้างบ่อนกาสิโนที่ปอยเปตของพรรคพวก ฮุน เซน ที่มีการดัดแปลงสภาพแวดล้อม ทำให้แนวเขตแดนเปลี่ยน พื้นที่ของไทยบางส่วนสูญเสียให้แก่กัมพูชามาตั้งแต่เริ่มเซ็นเอ็มโอยู เมื่อปี 2543 จนบัดนี้กัมพูชายังเมินเฉยไม่แก้ไขแต่อย่างใด
รัฐบาลอภิสิทธิ์ มีข้ออ้างและเหตุผลต่างๆ นาๆ ที่จะไม่ยกเลิกบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกไทย - กัมพูชา พ.ศ. 2543 หรือเรียกสั้นๆ ว่า เอ็มโอยู 43ด้วยเชื่อว่า บันทึกช่วยจำดังกล่าว เป็นเครื่องมือวิเศษที่กำหนดว่าทั้งสองฝ่ายจะไม่เปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขสภาพสิ่งแวดล้อมบริเวณชายแดนไทย - กัมพูชา ที่จะทำให้เส้นเขตแดนมีปัญหาหรือเปลี่ยนไป ทั้งที่จริงแล้วมีแต่เพียงฝ่ายไทยเท่านั้นที่เชื่อและปฏิบัติตามข้อตกลงนั้น หาใช่กัมพูชาไม่
กรณีการรุกล้ำสร้างชุมชนและวัดบนเขาพระวิหาร ฯลฯ พร้อมกับหยามฝ่ายไทยล่าสุดด้วยการปักป้าย “จุดนี้ เป็นที่ซึ่งคนไทยเคยรุกล้ำเข้า” และ “ที่นี่กัมพูชา” ก่อนที่จะถูกฝ่ายทหารของไทยกดดันจนต้องทุบทิ้งนั้น เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดที่สะท้อนให้เห็นถึงความไม่ศักดิ์สิทธิ์ของเอ็มโอยู 43 เพราะฝ่ายกัมพูชาไม่ได้สนใจการทักท้วงที่นับครั้งไม่ถ้วนของทางการไทย
ไม่ใช่แต่ที่เขาพระวิหารเท่านั้น จุดที่เป็นข้อพิพาทกันมานานนับทศวรรษ เช่น จุดก่อสร้างบ่อนการพนันบริเวณตำบลปอยเปต อำเภอโอโจรว จังหวัดบันเตียเมียนเจย ที่เปิดบริการแก่นักพนันไปแล้วในเวลานี้ ก็มีปัญหาการดัดแปลงสภาพแวดล้อม ทำให้ลำน้ำแคบลง และเป็นทางเดินของน้ำ มีผลกระทบต่อเขตแดน ซึ่งฝ่ายไทยได้เจรจาให้กัมพูชาจัดการแก้ไขมาตั้งแต่เริ่มก่อสร้างเมื่อปี 2542 จนถึงบัดนี้ ฝ่ายกัมพูชา ก็ยังทำหูทวนลมไม่ใส่ใจคำทักท้วงใดๆ
รายงานของกองกำลังบูรพา ซึ่งมีพื้นที่รับผิดขอบตลอดแนวชายแดนไทย - กัมพูชา ความยาว 165 กิโลเมตร ตั้งแต่เขตติดต่อกับแม่ทัพภาค 2 ในพื้นที่อำเภอตาพระยา ถึงปลายแหลมหนองเอี่ยน อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ได้ระบุว่า ปัญหาบ่อนการพนันตามแนวชายแดนไทย - กัมพูชา เป็นปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ โดยกล่าวถึงสภาพปัญหาก่อสร้างบ่อนนับแต่ปี 2542 ว่า มีกลุ่มนักธุรกิจไทยร่วมกับนักธุรกิจกัมพูชา ว่าจ้างบริษัท PTA คอนสตรัคชั่น จำกัด ดำเนินการก่อสร้างบ่อนการพนันที่ตั้งอยู่ติดกับแนวคลองลึก ห่างจากจุดผ่านแดนถาวรคลองลึก-ปอยเปต ไปทางทิศตะวันออกประมาณ 100 เมตร
การดำเนินการทำให้ดินไหลงลงสู่คลองลึก เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยจึงได้แจ้งเตือนให้บริษัทดำเนินการตักดินขึ้น ต่อมากลุ่มนักธุรกิจไทย ประสบปัญหาทางการเงินจึงขอถอนตัว นักธุรกิจกัมพูชา ซึ่งมีนายกิด เมา ได้ร่วมหุ้นกับนาย ก๊ก อาน (คนสนิทของสมเด็จฯ ฮุน เซน) ดำเนินการต่อ โดยว่าจ้างบริษัท VSP จำกัด เข้ารับช่วงดำเนินการต่อจากบริษัทเดิม ทำให้ตลิ่งคลองลึกฝั่งกัมพูชาสูงกว่าฝั่งไทยประมาณ 3 เมตร ดินฝั่งกัมพูชาไหลลงสู่ฝั่งไทย ทำให้ลำน้ำคับแคบลง และเปลี่ยนทางเดินของน้ำ มีผลให้พื้นที่ของไทยบางส่วนสูญเสียให้แก่กัมพูชา
ปัญหาที่เกิดขึ้น มีการประชุมร่วมระหว่างผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว และรองผู้ว่าราชการจังหวับันเตียเมียนเจย เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2543 ได้มีการเจรจาและทำบันทึกความเข้าใจเพื่อก่อสร้างเขื่อนคอนกรีตแต่ยังไม่สามารถตกลงกันได้
รายงานของกองกำลังบูรพา ยังระบุว่า กัมพูชาได้ปรับถมดินและดัดแปลงสภาพแวดล้อมบริเวณตลิ่งของลำน้ำคลองลึกฝั่งกัมพูชา ซึ่งแนวเขตแดนบริเวณดังกล่าวได้ยึดเอาลำน้ำคลองลึกเป็นแนวเขตแดนร่วมระหว่างสองประเทศ กองกำลังบูรพา ได้รายงานข้อเท็จจริงให้หน่วยเหนือทราบ และใช้กลไกระดับท้องถิ่นในการเจรจากับตัวแทนของฝ่ายกัมพูชา เพื่อให้ยุติการดำเนินการดังกล่าว เนื่องจากเป็นการขัดต่อเอ็มโอยู 43 แต่ว่าไม่บังเกิดผล กองกำลังบูรพา ได้ประสานแจ้งกระทรวงการต่างประเทศทราบ ซึ่งปัจจุบันเรื่องดังกล่าวอยู่ในขั้นตอนการแก้ไขปัญหา โดยใช้กลไกระดับประเทศผ่านกระทรวงการต่างประเทศ
หากนับจากปี 2543 ที่เกิดปัญหาเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมอันสืบเนื่องมาจากการสร้างบ่อนการพนันฝั่งปอยเปตกระทั่งถึงบัดนี้ ใช้เวลา 10 ปีมาแล้ว กระทรวงการต่างประเทศ ยังไม่สามารถแสดงฝีมือในการเจรจาให้มีการปรับสภาพแวดล้อมให้เหมือนเดิม ไม่ให้มีผลต่อเส้นเขตแดนดังที่ตกลงไว้ในข้อ 5. ของ เอ็มโอยู 43 แต่อย่างใด
สำหรับบ่อนการพนันที่ปอยเปต มีจำนวน 9 แห่ง ประกอบด้วย 1)บ่อนกาสิโนฮอลิเดย์ พาเลซ ตั้งอยู่ห่างชายแดนไทย 150 เมตร เจ้าของคือนายโทนี่ แทนดิโจโน่ นักธุรกิจลูกครึ่งอินโดนีเซีย-ไต้หวัน เจ้าของโรงแรมฮอลิเดย์อินน์ ร่วมกับนักธุรกิจชาวไทย
2)บ่อนกาสิโนโกลเด้นท์คราวน์คลับ ตั้งอยู่ห่างชายแดนไทยประมาณ 50 เมตร เจ้าของคือ นายก๊ก อาน นักธุรกิจชาวกัมพูชา คนสนิทสมเด็จฯ ฮุน เซน ร่วมกับนักธุรกิจชาวไทยเชื้อสายเกาะกง
3)บ่อนกาสิโนแกรนด์ไดม่อนซิตี้ เดิมชื่อ ปอยเปตรีสอร์ท ของนักธุรกิจชาวไทยเชื้อสายเกาะกง ต่อมาขายกิจการให้กับบริษัทจี คลับ อินเตอร์เนชั่นแนล โฮเทล แอนด์ กาสิโน ของอดีตส.ส.สมุทรปราการ
4)บ่อนกาสิโนสตาร์เวกัสเอ็นเทอร์เทนเมนต์ ของพล.ต.เตีย สด (พี่ชายของพล.อ.เตีย บัน รมว.กลาโหม กัมพูชา) โดยร่วมทุนกับนักธุรกิจชาวไทยและชาวไต้หวัน
5)บ่อนกาสิโนทรอปิคานา ของนักธุรกิจชาวไทย
6)บ่อนกาสิโนฮอลิเดย์ - ปอยเปต ตั้งอยู่ห่างชายแดนไทยประมาณ 150 เมตร ในอดีตคือบ่อนปอยเปต - อรัญ ต่อมาเจ้าของได้ขายหุ้น 51% ให้กับนายโทนี่ แทนดิโจโน่ เจ้าของบ่อนกาสิโนฮอลิเดย์พาเซ โดยนายเชง กีเฮง เจ้าของเดิมถือหุ้น 49%
7.บ่อนกาสิโนปริ้นเซส คราวน์ ตั้งอยู่ห่างชายแดนไทย 250 เมตร เจ้าของคือ นายก๊ก อาน หนึ่งในหุ้นส่วนของบ่อนโกลเด้นท์คราน์คลับ
8.บ่อนกาสิโนโนโฮวาเก็นติ้ง มีนายดาโต๊ะ ลามุย บูน นักธุรกิจชาวมาเลเซีย เป็นเจ้าของกิจการโยซื้ออาคารจากนายก๊ก อาน เจ้าของบ่อนกาสิโนปริ๊นเซสคราวน์คลับครึ่งหนึ่ง อยู่ในอาคารเดียวกับบ่อนกาสิโนปริ๊นเซส คราวน์คลับ
9.บ่อนกาสิโนปอยเปตรีสอร์ท แอนด์คลับ เป็นบ่อนการพนันในสังกัดของอดีตส.ส.สมุทรปราการ
การสร้างบ่อนข้างต้น มีอยู่ 5 แห่ง ที่การก่อสร้างมีการถมดินสร้างรั้ว ขุดดินทำบ่อน้ำ รวมทั้งปรับดินทำให้ดินไหลลงสู่ลำคลองลึกซึ่งเป็นแนวเขตแดนทำให้แนวเขตแดนเปลี่ยนหลายครั้ง ทำให้เกิดปัญหาเส้นเขตแดนตามมา คือ สตาร์ เวกัส, ปริ๊นเซส คราวน์ คลับ, ฮอลิเดย์ ปอยเปต, ฮอลิเดย์ พาเลซ และแกรนด์ ไดมอน ซิตี้
บ่อนพนันชายแดน ไม่เพียงแต่ทำให้เกิดปัญหาเส้นเขตแดนเท่านั้น แต่กองกำลังบูรพา ยังระบุว่า มีผลกระทบต่อไทยในหลายด้าน ทั้งการสูญเสียรายได้ทางด้านเศรษฐกิจ, ประชาชนจังหวัดสระแก้วติดการพนันมากขึ้น, ปัญหาอาชญากรรม ยาเสพติด สิ่งผิดกฎหมาย, ลักลอบเดินทางออกนอกประเทศโดยผิดกฎหมายของประชาชนทั้งสองฝ่าย, มีการปล่อยน้ำเสียจากบ่อนกาสิโนต่างๆ ลงสู่ลำน้ำคลองลึก ทำให้ลำน้ำเน่าเสียส่งกลิ่นเหม็น ส่งผลต่อสภาพแวดล้อมอย่างมาก
จากการตรวจสอบข้อมูลของกองกำลังบูรพา พบว่า มีนักพนันเข้าไปเล่นในบ่อนในแต่ละวันไม่ต่ำกว่า 2,500 - 3,500 คน ส่วน เสาร์ - อาทิตย์ ตกประมาณ 3,000 -4,000 คน ประมาณ 70% ของนักพนันเดินทางมาจากนอกเขตจังหวัดสระแก้ว โดยส่วนใหญ่มาจากกรุงเทพฯ การใช้เงินในบ่อนมีทั้งการโอนเงินผ่านบัญชีเจ้าของบ่อนในเมืองไทย (โพยก๊วน) เงินสด และรับจำนวนสิ่งของในบริเวณบ่อน ซึ่งมีเงินหมุนเวียนเดือนละประมาณ 2,500 ล้านบาท หรือตกปีละประมาณ 30,000 ล้านบาท
เม็ดเงินที่หมุนเวียนในบ่อนการพนันชายแดนไทย - กัมพูชา ปีละกว่า 30,000 ล้านบาาท ถือเป็นหม้อข้าวใบใหญ่ของคณะผู้นำกัมพูชา พรรคพวกฮุน เซน ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่เจ้าของบ่อนไม่ได้สนใจคำทักท้วงของฝ่ายทางการไทยในการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมจนเป็นปัญหาต่อเส้นเขตแดน เพราะกัมพูชารู้ว่า รัฐบาลไทยอ่อนปวกเปียก
ทั้งยังไม่น่าสงสัยเลยว่า เหตุใดฝ่ายรัฐบาลและทหารไทยจึงไม่กล้าปิดชายแดน ทุบหม้อข้าวของ ฮุน เซน และพวก ?? คงเพราะเกรงว่า กัมพูชาจะไม่มั่งคั่ง ดังคำให้สัมภาษณ์ของ กษิต ภิรมย์ รมว.กระทรวงการต่างประเทศ ผู้เปลี่ยนท่าทีจากที่เคยเรียกสมเด็จฯ ฮุน เซน ว่า “กุ๊ย” มาเป็นมิตรที่ดียิ่ง