xs
xsm
sm
md
lg

ลั่นกระสุนหวังสังหารแกนนำต้านโรงถลุงเหล็กฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สุพจน์ ส่งเสียง
ผู้จัดการรายวัน – แกนนำกลุ่มอนุรักษ์แม่รำพึงถูกคนร้ายลั่นกระสุนหมายสังหาร หลังเคลื่อนไหวคัดค้านโครงการโรงถลุงเหล็กเครือสหวิริยาที่บางสะพาน จน สผ.ชะลอการพิจารณาอีไอเอ และการลงทุนหยุดชะงัก

วานนี้ (20 ก.ค.) เวลาประมาณ 02.30 น. ขณะที่นายสุพจน์ ส่งเสียง แกนนำชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์แม่รำพึง เดินทางกลับเข้าบ้านพักหลังจากการประชุมกลุ่มชาวบ้านที่ ต.ธงชัย อ.บางสะพาน ได้ไม่นาน ได้มีกลุ่มคนร้ายยิงปืนเข้าใส่บ้านพัก จำนวน 6 นัด โดยวิถีกระสุนห่างจากจุดที่นายสุพจน์ อยู่ประมาณ 1 เมตร โดยตัวนายสุพจน์ และครอบครัวปลอดภัย

จากนั้น เมื่อเวลา 03.30น. นายสุพจน์ ได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้ว และชาวบ้านกำลังรอให้เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้งหนึ่ง เพื่อสืบสวนสอบสวนหาพยานหลักฐานเพื่อนำไปสู่การจับกุมผู้ก่อเหตุ

นายสุพจน์  เปิดเผยว่า สาเหตุของการถูกยิงบ้านมั่นใจว่ามาจากเรื่องเป็นฝ่ายวิชาการร่วมกับชาวบ้านคัดค้านการก่อสร้างโรงถลุงเหล็กของเครือสหวิริยาแน่นอน เพราะที่ผ่านมาก็ถูกคุกคาม มีการเสนอให้เงิน แต่ก็ยังคัดค้านต่อ ขณะนี้สถานการณ์ของกลุ่มทุนเริ่มเข้าตาจน และคิดตื้นๆว่าทำแบบนี้จะขู่ให้คนกลัวหยุดค้าน  แต่พวกเขาเข้าใจผิด เพราะชาวบ้านยิ่งโกรธแค้น  เพราะนี่คือความเหี้ยมโหดที่นายทุนไม่เคยเห็นชีวิตของชาวบ้านมีค่าเมื่อเทียบกับผลประโยชน์ของตน  เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะไม่ทำให้หยุดค้าน  เพราะถ้าโรงถลุงเกิดขึ้นได้ก็ต้องตายจากมลพิษอยู่แล้ว

จากการเปิดเผยของนางจินตนา  แก้วขาว  ประธานกลุ่มอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมบ้านกรูด กล่าวถึงสาเหตุของการยิงบ้านแกนนำกลุ่มอนุรักษ์แม่รำพึงครั้งนี้ว่านายสุพจน์  ส่งเสียง เป็นคนดีมีความประพฤติเรียบร้อย ครอบครัวอบอุ่น ไม่เคยมีปัญหาเรื่องส่วนตัวกับใคร สาเหตุเดียวที่ถูกยิงคือเรื่องคัดค้านการก่อสร้างโรงถลุงของเครือสหวิริยา  ที่จะมาสร้างห่างจากบ้านพ่อและแม่ ประมาณ 50 เมตร

ขณะนี้ประเด็นสำคัญ เรากำลังยื่นเรื่องร้องเรียนคือเรื่องทุจริตที่ดินร่วม 1,000ไร่ ทั้งโครงการใหม่และเก่า ของอุตสาหกรรมเหล็กเครือสหวิริยา เรากำลังสงสัยว่า มีการใช้พื้นที่ป่าชายเลน ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าคุ้มครอง ซึ่งสมบัติของส่วนรวม ถูกใช้เป็นส่วนหนึ่งใช้เป็นพื้นที่ก่อสร้างสายพานลำเลียง  ลานกองวัตถุดิบจากท่าเรือในโครงการก่อสร้างโรงถลุงเหล็กได้อย่างไร

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเราพบว่ามีการออกเอกสารสิทธิ์เอาพื้นที่ป่าสงวน ป่าคุ้มครองเหล่านี้ไปค้ำประกันเงินกู้จากธนาคารนครหลวงไทย 971 ล้านบาทเรียบร้อยแล้วและกำลังถูกคำสั่งกรมที่ดินเพิกถินเอกสารสิทธิ์เมื่อธ.ค 50 อีกทั้งที่ผ่านมาก็มีการก่อสร้างโรงงานอุตสาหกรรมรีดเหล็กในที่ดินสาธารณะของส่วนรวมอีกด้วย

"นี่คือปมสำคัญที่นำไปสู่การฉีกหน้ากาก ขัดผลประโยชน์มหาศาลถึงกับต้องยิง เพื่อให้เลิกขุดคุ้ยประเด็นนี้ เพราะจะกระทบทั้งโรงงานเดิมและโรงถลุงที่กำลังจะสร้างใหม่ อีกทั้งสาธารณะชนจะล่วงรู้ธาตุแท้ความรับผิดชอบที่บริษัทมีต่อสังคมว่า  พฤติกรรมที่แท้จริงของนายทุนที่เข้ามาหวังกอบโกย เป็นเวลา 10กว่าปีจนชุมชนทนไม่ได้ต้องไล่นั้น เป็นอย่างไร"

นายวิฑูรย์  บัวโรย  ประธานกลุ่มอนุรักษ์แม่รำพึง กล่าวว่า  เมื่อคืนวันที่ 15 ก.ค ที่ผ่านมาระหว่างที่ขบวนชาวบ้านจากประจวบฯเดินทางเพื่อเข้าร้องเรียน ที่สำนักนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในการคัดค้านการพิจารณาอีไอเอ.โรงถลุงเหล็กเครือสหวิริยา ที่ไม่เปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะและจะมีการนำเสนอเรื่องการทุจริตที่ดินไปทำกิจกรรมของโรงถลุงเป็นประเด็นสำคัญนั้น เมื่อเดินทางมาถึงบริเวณอำเภอกุยบุรี  รถโดยสาร พร้อมรถปิ๊กอัพในขบวนถูกขว้างปากระจกแตก ถูกโรยเรือใบบนถนนเพชรเกษมทำให้หวิดเกิดอุบัติเหตุใหญ่ จนต้องเข้ามาร้องเรียนเรื่องการถูกคุกคามนี้ต่อกับสว.รสนา โตสิตระกูล ที่รัฐสภา  และผ่านมาได้เพียง3วัน  บ้านของแกนนำด้านวิชาการของกลุ่มก็ถูกยิง

"เรื่องทุจริตที่ดินเป็นเรื่องใหญ่ที่เชื่อมโยงเครือข่ายไปถึงกลุ่มผลประโยชน์อย่างเป็นขบวนการ และขณะนี้เราทราบข่าวมาว่ากระบวนการพิจารณาอีไอเอ.สะดุดลงเพราะถูกชาวบ้านตรวจสอบอย่างหนักจนคาดว่า ไม่สามารถจะผ่านได้ตามความคาดหวังของนายทุนที่ผลักดันผ่านนักการเมืองเพื่อให้ผ่านอีไอเอ.ให้ได้ก่อนกันยายนนี้  จึงทำให้เกิดความผิดหวังอย่างรุนแรง"

กลุ่มอนุรักษ์แม่รำพึง เคลื่อนไหวคัดค้านโครงการโรงถลุงเหล็กของกลุ่มสหวิริยาที่จะเข้ามาลงทุนในพื้นที่ต.แม่รำพึง อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ มาอย่างต่อเนื่อง และที่ผ่านมาเกิดเหตุกระทบกระทั่งกันระหว่างชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์ฯ และกลุ่มมวลชนที่จัดตั้งโดยบริษัทฯเพื่อสนับสนุนโครงการ เป็นระยะๆ โดยเหตุการณ์รุนแรงสุดเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 24 ม.ค. 51 ที่สองฝ่ายเผชิญหน้า จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตหนึ่งราย

การเคลื่อนไหวคัดค้านโครงการของกลุ่มอนุรักษ์ฯ ที่ผ่านมา ส่งผลให้ที่ดินบริเวณป่าพรุซึ่งเครือสหวิริยาอ้างกรรมสิทธิ์เหนือผืนดินดังกล่าวถูกเพิกถอนบางส่วน อย่างไรก็ตาม เครือสหวิริยาให้เหตุผลว่าต้องการลดความขัดแย้งในพื้นที่จึงปรับเปลี่ยนผังพื้นที่ลงทุนใหม่ ซึ่งทำให้บริษัทต้องจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) ใหม่ นอกจากนั้น เครือสหวิริยา ยังต้องยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอใหม่ เนื่องจากโครงการไม่สามารถดำเนินการลงทุนตามกำหนดเวลาได้

วิน วิริยะประไพกิจ ผู้บริหารระดับสูงของเครือสหวิริยา กล่าวว่า ที่ผ่านมาบริษัทได้ลงทุนไปกับโครงการนี้แล้วประมาณ 4,000 ล้านบาท และเขายังเชื่อว่าโครงการฯจะได้รับการสนับสนุนจากคนส่วนใหญ่ในพื้นที่ให้เดินหน้าไปได้

ขณะที่การดำเนินโครงการโรงถลุงเหล็กของเครือสหวิริยา ต้องกลับมาเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ทั้งเรื่องอีไอเอและการขอบีโอไอ ทำให้การเผชิญหน้าระหว่างกลุ่มคัดค้านและกลุ่มสนับสนุนโครงการในพื้นที่ เป็นไปอย่างตึงเครียดยิ่งขึ้น แม้ว่าฝ่ายบริษัทจะตั้ง “กลุ่มสมานฉันท์” เพื่อให้ภาพความสามัคคีของคนในพื้นที่ปรากฏสู่สาธารณะผ่านการจัดงานเลี้ยงโต๊ะจีน ฯลฯ แต่ในทางความเป็นจริงกลับเป็นไปในทิศทางตรงกันข้าม

แกนนำกลุ่ม 5 พันธมิตรสิ่งแวดล้อมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ประกอบด้วย กลุ่มอนุรักษ์แม่รำพึง กลุ่มอนุรักษณ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมบ้านกรูด กลุ่มอนุรักษ์ทับสะแก กลุ่มรักท้องถิ่นบ่อนอก และกลุ่มรักบ้านเกิด ต.อ่าวน้อย ไม่ว่าจะเป็น นายวิฑูรย์ บัวโรย และ นายสุพจน์ ส่งเสียง นางจินตนา แก้วขาว หรือ นางสุนีรัตน์ แต้ชูตระกูล ต่างตกเป็นเป้าหมายในการข่มขู่คุกคามมาโดยตลอด และหวังผลถึงขั้นเอาชีวิต ดังกรณีที่เกิดขึ้นล่าสุดที่เกิดขึ้นกับนายสุพจน์ ส่งเสียง

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 15 ก.ค. 51 ระหว่างที่ชาวบ้านเดินทางไปยื่นหนังสือที่สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งคณะกรรมการผู้ชำนาญการ มีการประชุมพิจารณาอีไอเอโครงการโรงถลุงเหล็กฯ ได้มีกลุ่มบุคคลขับรถกระบะดักขว้างปาลูกตะกั่วขนาดน้ำหนักต่อลูกประมาณครึ่งกิโลกรัม และโปรยเรือใบสกัดกั้นการเดินทางหวังผลให้เกิดอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำ

การเข้าให้ข้อมูลของกลุ่มพันธมิตรสิ่งแวดล้อมจังหวัดประจวบฯ ทำให้การพิจารณาอีไอเอของสผ.ได้ยืดเวลาออกไปโดยคณะกรรมการผู้ชำนาญการ ต้องใช้เวลาพิจารณาข้อมูลใหม่อย่างรอบด้าน และทาง สผ. รับข้อเสนอของชาวบ้านว่า ก่อนที่จะมีการพิจารณาอีไอเอในครั้งต่อไป จะต้องรอให้มีการจัดตั้งองค์กรอิสระด้านสิ่งแวดล้อม ตามรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 มาตรา 67 ให้เสร็จเรียบร้อยเสียก่อน

การชะลอการพิจารณาอีไอเอออกไป ย่อมส่งผลให้การดำเนินการของโครงการต้องหยุดชะงักไปด้วย ทั้งที่ก่อนนี้บริษัทคาดหมายว่า อีไอเอจะผ่านการพิจารณาทั้งด้วยข้อมูลใหม่ที่นำเสนอต่อ สผ. และด้วยการทำงานมวลชนอย่างหนักในพื้นที่ของผู้จัดการงานมวลชนคนใหม่

ต่อมา เมื่อวันที่ 17 ก.ค. ที่ผ่านมา ชาวบ้านบ้านเขาแดง อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้จัดเวทีให้ข้อมูลชาวบ้านในพื้นที่เกี่ยวกับการก่อโรงสร้างโครงการโรงถลุงเหล็กที่ สภาพัฒน์ มีแผนว่าจะมีการก่อสร้าง มีผู้สนใจเข้าร่วมกว่า 1,000 คน โดย 5 พันธมิตรสิ่งแวดล้อม จ.ประจวบฯ เข้ามาร่วมให้ข้อมูลและอภิปรายถึงผลกระทบจากโครงการโรงถลุงเหล็ก นิคมอุตสาหกรรม และฉายวีดีทัศน์เรื่องผลกระทบจากนิคมอุตสาหกรรม จ.ระยอง

จนกระทั่งเวทีเลิกในเวลา 23.00 น. และระหว่างทางที่ชาวบ้านกลุ่มพันธมิตรฯ เดินทางกลับได้มีรถกระบะสองคันติดตามขบวนของชาวบ้านมาตลอดทางทำให้ชาวบ้านหวั่นเกรงว่าจะเกิดเหตุซ้ำรอยเหมือนคราวที่เดินทางไปให้ข้อมูลที่สผ.จึงประสานงานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตั้งด่านบริเวณห้วยยาง อ.ทับสะแก สกัดจับแต่ไม่สามารถจับได้

การข่มขู่คุกคาม ความรุนแรงที่เกิดขึ้นจากโครงการลงทุนขนาดใหญ่ ยังคงมองไม่เห็นหนทางยุติ ตราบใดที่ต่างฝ่ายต่างยืนอยู่บนเส้นทางคู่ขนานของการพัฒนา
กำลังโหลดความคิดเห็น