xs
xsm
sm
md
lg

ม็อบหนุน-ต้านโรงเหล็กสหวิริยาเผชิญหน้า ดับ1 เจ็บ1

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ม็อบหนุนปะทะม็อบต้านโรงเหล็กสหวิริยาต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายหนุนเสียชีวิต1 ราย ส่วนฝ่ายต้านบาดเจ็บส่งโรงพยาบาล 1 ราย

เหตุการณ์ชาวบ้านกลุ่มรักษ์แม่รำพึง ต.แม่รำพึง อ.บางสะพาน ที่คัดค้านโครงการก่อสร้างโรงถลุงเหล็กของเครือสหวิริยา ได้รวมตัวประท้วงที่บริเวณหมู่ 1 บ้านนาผักขวง ต.แม่รำพึง หลังจากบริษัท บางปะกงการโยธา จำกัด จะดำเนินการขุดคลองในพื้นที่เอกสารสิทธิ์ของบริษัท ประจวบพัฒนาดีวีล๊อบเม้นท์ จำกัด เกิดเหตุรุนแรงขึ้นเมื่อประมาณหนึ่งชั่วโมงกว่าที่ผ่านมา โดยฝ่ายสนับสนุนโครงการและฝ่ายคัดค้าน ได้ยิงหนังสติ๊ก ขว้างปาไม้ ก้อนหิน โต้ตอบกันไปมาในช่วงแรกและต่อมาได้มีการยิงปืนจากกลุ่มสนับสนุนโครงการ กระทั่งเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ขณะที่ฝ่ายคัดค้านได้รับบาดเจ็บ 1 รายและถูกนำส่งโรงพยาบาล

นางกรณ์อุมา พงษ์น้อย (วัดอักษร) หนึ่งในกลุ่มผู้ร่วมคัดค้านโครงการ เล่าเหตุการณ์ว่า เรื่องที่เกิดขึ้นส่อเค้าว่าจะเกิดเหตุรุนแรงมา 2 วันแล้วนับตั้งแต่บริษัทผู้รับเหมาจะเข้าถมดินในโครงการ แต่ทางกลุ่มผู้คัดค้านฯ ได้รวมตัวกันเข้าไปยับยั้งไม่ให้มีการถมดิน และในช่วงเช้าของวันนี้ (24 ม.ค.) ชาวบ้านได้รับแจ้งว่าผู้รับเหมาเอารถแบคโฮไปขุดดินเพื่อถมพื้นที่อีกแล้ว ชาวบ้านจึงรวมตัวกันประมาณ 100 กว่าคน เดินทางไปยังจุดที่รถแบคโฮจอดอยู่ ซึ่งขณะนั้น พบว่า มีกลุ่มชายฉกรรก์ จำนวน 50 –60 คน สวมเสื้อแดง คอยคุ้มกันให้มีการถมดินโดยมีไม้ หนังสติ๊ก ขวดเบียร์ เป็นอาวุธ ซึ่งกลุ่มผู้คัดค้านโครงการซึ่งสวมเสื้อเขียวได้บอกว่าขอให้ถอยไปเพราะคู่กรณีของชาวบ้านคือ บริษัทสหวิริยา ไม่ใช่ผู้รับเหมาถมดิน

นางกรณ์อุมา เล่าต่อว่า จากนั้น กลุ่มชายฉกรรก์สวมเสื้อสีแดงก็ถอยร่นไปอยู่ใกล้ๆ กับรถแบคโฮ ที่ทำงานอยู่ และเกิดเหตุการณ์เผชิญหน้ากันอีก ขณะนั้น มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ประมาณ 10 นายเข้าสังเกตการณ์อยู่ชั่วครู่และได้กลับออกไปทั้งที่สถานการณ์น่าจะเกิดเหตุรุนแรง ต่อมาไม่นาน ชายฉกรรจ์สวมเสื้อสีแดงก็ถือมีดจะวิ่งเข้ามายังกลุ่มผู้คัดค้าน จึงมีการยิงหนังสติ๊ก ขว้างปาไม้ ก้อนหิน ใส่กัน และถอยร่นกันไป อีกครู่หนึ่ง ฝ่ายชายฉกรรจ์สวมเสื้อแดง ได้เริ่มใช้ปืนยิงใส่กลุ่มผู้คัดค้านจนต้องหมอบหลบกันหลังต้นมะพร้าว โดยเสียงปืนที่ได้ยินมาจากหลายจุด และยิงเข้ามาหลายนัด ขณะนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้ามาระงับเหตุ

นางกรณ์อุมา เล่าเหตุการณ์หลังจากนั้นว่า กลุ่มผู้คัดค้านโครงการได้ประเมินสถานการณ์ร่วมกันแล้วเห็นว่าไม่มีความปลอดภัย จึงตัดสินใจถอยกลับเข้าหมู่บ้าน ขณะที่กำลังเคลื่อนขบวนมาก็เห็นกลุ่มชายฉกรรจ์สวมเสื้อสีแดงในระยะ 100 เมตร อยู่กับฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากนั้นสักพัก เจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นผู้น้อย มาขอให้กลุ่มผู้คัดค้านกลับเข้าหมู่บ้านโดยจะดูแลความปลอดภัยให้

ทางกลุ่มผู้คัดค้านโครงการฯ ได้ขอให้ทางเจ้าหน้าที่ฯ ตรวจค้นอาวุธกลุ่มชายฉกรรจ์สวมเสื้อแดงฝ่ายสนับสนุนโครงการ แต่เจ้าหน้าที่ฯ ไม่กล้าเข้าค้น และแจ้งกับทางกลุ่มผู้คัดค้านฯ ว่าฝ่ายนั้นมีผู้ถูกยิงตาย 1 คน จากนั้น ชาวบ้านกลุ่มผู้คัดค้านโครงการฯ ก็ตั้งขบวนกลับเข้าหมู่บ้านท่ามกลางการอารักขาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ฯ ซึ่งได้ตรวจค้นอาวุธแต่ไม่พบว่ามีปืนแต่อย่างใด มีเพียงหนังสติ๊กและไม้

นางกรณ์อุมา เล่าต่อว่า ทางฝ่ายผู้คัดค้านโครงการ ได้รับบาดเจ็บจากการปะทะกัน 1 คน โดยถูกยิงที่กลางอกขณะนี้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล

มีรายงานข่าวเบื้องต้นว่า ชาวบ้านจากกลุ่มพัฒนาบางสะพาน ที่เข้าร่วมสนับสนุนโครงการ ถูกยิงเสียชีวิต1 ราย คือ นายรักศักดิ์ คงตระกูล อายุ 36 ปี ด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. เข้าที่บริเวณหน้าอก เสียชีวิตที่โรงพยาบาลบางสะพาน

นายสุพจน์ ส่งเสียง แกนนำกลุ่มรักแม่รำพึง เปิดผยว่า ได้แจ้งให้นายอำเภอบางสะพานตรวจค้นอาวุธทุกผู้เกี่ยวข้องกับทุกฝ่าย ก่อนเกิดเหตุชุลมุนแต่ไม่ได้รับความสนใจ เมื่อนายอำเภอเดินทางมาถึงในบริเวณที่มีชาวบ้านเผชิญหน้าแต่ก็เดินทางกลับไปอีก ส่วนกรณีของผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นกลุ่มสนับสนุนคาดว่าน่าจะมีจากอาวุธปืนของพวกเดียวกัน เพราะชาวบ้านกลุ่มเสื้อเขียวที่มาชุมนุมส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุและเป็นสุภาพสตรีไม่มีอาวุธร้ายแรง นอกจากนั้นในขณะที่เหตุการณ์วุ่นวายชาวบ้านในกลุ่ม เสื้อเขียวยังโดนสะเด็ดของกระสุนปืนที่บริเวณหน้าอกได้รับบาดเจ็บสาหัส

ภายหลังเกิดเหตุการณ์รุนแรงดังกล่าว ที่ศาลากลางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายบงการณ์ ลิมปพันธ์ รอง.ผวจ. ,นายธวัชชัย ดิษยนันนท์ นายอำเภอบางสะพาน,และ พ.ต.อ.ทิวา บุญดำเนิน รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมหน่วยงานเกี่ยวข้องได้ประชุมหารือ ถึงเหตุการณ์ที่เกิดการปะทะกันระหว่าง 2 กลุ่ม

รายงานจากที่ประชุมแจ้งว่า เหตุการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้นในเบื้องต้นมีรายงานว่ามีกลุ่มเสื้อแดง ( ฝ่ายสนับสนุน) เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บ 4 ราย ซึ่งยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าเกิดจากใครหรือกลุ่มใดเป็นผู้ลงมือ ทั้งนี้ นายบงการณ์ ได้ประสานขอกำลังตำรวจชุดปราบปราจราจลและตร.ใกล้เคียงลงพื้นที่กว่า 300 นาย เพื่อป้องกันเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นอีก รวมถึงการที่จะดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้อง

นายบงการณ์ กล่าวว่า การปะทะกันระหว่างทั้ง 2 กลุ่ม จะให้ทาง พล.ต.ต.วิรัช วัชรขจร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตรวจสอบข้อเท็จจริง และยังได้มอบอำนาจให้ พ.ต.อ.สุรศักดิ์ สุขแสวง ผกก.บางสะพาน เป็นผู้บัญชาการด้านยุทธการในเรื่องดังกล่าว ให้มีอำนาจสั่งใช้กำลังด้วยความชอบธรรม ยอมรับว่าเหตุการณ์เช่นนี้ไม่น่าที่จะเกิดขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น