สุราษฎร์ธานี - ตัวแทนชาวบ้านในอำเภอท่าชนะ จังหวัดสุราษฎร์ธานี บุกศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด สอบถามผลการสอบสวนผู้ใหญ่บ้านที่ส่อทุจริตเงินหลวง และเงินหมู่บ้าน หวั่นเป็นมวยล้ม เตรียมยื่นเรื่องถึงแม่ทัพภาค 4 และ ป.ป.ท.ให้ดำเนินการต่อไป
วันนี้ (3 ก.ค.) ตัวแทนชาวบ้าน ต.ประสงค์ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี เดินทางเข้าพบ นางแววตา อาจหาญ หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อสอบถามความคืบหน้า กรณีตัวแทนชาวบ้านกว่า 20 คน ได้เข้ายื่นหนังสือผ่านทางศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสุราษฎร์ธานี ขอให้ นายวิชวุทย์ จินโต ผวจ.สุราษฎร์ธานี ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการทุจริตประพฤติมิชอบผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ที่เข้ายึดครอบครองพื้นที่สวนปาล์มน้ำมัน อายุประมาณ 10 ปี จำนวน 420 ต้น พื้นที่ประมาณ 23 ไร่ การจัดทำโครงการประปาหมู่บ้า นแต่ไม่ยินยอมจ่ายน้ำให้ชาวบ้านใช้ กักเก็บน้ำไว้ใช้แต่ผู้เดียว
การใช้งบประมาณหลวงประมาณ 200,000 บาท ก่อสร้างศาลาหมู่บ้าน และเรียกขอเงินสนับสนุนการสร้างศาลา แต่ไปก่อสร้างพื้นที่ของตนเอง หลังก่อสร้างเสร็จกลับนำไปประกอบธุรกิจเปิดร้านรับซื้อน้ำยางของตนเอง และไม่ยินยอมให้ชาวบ้านใช้ และการขุดดินสำนักสงฆ์บ้านร่มไทรไปขายแล้วนำเงินไปใช้ส่วนตัว พร้อมขอให้สอบสวนพฤติกรรมผู้ใหญ่บ้านที่อนุญาตเปิดให้เล่นการพนันในงานศพ
โดย นางแววตา อาหาญ หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า หลังจากรับหนังสือร้องเรียนแล้ว ได้นำเสนอต่อผู้ว่าราชการจังหวัด และได้ส่งเรื่องไปให้ นายวิสูตร อินทร์กำเนิด นายอำเภอท่าชนะ ดำเนินการสอบสวนหาข้อเท็จจริง และให้สรุปส่งเรื่องกลับมาในวันที่ 2 กรกฎาคม 2561 แต่ขณะนี้ทางอำเภอยังไม่ได้สรุปเรื่องส่งมา ซึ่งคาดว่าทางอำเภอคงยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบคงอาจต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง
ส่วนเรื่องร้องเรียนที่มีส่วนพัวพันกับสำนักสงฆ์บ้านร่มไทร นั้น ทางศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดได้ส่งเรื่องไปให้ทางสำนักพุทธศาสนาจังหวัดสุราษฎร์ธานี ดำเนินการตรวจสอบหาข้อเท็จจริงเช่นกัน แต่ขณะนี้ก็ยังไม่ส่งเรื่องกลับมาเช่นกัน
ด้าน นายมาโนช พัฒวี หนึ่งในตัวแทนชาวบ้าน กล่าวว่า จะให้เวลาทางเจ้าหน้าที่อีก 3 วัน หากไม่มีอะไรคืบหน้าในสัปดาห์หน้าเตรียมยื่นหนังสือถึง พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาค 4 และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในในภาครัฐ (ป.ป.ท.) จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จ และทำความจริงให้ปรากฏ เนื่องจากในขณะนี้ชาวบ้านในพื้นที่ได้แบ่งเป็น 2 กลุ่ม มีทั้งฝ่ายเชียร์ และฝ่ายต้าน หากผลการสอบสวนล่าช้าความขัดแย้งของคนในชุมชนอาจจะรุนแรงเพิ่มขึ้น
ในขณะที่ นายคุณัญพงษ์ ทหารไทย ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ได้รับเรื่องจากศูนย์ดำรงธรรมแล้ว และได้ประสานขอรายละเอียดและข้อมูลในเบื้องต้นกับพระครูสุขุมธรรมโกศล เจ้าคณะตำบลประสงค์ เจ้าอาวาสวัดกาฬสินธุ์แล้ว และยังอยู่ในระหว่างหาข้อมูลเพิ่มเติมไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้
ส่วนพระครูสุขุมธรรมโกศล เจ้าคณะตำบลประสงค์ เปิดเผยว่า รายละเอียดได้ให้ทางสำนักพุทธศาสนาไปแล้ว สำหรับการก่อสร้างสำนักสงฆ์บ้านร่มไทร ที่ใหม่แทนที่เก่ามีการขุดดิน และปรับพื้นที่จริง ซึ่งรายละเอียดเรื่องดังกล่าวตนไม่ทราบมากนัก ส่วนพื้นที่สำนักสงฆ์เก่าได้มีการปลูกปาล์มน้ำมัน โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน ประกอบด้วย ส่วนหนึ่งแบ่งเป็นผลประโยชน์ของวัด มีคณะกรรมการดูแล อีกส่วนแบ่งเป็นรายได้เข้าหมู่บ้านเพื่อไว้ใช้ในกิจกรรมหมู่บ้าน ส่วนนี้ไม่ทราบรายละเอียดในการดูแลบริหารแต่อย่างใด
วันนี้ (3 ก.ค.) ตัวแทนชาวบ้าน ต.ประสงค์ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี เดินทางเข้าพบ นางแววตา อาจหาญ หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อสอบถามความคืบหน้า กรณีตัวแทนชาวบ้านกว่า 20 คน ได้เข้ายื่นหนังสือผ่านทางศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสุราษฎร์ธานี ขอให้ นายวิชวุทย์ จินโต ผวจ.สุราษฎร์ธานี ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการทุจริตประพฤติมิชอบผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ที่เข้ายึดครอบครองพื้นที่สวนปาล์มน้ำมัน อายุประมาณ 10 ปี จำนวน 420 ต้น พื้นที่ประมาณ 23 ไร่ การจัดทำโครงการประปาหมู่บ้า นแต่ไม่ยินยอมจ่ายน้ำให้ชาวบ้านใช้ กักเก็บน้ำไว้ใช้แต่ผู้เดียว
การใช้งบประมาณหลวงประมาณ 200,000 บาท ก่อสร้างศาลาหมู่บ้าน และเรียกขอเงินสนับสนุนการสร้างศาลา แต่ไปก่อสร้างพื้นที่ของตนเอง หลังก่อสร้างเสร็จกลับนำไปประกอบธุรกิจเปิดร้านรับซื้อน้ำยางของตนเอง และไม่ยินยอมให้ชาวบ้านใช้ และการขุดดินสำนักสงฆ์บ้านร่มไทรไปขายแล้วนำเงินไปใช้ส่วนตัว พร้อมขอให้สอบสวนพฤติกรรมผู้ใหญ่บ้านที่อนุญาตเปิดให้เล่นการพนันในงานศพ
โดย นางแววตา อาหาญ หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า หลังจากรับหนังสือร้องเรียนแล้ว ได้นำเสนอต่อผู้ว่าราชการจังหวัด และได้ส่งเรื่องไปให้ นายวิสูตร อินทร์กำเนิด นายอำเภอท่าชนะ ดำเนินการสอบสวนหาข้อเท็จจริง และให้สรุปส่งเรื่องกลับมาในวันที่ 2 กรกฎาคม 2561 แต่ขณะนี้ทางอำเภอยังไม่ได้สรุปเรื่องส่งมา ซึ่งคาดว่าทางอำเภอคงยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบคงอาจต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง
ส่วนเรื่องร้องเรียนที่มีส่วนพัวพันกับสำนักสงฆ์บ้านร่มไทร นั้น ทางศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดได้ส่งเรื่องไปให้ทางสำนักพุทธศาสนาจังหวัดสุราษฎร์ธานี ดำเนินการตรวจสอบหาข้อเท็จจริงเช่นกัน แต่ขณะนี้ก็ยังไม่ส่งเรื่องกลับมาเช่นกัน
ด้าน นายมาโนช พัฒวี หนึ่งในตัวแทนชาวบ้าน กล่าวว่า จะให้เวลาทางเจ้าหน้าที่อีก 3 วัน หากไม่มีอะไรคืบหน้าในสัปดาห์หน้าเตรียมยื่นหนังสือถึง พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาค 4 และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในในภาครัฐ (ป.ป.ท.) จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จ และทำความจริงให้ปรากฏ เนื่องจากในขณะนี้ชาวบ้านในพื้นที่ได้แบ่งเป็น 2 กลุ่ม มีทั้งฝ่ายเชียร์ และฝ่ายต้าน หากผลการสอบสวนล่าช้าความขัดแย้งของคนในชุมชนอาจจะรุนแรงเพิ่มขึ้น
ในขณะที่ นายคุณัญพงษ์ ทหารไทย ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ได้รับเรื่องจากศูนย์ดำรงธรรมแล้ว และได้ประสานขอรายละเอียดและข้อมูลในเบื้องต้นกับพระครูสุขุมธรรมโกศล เจ้าคณะตำบลประสงค์ เจ้าอาวาสวัดกาฬสินธุ์แล้ว และยังอยู่ในระหว่างหาข้อมูลเพิ่มเติมไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้
ส่วนพระครูสุขุมธรรมโกศล เจ้าคณะตำบลประสงค์ เปิดเผยว่า รายละเอียดได้ให้ทางสำนักพุทธศาสนาไปแล้ว สำหรับการก่อสร้างสำนักสงฆ์บ้านร่มไทร ที่ใหม่แทนที่เก่ามีการขุดดิน และปรับพื้นที่จริง ซึ่งรายละเอียดเรื่องดังกล่าวตนไม่ทราบมากนัก ส่วนพื้นที่สำนักสงฆ์เก่าได้มีการปลูกปาล์มน้ำมัน โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน ประกอบด้วย ส่วนหนึ่งแบ่งเป็นผลประโยชน์ของวัด มีคณะกรรมการดูแล อีกส่วนแบ่งเป็นรายได้เข้าหมู่บ้านเพื่อไว้ใช้ในกิจกรรมหมู่บ้าน ส่วนนี้ไม่ทราบรายละเอียดในการดูแลบริหารแต่อย่างใด
