อธิบดีกรมการค้าภายในไลฟ์สดชี้แจงสถานการณ์ราคาปาล์ม ยันราคาปาล์มดิบที่เกษตรกรขายได้มีราคาไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 3.10-3.40 บาท ที่เปอร์เซ็นต์น้ำมัน 18% พร้อมย้ำมีแนวทางช่วยเหลือ ทั้งเร่งผลักดันส่งออก ควบคุมการนำเข้า แต่เจอเกษตรกรตัวจริงถล่มยับไม่มีใครขายได้เกิน 3 บาท เผยราคาจริงขายได้แค่ 2 บาทกว่าๆ ถึง 2.70 บาทเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. วันที่ 19 เม.ย. 2561 นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายในได้ไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊ก “ประชาสัมพันธ์ กรมการค้าภายใน” ถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาราคาปาล์มตกต่ำ โดยนายบุณยฤทธิ์ได้เริ่มอธิบายถึงการทำงานช่วงที่ผ่านมา เริ่มจากวันที่ 15 มี.ค. 2561 คณะทำงานกำหนดราคาแนะนำผลปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มได้กำหนดราคาแนะนำการรับซื้อผลปาล์มดิบกิโลกรัม (กก.) ละ 3.80 บาท ที่เปอร์เซ็นต์น้ำมัน 18% สอดคล้องกับราคาน้ำมันปาล์มดิบที่ กก.ละ 21 บาท แต่หลังวันที่ 15 มี.ค. 2561 ผลปาล์มน้ำมันออกสู่ตลาดมากขึ้น ทำให้ราคาผลปาล์มและน้ำมันปาล์มดิบลดลงอย่างรวดเร็วเหลือ กก.ละ 3.30 บาท และ 19 บาท และมีแนวโน้มที่ราคาจะลดลงอีก
กรมการค้าภายในจึงได้หารือผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มแล้วและออกประกาศสำนักงานคณะกรรมการกลางว่าราคาสินค้าและบริการ เมื่อวันที่ 23 มี.ค. 2561 กำหนดราคารับซื้อน้ำมันปาล์มดิบ ไม่ต่ำกว่า กก.ละ 19.00 บาท ซึ่งจะส่งผลให้ราคาผลปาล์มน้ำมันอยู่ที่ กก.ละ 3.30-3.40 บาท เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันปาล์มดิบให้มีความเหมาะสมสอดคล้องกับภาวะตลาด และให้เกิดความเป็นธรรมแก่ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย โดยเฉพาะเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมัน ซึ่งอยู่ต้นน้ำที่ได้รับผลกระทบ ต่อมาคณะทำงานฯ จึงได้มีการทบทวนราคาแนะนำผลปาล์มน้ำมันใหม่เมื่อวันที่ 5 เม.ย. 2561 ไม่ต่ำกว่า กก.ละ 3.40 บาท (18% น้ำมัน) สอดคล้องกับสถานการณ์ในขณะนั้น ซึ่งราคาน้ำมันปาล์มดิบมีราคา กก.ละ 19 บาท
จากนั้นได้ลงพื้นที่ตรวจสอบการรับซื้อในพื้นที่แหล่งผลิตปาล์มน้ำมัน จ.ชุมพร กระบี่ สุราษฎร์ธานี สมุทรปราการ และปทุมธานี ปรากฏว่ามีการปรับราคารับซื้อผลปาล์มสูงขึ้นเป็น กก.ละ 3 บาท หลังจากราคาตกต่ำไปก่อนหน้านี้ และปัจจุบันราคาผลปาล์มสุก (18% น้ำมัน) ในพื้นที่แหล่งผลิตสำคัญ กก.ละ 3.10-3.40 บาท ซึ่งเป็นราคาที่สูงกว่าต้นทุนการผลิตที่ กก.ละ 3 บาท
นอกจากนี้ ได้ย้ำว่าได้เตรียมแนวทางการช่วยเหลือเกษตรกรโดยเร่งด่วน โดยเฉพาะการผลักดันการส่งออกน้ำมันปาล์มดิบเพราะราคาของไทยต่ำกว่ามาเลเซีย ซึ่งจะทำให้ส่งออกได้เพิ่มขึ้น ส่วนการลักลอบนำเข้าไม่น่าจะเป็นไปได้เพราะราคาของไทยถูกกว่า แต่ก็มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำกับดูแลอยู่แล้ว โดยจะนำเสนอคณะอนุกรรมการเพื่อบริหารจัดการปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มด้านการตลาดพิจารณา ก่อนนำเสนอคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่ไลฟ์สดอยู่นั้นได้มีเกษตรกรเข้ามาคอมเมนต์กันเป็นจำนวนมาก ยกตัวอย่างเช่น Kaweesak Kaewsawi อ้าวท่าน ยอมรับง่ายๆ ว่าไม่สามารถแก้ไขราคาได้แบบนี้เลยหรือครับ กรรมประเทศไทย, ชโยดม สุวรรณวัฒนะ พูดราคา CPO ราคาตลาดโลก ทำไมไม่พูดราคาปาล์มตลาดโลกด้วยครับ มาเลย์ขายได้ 4.20 บาท ไทยขายได้ 2.50 บาท ไม่มีใครขายได้เกิน 3 บาทครับ ท่านพูดว่ามีซื้อ 3.40 บาทที่ไหนครับ ท่านโดนลูกน้องโกหกแล้วครับ ราคาแนะนำไม่มีโรงงานไหนทำตามครับ กระบี่ก็ซื้อ 2 บาทกว่าๆ ไม่ถึง 3 บาทครับท่าน, Sunday Smile Day ท่านๆ บอกด้วย ทำไมราคามาเลย์ดีกว่าไทย เพราะพวกท่านทำงานไม่เป็นใช่มั้ย ท่านคงได้รับรายงานจากโรงงานปาล์มแน่ๆ เลย ชาวสวนปาล์มคงส่งข้อมูลไม่ถึงท่าน ข้อมูลมั่วนิ่มดีจริงๆ ท่านมีความสามารถแก้ไขปัญหาได้หรือไม่ บอกมาตรงๆ สั้นๆ เถอะครับถ้ามีอำนาจ แต่ทำงานไม่ได้ ก็ลาออกไปเลี้ยงหลานนะครับท่าน ไม่ใช่ปาล์มไม่มีคุณภาพ หรืออธิบดีฯ ไม่มีคุณภาพ, Winit Jirarat โทษเกษตรกรว่าปาล์มไม่มีคุณภาพจริงๆ คุณนะไม่มีคุณภาพแถมไร้จิตสำนึกที่จะลงมาดูข้อเท็จจริงฝากคนอื่นทั้งๆ ที่เป็นพืชที่อยู่ในความดูแลของพวกคุณ, เหี้ยม เเสนดี จังหวัดชุมพรทุกโรงงานยังซื้อ 2 บาทกว่าไม่ถึง 3 บาท, ปุลวัชร ทองด้วง ให้ช่วยแก้ปัญหา ไม่ใช่แก้ตัวครับท่าน, แค่สั่งสอน อมรลักษณ์ ใคร ไอ้บ่าวนี้ไม่รู้เรื่องเลย และ สุทธิศักดิ์ ปาลคะเชนทร์ แดงทั้งคัน 2.7 บาท ไม่เคยได้ 3 บาท เป็นต้น