ชุมพร - ชาวสวนมะพร้าว จ.ชุมพร โอด ยุค คสช.คืนความสุขให้ประชาชน ราคามะพร้าวดิ่งเหว เดือดร้อนทั่วหน้า แถมพ่อค้าไม่รับซื้อเหตุนำเข้าจากต่างประเทศจำนวนมาก แกนนำเตรียมระดมพลทั่วประเทศบุกทำเนียบเรียกร้องนายกรัฐมนตรีช่วยเหลือ
วันนี้ (21 มิ.ย.) เกษตรกรชาวสวนมะพร้าว ใน จ.ชุมพร กำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากราคาผลผลิตตกต่ำสุดๆ ในรอบหลายปี แถมพ่อค้าแทบจะไม่รับซื้ออีกด้วย เนื่องจากนำไปขายยาก สาเหตุมาจากรัฐบาลมีการอนุญาตให้นำเข้ามะพร้าวจากต่างประเทศจำนวนมาก ขณะที่ค่าใช้จ่าย ปุ๋ย ยา ค่าครองชีพ มีราคาพุ่งสูงขึ้น จนเดือดร้อนกันไปทั่ว ล่าสุด แกนนำชาวสวนมะพร้าวแต่ละจังหวัดทั่วประเทศเตรียมระดมพลเคลื่อนไหวไปที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แก้ปัญหาความเดือดร้อนดังกล่าว
นายวัชรินทร์ ชูง่วน อายุ 46 ปี ชาวสวนมะพร้าว หมู่ 1 ตำบลวิสัยเหนือ อ.เมือง จ.ชุมพร กล่าวว่า ตนมีสวนมะพร้าวอยู่ 20 ไร่ เก็บผลผลิตได้เดือนละกว่า 2 พันลูก ที่ผ่านมา ช่วงนั้นราคามะพร้าวขึ้นลงอยู่ที่ลูกละ 12-25 บาท ตนมีรายได้เดือนละมากกว่า 2 หมื่นบาท แต่ปัจจุบันเหลือเพียงเดือนละ 4 พันบาทเท่านั้น เพราะราคามะพร้าวเหลือเพียงลูกละ 4 บาท ต้องหักหักค่าใช่จ่ายให้แก่คนที่นำลิงกังมาขึ้นลูกละ 1.50 บาท บวกกับค่าเก็บมะพร้าวในสวนอีกลูกละ 50 สตางค์ รวมแล้วตกลูกละประมาณ 2 บาท เหลือเจ้าของสวนเพียงลูกละ 2 บาทเท่านั้น ยังไม่รวมค่าอื่นๆ เช่น ค่าปุ๋ยค่าจำกัดวัชพืชต่างๆ ถ้าหักทั้งหมดแล้วแทบว่าจะไม่เหลืออะไรเลย
ปัจจุบัน ต้องปล่อยให้มะพร้าวแห้งคาต้น และหล่นลงมาเองจนงอกหน่ออยู่ในสวน เพราะพ่อค้าก็ไม่ค่อยจะมารับซื้อเนื่องจากพ่อค้าเองเขาก็ไม่รู้จะเอาไปขายให้ใคร เป็นเพราะมีมะพร้าวที่นำเข้ามาจากต่างประเทศเข้ามาจำนวนมากนั่นเอง
“ยุค คสช.คืนความสุขให้แก่ประชาชน แต่เกษตรกรชาวสวนมะพร้าว และผลผลิตทางการเกษตรอื่นๆ มีราคาตกต่ำอย่างมากจนต้องเดือดร้อนกันไปทั่ว จะทำไงได้ถ้า คสช.ยังเป็นอยู่แบบนี้ ชาวบ้านก็ยังต้องเดือดร้อนกันต่อไป จะเดินประท้วงแบบเมื่อก่อนก็ไม่ได้ กลัวถูกจับติดคุก” นายวัชรินทร์ ชาวสวนมะพร้าว กล่าว
ด้าน นายสมเกียรติ เหล่านาค นายกสมาคมชาวสวนมะพร้าว จ.ชุมพร กล่าวว่า ชุมพรมีเกษตรกรปลูกมะพร้าวกว่า 1 แสนไร่ ในพื้นที่ 8 อำเภอ ปัจจุบัน ได้รับความเดือดร้อนจากราคาที่ตกต่ำเหลือลูกละ 4 บาท จากเดิมราคาขึ้นลงอยู่ที่ลูกละ 15-25 บาท ทั้งนี้ เนื่องมาจากรัฐบาลได้อนุญาตให้มีการนำเข้ามะพร้าวมาจากประเทศเวียดนาม และประเทศอินโดนีเซีย เข้ามาจำนวนหลายล้านลูก
นอกจากนั้น ยังมีมะพร้าวเถื่อนหนีภาษีลักลอบนำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้านอีกจำนวนมากเช่นกัน จึงส่งผลกระทบต่อราคามะพร้าวในประเทศอย่างมาก และเมื่อครั้งที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พร้อมคณะรัฐมนตรี ไปประชุม ครม.สัญจรในโซนภาคใต้ตอนล่าง เคยประกาศว่าอยากให้เกษตรกรหันมาปลูกมะพร้าวกันให้มากขึ้นเนื่องจากพื้นที่สวนมะพร้าวลดน้อยลง แต่มาวันนี้ราคากลับตกต่ำจนเดือดร้อนไปทั่ว
นายสมเกียรติ กล่าวต่อว่า จึงอยากให้รัฐบาลแก้ปัญหาโดยเร็ว ให้ยับยั้งการนำเข้า หรือหากมีการนำเข้าก็ต้องให้สมดุลกับผลผลิตที่มีอยู่ในประเทศ นอกจากนั้น ขอให้ช่วยประกันราคามะพร้าวภายในประเทศอย่าให้ราคาต่ำกว่าลูกละ 15 บาท จะทำให้ชาวสวนอยู่ได้ ซึ่งเมื่อวันที่ 15 พ.ค.61 ที่ผ่านมา ตนพร้อมตัวแทนชาวสวนได้ไปยื่นหนังสือผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ถึงนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เกี่ยวกับปัญหานี้
แต่จนถึงขณะนี้ผ่านไปเดือนกว่าแล้ว ยังเงียบเฉย ไม่มีสัญญาณตอบรับใดๆ จากรัฐบาล หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเลย ดังนั้น ขณะนี้ตัวแทนชาวสวนมะพร้าวจากทั่วประเทศกำลังประสานงาน และปรึกษาหารือกันเพื่อจะรวมตัวไปที่ทำเนียบรัฐบาล เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีแก้ไขปัญหาราคามะพร้าวตกต่ำต่อไป