xs
xsm
sm
md
lg

แสนสิริเปิดตัวโครงการ “เดอะ เบส เซ็นทรัล-ภูเก็ต” มูลค่า 1,660 ล้าน บนทำเลทองใจกลางเมืองภูเก็ต

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวภูเก็ต - แสนสิริ เปิดตัวโครงการ เดอะ เบส เซ็นทรัล-ภูเก็ต มูลค่า 1,660 ล้านบาท บนทำเลทองใจกลางภูเก็ต ใกล้เซ็นทรัล ภูเก็ต เฟสใหม่ เพียง 1 นาที ชูไฮไลต์การออกแบบแรงบันดาลใจจากเพอรานากัน มนต์สเน่ห์เมืองภูเก็ต

นายภูมิภักดิ์ จุลมณีโชติ รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แสนสิริ ต่อยอดความสำเร็จจากการปิดการขายคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ เดอะ เบส ทั้ง 3 โครงการในภูเก็ต คือ เดอะ เบส ดาวน์ทาวน์-ภูเก็ต, เดอะ เบส อัพทาวน์-ภูเก็ต และ เดอะ เบส ไฮท์-ภูเก็ต ซึ่งเป็นซิตี คอนโดมิเนียมที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้า ที่ซื้อทั้งเพื่ออยู่อาศัยเอง และซื้อเพื่อลงทุนปล่อยเช่า

ล่าสุด แสนสิริ จึงได้เปิดตัวโครงการใหม่ ในชื่อ “เดอะ เบส เซ็นทรัล-ภูเก็ต” มูลค่า 1,660 ล้านบาท โดดเด่นด้วยการตั้งอยู่บนที่สุดของทำเลใจกลางเมืองภูเก็ต บนถนนบายพาส เส้นหลัก ใกล้เซ็นทรัล ภูเก็ต เฟสใหม่ เพียง 1 นาทีเท่านั้น ซึ่งจะเปิดให้บริการในเดือนกันยายนนี้ สามารถเรียกได้ว่า ทำเลของเดอะ เบส เซ็นทรัล-ภูเก็ต เป็นที่ดินทำเลทอง และหายากในย่านนี้ที่สามารถพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมแบบฟรีโฮลด์ (Freehold)

นอกจากนี้ โครงการฯ ยังอยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้ารางเบาที่จะเปิดให้บริการในปี 2563 ตามแผนส่งเสริมให้ภูเก็ตเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวนานาชาติ ซึ่งภูเก็ตนับเป็นศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยวของภาคใต้ ด้วยรายได้จากการท่องเที่ยวที่มีมูลค่าสูงเป็นอันดับ 1 ของภาคใต้ (มูลค่า 330,000 ล้านบาท) และมีมูลค่าเป็นอันดับ 2 ของประเทศ รองจากกรุงเทพฯ ซึ่งปีนี้ภูเก็ตเตรียมต้อนรับนักท่องเที่ยวประมาณ 18 ล้านคนต่อปี ล่าสุด ทางบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ได้ประกาศสร้างสนามบินภูเก็ตที่ 2 ซึ่งตั้งอยู่ที่ตำบลโคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา คาดเปิดให้บริการในปี 2568 เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวเพิ่มปีละ 10 ล้านคน

โครงการเดอะ เบส เซ็นทรัล-ภูเก็ต ตั้งอยู่บนพื้นที่ขนาด 4 ไร่ เป็นอาคารที่พักอาศัยสูง 8 ชั้น จำนวน 3 อาคาร มีจำนวน 590 ยูนิต ประกอบด้วย ห้องขนาด 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอย 24.75-53.75 ตารางเมตร ห้องขนาด 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอย 46.25-52.50 ตารางเมตร และห้องขนาด 2 ห้องนอน และ 2 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอย 62.00-62.75 ตารางเมตร
 
แต่ละยูนิตมีการออกแบบฟังก์ชันที่เข้าใจการอยู่อาศัย และชูจุดขายภายใต้แนวคิดเติมเต็มประสบการณ์อยู่อาศัยสมบูรณ์แบบ (Complete your living experience) ที่มีแรงบันดาลใจจาก “เพอรานากัน” วัฒนธรรมบาบ๋าแห่งภูเก็ต สู่การอยู่อาศัยใจกลางเมือง ทั้งในเรื่องของสถาปัตยกรรม และการตกแต่งภายในที่ได้นำเอามาใช้ในส่วนต่างๆ สะท้อนความมุ่งมั่นของแสนสิริในการเป็นนำเอกลักษณ์ของภูเก็ตมาสมผสานกับความทันสมัยอย่างลงตัว

การออกแบบพื้นที่ส่วนกลางแต่ละส่วนอย่างมีเอกลักษณ์ในทุกรายละเอียด เช่น ล็อบบี้ที่มีแรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมดั้งเดิมของภูเก็ต พร้อมเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งด้วยผ้าปาเต๊ะลายพื้นถิ่นหลากสีสัน ฟิตเนสตั้งอยู่บนชั้น 2 โดดเด่นด้วยการออกแบบสเปซรับวิวสวนสวยทั้ง 3 ด้าน พร้อมฉากกั้นทำลายพิเศษฉลุดอกโบตั๋น ให้แสงลอดผ่านเปลี่ยนแปลงตามวันเวลา สะท้อนสีสันจังหวะชีวิตที่ไม่เคยหยุดนิ่ง ห้องอเนกประสงค์ ที่เปรียบเสมือนห้องนั่งเล่น Relax with ease ตั้งอยู่บนชั้น 3 เป็นมุมพักผ่อนที่หลากหลาย

รวมถึงมุม Sound Dome เก็บเสียงที่สามารถครีเอตสเปซส่วนตัว มีมุมที่นั่งเห็นวิวสวนร่มรื่นสวยงามเป็นที่พักผ่อน และสังสรรค์กับเพื่อนฝูง และนับเป็นครั้งแรกของโครงการในภูเก็ตที่ผู้อยู่อาศัยสามารถใช้ชีวิตให้ทุกวันไม่จำเจด้วยการมีสระว่ายน้ำถึง 2 สระ ออกแบบโดยได้แรงบันดาลใจจากภูมิประเทศที่เป็นทะเลของภูเก็ต รูปทรงมีมิติโค้งเว้าตามธรรมชาติที่เป็นภูเขา ประกอบด้วย สระตึก A ชั้น Ground พร้อมจากุชชี่ และโซนสระเด็ก หรือว่ายน้ำ พร้อมชมวิวที่สระตึก B บนชั้น 2 เติมเต็มประสบการณ์การพักผ่อนที่ไม่เหมือนเดิม

นอกจากนี้ ยังมี Sansiri Security System มาตรฐานความปลอดภัยที่แตกต่าง ไม่ว่าจะเป็นระบบ Digital Door Lock มาใช้แทนกุญแจทั่วไป โดยสามารถปลดล็อกด้วย Pin Code หรือ Bluetooth จากมือถือโดยกำหนดเวลา และกำหนดการใช้สิทธิได้ด้วยตัวคุณเอง Home Automation ควบคุมการเปิด-ปิดแอร์ และไฟภายในห้องผ่าน Sansiri Home Service แอปพลิเคชัน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง ที่ได้ผ่านการอบรมโดย Sansiri Security Inspection (SSI) ทีมฝึกอบรม รปภ.มืออาชีพ พร้อมด้วยระบบ CCTV กล้องวงจรปิดทั่วโครงการ นอกจากนั้น ยังมีจุดบริการชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์พลังงานไฟฟ้าอีกด้วย

โครงการเดอะ เบส เซ็นทรัล-ภูเก็ต ภายใต้แบรนด์คอนเซ็ปต์ใหม่ MARK MY BASE ชูแนวคิดคอนโดมิเนียมที่ออกแบบจากตัวตนของผู้อยู่อาศัย นำเสน่ห์ของวัฒนธรรมท้องถิ่นรอบด้านผสานกับการออกแบบที่ร่วมสมัย เกิดเป็นเอกลักษณ์ และเรื่องราวที่สะท้อนถึงตัวตน ซึ่งพัฒนาแบรนด์ภายใต้แนวคิด เติมเต็มการอยู่อาศัยสมบูรณ์แบบ (Complete Your Living Experience) มีจุดเด่นด้านดีไซน์ที่เข้าใจการใช้ชีวิต และฟังก์ชันที่เข้าใจการอยู่อาศัย พร้อมการเชื่อมต่อเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ากับการอยู่อาศัย ทั้งในห้อง และพื้นที่ส่วนกลาง รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกที่รองรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่

โดยบริษัทมีแผนเปิดตัว 5 โครงการ 5 ทำเลทั้งในกรุงเทพฯ และภูเก็ต ในปี 2561 ได้แก่ เดอะ เบส สุขุมวิท 50, เดอะ เบส สะพานใหม่, เดอะ เบส รัชดา-ท่าพระ, เดอะ เบส สาทร-เจริญราษฎร์ และเดอะ เบส เซ็นทรัล ภูเก็ต โดยเดอะ เบส ที่ตั้งอยู่ในทำเลต่างๆ จะมีความโดดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์แตกต่างกันในแต่ละทำเลเพื่อตอบโจทย์ทุกรูปแบบการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ โดยเผยโฉม เดอะ เบส เซ็นทรัล-ภูเก็ต เปิดตัวเป็นโครงการแรก

นอกจากนี้ แสนสิริยังได้จับมือกับ Torry’s Ice Cream ร้านไอศกรีมแบรนด์พรีเมียมภูเก็ตที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากขนมพื้นเมืองของภูเก็ต โดย คุณทอรี่ วงศ์วัฒนกิจ ซึ่งเป็นคนภูเก็ต และเติบโตที่จังหวัดภูเก็ต ผู้มุ่งมั่นสร้างสรรค์แบรนด์ไอศกรีมคุณภาพฝีมือคนไทยและได้สร้างสรรค์ไอศกรีมกว่า 70 รสชาติ เป็นที่รู้จักทั้งคนไทย และต่างชาติ ได้มาร่วมรังสรรค์ไอศกรีมรสชาติสุดพิเศษ 2 แบบ สำหรับโครงการเดอะ เบส เซ็นทรัล-ภูเก็ต โดยเฉพาะ ในรสซอร์เบทสับปะรดน้ำปลาหวาน ทำจากสับปะรดภูเก็ต ซึ่งปลูกโดยเกษตรกรท้องถิ่น รวมกับสูตรน้ำปลาหวานโฮมเมดให้รสชาติเปรี้ยวอมหวาน และรสขนมพริก ซึ่งนับได้ว่าเป็นขนมโบราณดั้งเดิมของเมืองภูเก็ต ให้ลูกค้าได้ลิ้มรสไอศกรีมสูตรพิเศษได้ที่ Sales Gallery แบบเอ็กซ์คลูซีฟ สะท้อนการผสมผสานร่วมสมัยอย่างลงตัวของ ทั้งโครงการเดอะ เบส เซ็นทรัล-ภูเก็ต และ Torry’s Ice Cream

แสนสิริ พร้อมเปิดให้ชมห้องตัวอย่างที่ Sales Gallery อย่างเป็นทางการ และเปิดให้จองยูนิตอย่างเป็นทางการวันที่ 23-24 มิถุนายนนี้ ราคาเริ่มต้นที่ 1.99 ล้านบาท พร้อมข้อเสนอสุดพิเศษ ฟรีเฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้าครบชุด และ Rental Package ลงทะเบียนวันนี้! รับส่วนลดสูงสุด 20,000 บาท พร้อมลุ้นจับห้องราคาพิเศษ 1.89 ล้านบาท* และ 1.99 ล้านบาท* วันละ 4 ยูนิต รอบ 11.00 น. และ 15.00 น.

ทั้งนี้ คาดว่า เดอะ เบส เซ็นทรัล-ภูเก็ต จะได้รับการตอบรับที่ดีเช่นเดียวกับโครงการที่ผ่านมา จากความต้องการซิตี คอนโดมิเนียมบนทำเลใจกลางเมืองภูเก็ตเป็นที่มีความต้องการสูงในกลุ่มคนทำงานทั้งไทย และต่างชาติ และอัตราผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าโครงการ ซึ่งคาดว่าจะอยู่ในอัตรา 6.5% ต่อปี รวมถึงอัตราการเพิ่มขึ้นของราคา (Capital Gain) ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 7% ต่อปี ซึ่งนับว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามากในขณะนี้

นอกจากนี้ จากจุดเด่นของโครงการในด้านการตั้งอยู่ในที่สุดของทำเลในเมืองภูเก็ต และการตอบโจทย์ทุกรูปแบบการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ จึงคาดว่าโครงการจะประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกับโครงการที่ผ่านมาอย่างแน่นอน


กำลังโหลดความคิดเห็น