ศูนย์ข่าวภูเก็ต - สุดอนาถ ! แชร์สนั่น ! ภาพเรือประมงอวนลากคู่จับปลาฉลามวาฬท้องแก่ใกล้คลอดมาแขวนตากแห้ง เรือนักดำพบเรียกร้องให้ปล่อยกลับลงทะเล แต่กลับแล่นเรือหนี จนต้องตามไล่บี้กดดันจนต้องยอมตัดเชือกเพื่อปล่อยลงทะเล แต่นักดำน้ำถึงกับร้องให้เมื่อเห็นลูกฉลามวาฬหลุดออกจากตัวแม่จมน้ำ ขณะที่แม่ดับอนาถ
วันนี้ (18 พ.ค. ) กลุ่มจิตอาสา Go-Eco Phuket ได้โพสต์ คลิปวีดิโอความยาวประมาณ 1.11 นาที พร้อมข้อความระบุว่า “#RIPฉลามวาฬแม่ลูกที่ภูเก็ต จับไปทำไมปลาเล็กปลาน้อย จับปลาใหญ่ดีกว่า แถมได้ลูกในท้องมันด้วย เวรจริงๆ!! Cr.Aqua centre” โดยในคลิปดังกล่าว เป็นภาพเรือประมงอวนลากแขวนฉลามวาฬขนาดใหญ่ไว้บนเรือ ที่กำลังจอดอยู่กลางทะเล และลูกเรือประมงกำลังช่วยกันแกะเชือกออกจากตัวฉลามและปล่อยให้ร่างลงกลับไปในทะเลในสภาพที่ตายแล้ว
อย่างไรก็ตามหลังจากมีการแช่ภาพนิ่งและคลิปดังกล่าวออกไป มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก เพราะเป็นเหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดว่าเรือประมงจะจับฉลามวาฬซึ่งเป็นสัตว์ที่ฉลาด และมักจะว่าน้ำมาเล่นกับนักท่องเที่ยวลงไปเล่นน้ำบ่อยครั้ง ผู้ที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นส่วนใหญ่จะประณามการกระทำของเรือดังกล่าว
หลังจากมีการแพร่ภาพและคลิปออกไป ทางผู้สื่อข่าวได้สอบถาม กลุ่ม จิตอาสา Go-Eco Phuket รายหนึ่ง กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อประมาณ 15.00 น. วันนี้ (18 พ.ค.61) ขณะที่เรือไดร์ฟวิ่งพากลุ่มนักดำน้ำ แล่นผ่านบริเวณเส้นทางจากเกาะพีพี – เกาะราชา เพื่อกลับมายังภูเก็ต เมื่อมาถึงกลางทะเล ระหว่างเกาะราชากับเกาะดอกไม้ ได้พบเห็นเรือประมงลำหนึ่ง ข้างเรือระบุ ชื่อ “แสงสมุทร 3” ซึ่งเป็นเรือประมงอวนลาก กำลัง บรรทุกฉลามวาฬขนาดใหญ่อยู่บนเรือ ระหว่างที่วิ่งเข้าไปใกล้ นักดำน้ำบนเรือจึงช่วยตะโกนให้หยุดเรือ และปล่อยฉลามวาฬที่อยู่บนเรือกลับลงทะเล ซึ่งกัปตันเรือแสงสมุทร 3 รับปากว่าจะปล่อย
แต่สุดท้ายไม่ยอมปล่อยฉลามวาฬตัวดังกล่าวกลับลงทะเลตามที่รับปาก และพยายามจะขับเรือออกห่าง กัปตันเรือไดร์ฟวิ่งได้ขับตามอีกครั้ง เพื่อกดดันให้ปล่อยอีกครั้ง เมื่อเห็นจนมุมทางเรือลำดังกล่าวจึงยอมจอดเรือและปล่อยฉลามวาฬตัวดังกล่าวลงทะเลแต่จากการสังเกตพบว่าฉลามวาฬตัวดังกล่าวน่าจะถูกจับขึ้นมาจากทะเลไม่ต่ำกว่า 2 ชั่วโมงแล้วเนื่องจากผิวหนังถูกตากแดดจนแห้ง และมีอาการแน่นิ่ง ไม่มีการตอบสนอง
แต่ที่ทำเอานักดำน้ำที่อยู่บนเรือถึงกับร้องไห้ออกมาทั้งลำ คือภาพขณะที่ลูกเรือประมงตัดเชือกที่โยงหางฉลามแขวนไว้ ให้ตกลงจากเรือพบว่ามี ลูกฉลามวาฬขนาดเล็ก ที่ยังไม่ครบกำหนดคลอด หลุดออกจากช่องคลอดของฉลามวาฬตัวดังกล่าวและจมหายไปในทะเลซึ่งถือว่าเป็นความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของท้องทะเล เพราะตัวแม่เองก็เสียตายอย่างอนาถ ส่วนลูกก็ตายตั้งแต่ยังไม่ครบกำหนดคลอด ซึ่งหลังจากปล่อยฉลามวาฬกลับลงทะเลแล้วเรือลำดังกล่าวจะขับออกไปจากที่เกิดเหตุ
แหล่งข่าวรายเดิม กล่าวว่า ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกของประเทศที่มีการจับฉลามวาฬขึ้นมาจากทะเล เพราะที่ผ่านมาแม้จะเจอซากที่ตายแล้วก็ไม่มีใครจับขึ้นมา แต่ตัวนี้เป็นการจับฉลามที่ยังมีชีวิตขึ้นมาทำให้ตาย ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวสะเทือนใจผู้เห็นเหตุการณ์เป็นอย่างมาก ถือเป็นความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ และทางกลุ่มกำลังจะสืบสวนว่าฉลามวาฬตัวดังกล่าวเป็นฉลามวาฬที่กลุ่มนักดำน้ำพบในพื้นที่กระบี่หรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้จะมีฉลามวาฬมาเล่นน้ำกับนักดำน้ำเป็นประจำ ซึ่งเรื่องนี้ได้แจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบแล้ว
ขณะที่ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ หรือ ดร.ธรณ์ นักวิชาการด้านทะเลและสิ่งแวดล้อม ได้ออกมาโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า ฉลามวาฬสัตว์คุ้มครองตามกฎหมาย (ประเภทปลา ลำดับที่ 6) ตามพ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า ยังเป็นสัตว์ห้ามทำการประมง ตามประกาศห้ามทำการประมง (พ.ศ.2559) ของกระทรวงเกษตรฯ ตามพ.ร.บ.ประมง (มาตรา 66) ในประกาศกระทรวง ครอบคลุมทั้งห้ามจับหรือนำขึ้นเรือประมง โทษรุนแรงปรับ 3 แสน - 3 ล้านบาท ซึ่งหลังจากมีการโพสต์ข้อความดังกล่าวออกมาก็มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก