ปัตตานี - โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ยืนยันแม่ทัพภาค 4 ไม่ได้สั่งห้ามบินโดรนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ แค่ระบุให้ปฏิบัติตามกฎหมายข้อบังคับในการบินโดรน ขณะที่ผู้ใช้โดรนในพื้นที่ไม่กังวล ย้ำต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบการบินโดรน
วันนี้ (17 พ.ค.) จากกรณีที่มีการนำเสนอข่าวผ่านสื่อมวลชนบางแขนง กรณีแม่ทัพภาค 4 สั่งห้ามบินโดรนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ หลังจากเกิดเหตุคนร้ายยิง M79 ใส่ ฐานชุดคุ้มครองตำบลบาโงยซิแน และมีข้อมูลมาว่า ก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่สังเกตเห็นโดรนบินวนเข้ามาในบริเวณฐานในช่วงเวลา 03.00 น. ก่อนเกิดเหตุ 2-3 วัน
จากนั้นได้มีการแชร์ข่าวดังกล่าวไปตามไลน์กลุ่มในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า “นับจากนี้ไปผู้จะบินออากาศยานไร้คนขับ หรือ “โดรน” เพื่อถ่ายภาพมุมสูงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะต้องขออนุญาตจากฝ่ายความมั่นคง แม่ทัพภาค 4 สั่งยิงทำลายทันทีหากบินเข้าเขตทหาร ทั้งนี้ป้องกันผู้ไม่หวังดีบินสอดแนม หลังมีการตั้งข้อสังเกตเหตุลอบยิงฐานทหาร อำเภอยะหา จังหวัดยะลา เมื่อวานนี้ (15 พ.ค.) ผู้ก่อเหตุใช้ “โดรน” บินสอดแนม ก่อนปฏิบัติการโจมตีฐานทหาร” ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปนั้น
ความคืบหน้าล่าสุด ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า ในเรื่องนี้ทางสื่อบางสำนักได้มีการเสนอข่าวว่า แม่ทัพภาค 4 ได้มีการสั่งห้ามการใช้โดรนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ หากมีการตรวจพบก็ให้มีการยิงทำลาย ซึ่งหลังจากที่ได้มีการเผยแพร่ข่าวนั้นอย่างกว้างขวาง ทำให้สังคมเกิดความสับสน
ตนจึงขอเรียนว่า ตามนโยบายของท่านแม่ทัพภาคที่ 4 พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช ท่านได้สั่งการให้ฝ่ายกฎหมายไปศึกษาข้อกฎหมาย และกฎระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดมาตรการในการควบคุมการใช้อากาศยานไร้คนขับ หรือโดรนในพื้นที่ที่อาจจะกระทบต่อความมั่นคง เช่นบริเวณที่ตั้งของทหาร จุดตรวจ ด่านตรวจ หรือในท่าอากาศยาน ซึ่งจริงๆ แล้วก็มีกฎระเบียบในการดำเนินการอยู่แล้ว ซึ่งหากมีการตรวจพบการฝ่าฝืนก็จะต้องดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งอาจจะเป็นการตรวจยึด หรือมีการทำลาย หากมีการฝ่าฝืนกฎระเบียบดังกล่าว ซึ่งต้องขอเรียนย้ำว่า ในการนำเสนอข่าวของสื่อบางสื่อเมื่อวานนี้ เป็นการนำเสนอข้อมูลที่ผิดพลาดจากความเป็นจริง
กรณีข้อมูลว่า ท่านแม่ทัพภาค 4 สั่งยิงโดรนในพื้นที่ก็ไม่เป็นความจริง ยกเว้นหากพบว่ามีการฝ่าฝืนกฎระเบียบ การควบคุมที่ได้มีการกำหนดไว้ ซึ่งระเบียบนี้ก็เป็นกฎหมายอยู่แล้ว ในการกำหนดพื้นที่เขตห้ามบิน เช่น พื้นที่ท่าอากาศยาน หรือพื้นที่ตั้งของหน่วยงานความมั่นคง พื้นที่ทางราชการ หรือพื้นที่ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อความมั่นคง
“ตนก็อยากจะสร้างความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ว่า ในเรื่องของการใช้โดรนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็ขอให้ปฎิบัติตามกฎหมายที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะในพื้นที่ห้ามบินก็ขอให้ปฏิบัติตาม และระมัดระวังเพราะหากมีการฝ่าฝืนทางเจ้าหน้าที่อาจจะจำเป็นที่จะต้องใช้มาตรการทางกฎหมาย เช่น การตรวจยึด หรือการทำลาย ที่จะขอให้เข้าใจว่าไม่ได้เป็นการสั่งห้ามใช้โดรนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้แต่อย่างใด” โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 กล่าว
ทางด้าน นายยุทธนา ปลื้มสำราญ สื่อมวลชนในพื้นที่ จ.ยะลา ที่เป็นผู้ใช้โดรนในการถ่ายภาพ เพื่อการประชาสัมพันธ์ และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีแก่จังหวัดยะลา ซึ่งเป็นผู้หนึ่งที่มีการใช้โดรนบินถ่ายภาพมาอย่างต่อเนื่อง ได้เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า ไม่ได้เกิดความวิตกกังวลตามที่เป็นข่าว กรณีแม่ทัพภาค 4 สั่งห้ามบินโดรนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะผู้ที่จะใช้โดรน หรือ อากาศยานไร้คนขับมีวัตถุประสงค์หลักก็เพื่อการถ่ายภาพที่ได้มุมมองภาพที่แปลกไปจากกล้องถ่ายภาพเดิม และผู้ปฏิบัติ หรือผู้ใช้โดรนก็ต้องมีการศึกษากฎข้อบังคับในการบิน หรือกฎหมายบังคับใช้สำหรับการบินโดรนเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว
ฉะนั้น การบินโดรนก็ต้องถูกที่ถูกวิธี และถูกวันเวลาด้วยจึงจะไม่เกิดปัญหา โดยขณะนี้ส่วนใหญ่แล้ว การใช้โดรน หรืออากาศยานไร้คนขับ จำเป็นต้องมีการแจ้งขออนุญาตจากกรมการบินพลเรือน เพื่อให้ถูกต้องตามหลักกฎหมาย ในส่วนของการจะนำไปใช้โดยวิธีการที่ผิด หรือวัตถุประสงค์อย่างอื่นนั้น ตนเองคิดว่าคงไม่เหมาะสมอย่างแน่นอน
“อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่ต้องการจะใช้โดรนถ่ายภาพในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น ก็ขอแนะนำให้มีการศึกษาสถานที่ที่จะขึ้นบินถ่ายภาพ และขออนุญาตเจ้าของ หรือแจ้งเจ้าหน้าที่ในส่วนนั้นๆ ให้มีการรับทราบถึงวัตถุประสงค์ในการนำโดรนขึ้นบิน เพื่อความถูกต้องตามหลักข้อบังคับการบินจะเป็นการดีที่สุด” นายยุทธนา กล่าว
