ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ภูเก็ตยังเนื้อหอม นักลงทุนไทย และต่างชาติพาเหรดกันเข้ามาไม่หยุด ยึดพื้นที่ผุดโครงการใหญ่ๆ ทั้งโรงแรม สวนน้ำ ห้างสรรพสินค้า มารีน่า คอนโดฯ ทำราคาที่ดินขยับตามเป็นเงาตามตัว จากตัวเลขท่องเที่ยวโตต่อเนื่อง
นายบุญ ยงสกุล นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต เปิดเผยถึงแนวโน้มการลงทุนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดภูเก็ต ปี 2561 นี้ ว่า การลงทุนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดภูเก็ตเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมั่นใจว่า การลงทุนในปี 2561 นี้ จะเติบโตจากปีที่แล้วอย่างแน่นอน โดยมีหลายๆ ปัจจัยเข้ามาสนับสนุน และส่งเสริมให้นักลงทุนในท้องถิ่น บริษัทพัฒนาอสังหาฯ ยักษ์ใหญ่จากส่วนกลาง และนักลงทุนต่างชาติตัดสินใจเข้ามาลงทุนในพื้นที่ภูเก็ต
จากที่เศรษฐกิจโดยรวมของประเทศเริ่มส่งสัญญาณกระเตื้องขึ้นจากที่ซบเซามาหลายปี การเมืองนิ่ง รัฐบาลให้การสนับสนุนธุรกิจอสังหาฯ และอานิสงส์จากการท่องเที่ยวของภูเก็ตที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยวเพิ่มสูงขึ้นทุกปี ทำให้คนจากต่างจังหวัดเข้ามาทำงานในภูเก็ตเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ความต้องการที่อยู่อาศัยเติบโตเป็นเงาตามตัว ทั้งซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง ซื้อเพื่อให้เช่า หรือเพื่อการลงทุน รวมถึงความมีเสน่ห์ของทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมที่เหลืออยู่ของภูเก็ต และความมีน้ำใจของคนภูเก็ตที่ให้การต้อนรับนักลงทุน ซึ่งเราจะเห็นว่า นักลงทุนทั้งไทย และต่างชาติเข้ามาลงทุนในภูเก็ตอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่เป็นโครงการบ้านจัดสรร คอนโดมิเนียม เกิดขึ้นทั้งจากการลงทุนของนักลงทุนในท้องถิ่น บริษัทจากส่วนกลาง หรือแม้แต่นักลงทุนต่างชาติ
“การที่ภูเก็ตยังเนื้อหอม นักลงทุนไทย และต่างชาติเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ราคาที่ดินในภูเก็ตขยับตัวสูงขึ้นตลอดเหมือนกัน จะเห็นว่าราคาที่ดินในรอบนอกของภูเก็ตอยู่ไร่ละไม่ต่ำกว่า 3-5 ล้านบาท ถ้าใกล้ตัวเมืองไม่ต่ำกว่า 5-10 ล้านบาท และยิ่งเป็นบริเวณรอบเกาะภูเก็ตทางฝั่งตะวันตกที่สามารถมองเห็นวิวทะเล และทำเลสวยในการลงทุนสร้างรีสอร์ต บ้านพักตากอากาศหรูด้วยแล้ว ราคาไม่ต้องพูดถึง ไร่ละไม่ต่ำกว่า 20-100 ล้านบาท” นายบุญ กล่าว และเผยต่อว่า
ที่ผ่านมา เราจะเห็นว่าโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จะเกิดขึ้นในพื้นที่รัศมีไม่ไกลจากตัวเมืองมากนัก แต่ในปัจจุบัน คอนโดฯ เกิดขึ้นในพื้นที่รอบนอกจากขึ้น ทั้งนี้ เนื่องจากในปัจจุบันคนจีนได้เข้ามาซื้อคอนโดฯ ในพื้นที่รอบนอกมากขึ้น และเชื่อว่าในปีนี้ หรือปีหน้าจะมีคอนโดฯ เกิดขึ้นในภูเก็ตอย่างแน่นอน เนื่องจากคอนโดฯ ที่เหลือขายในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาได้ถูกทยอยขายออกไม่เกือบทั้งหมดแล้ว การลงทุนโครงการใหม่เกิดขึ้นแน่นอนในปีนี้ตลอดไปจนถึงปีหน้า รวมถึงโครงการบ้านจัดสรรที่จะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และคาดว่จะเติบโตจากปีที่แล้วไม่ต่ำกว่า 10-20%
นายกสมาคมอสังหาฯ ภูเก็ต เผยต่อว่า นอกจากบ้าน คอนโดฯ และโรงแรมแล้ว นักลงทุนทั้งไทย และต่างชาติยังให้ความสนใจเข้ามาลงทุนในธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องต่อการท่องเที่ยวของภูเก็ต ซึ่งเท่าที่ทราบมาขณะนี้จะมีการลงทุนโครงการใหญ่ๆเกิดขึ้นอีกหลายโครงการในภูเก็ต เช่น ในพื้นที่ตำบลเชิงทะเล มีหลายๆ โครงการที่กำลังก่อสร้าง และนักลงทุนวางแผนที่จะเข้ามาลงทุน เช่น สวนน้ำขนาดใหญ่พร้อมห้างสรรพสินค้า ที่บริเวณถนนศรีสุนทร ขณะนี้ได้เริ่มก่อสร้างแล้ว เป็นนักลงทุนจากยุโรป โครงการมารีน่าแห่งต่อไปของภูเก็ต บริเวณแหลมพันวา โครงการห้างสรรพสินค้าที่ป่าตอง และเชิงทะเล โดยนักลงทุนยักษ์ใหญ่จากส่วนกลาง โรงแรมระดับ 5 ดาว ตั้งแต่ไม้ขาว ไปจนถึงท้ายเกาะ เป็นต้น
นายบุญ กล่าวต่อว่า จากการเติบโตด้านการลงทุนที่ขยับตัวอย่างต่อเนื่อง ทำให้โครงสร้างพื้นฐานที่ภูเก็ตมีอยู่ในขณะนี้ไม่เพียงพอในการรองรับ ทำให้เกิดปัญหาตามมาในหลายประการ ที่หน่วยงานที่รับผิดชอบกำลังเร่งแก้ไขอยู่ในขณะนี้ ดังนั้น รัฐจะต้องเร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐานตามให้ทันต่อการลงทุนของภาคเอกชน เพื่อให้ภูเก็ตพัฒนาอย่างยั่งยืน
นายบุญ ยงสกุล นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต เปิดเผยถึงแนวโน้มการลงทุนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดภูเก็ต ปี 2561 นี้ ว่า การลงทุนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดภูเก็ตเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมั่นใจว่า การลงทุนในปี 2561 นี้ จะเติบโตจากปีที่แล้วอย่างแน่นอน โดยมีหลายๆ ปัจจัยเข้ามาสนับสนุน และส่งเสริมให้นักลงทุนในท้องถิ่น บริษัทพัฒนาอสังหาฯ ยักษ์ใหญ่จากส่วนกลาง และนักลงทุนต่างชาติตัดสินใจเข้ามาลงทุนในพื้นที่ภูเก็ต
จากที่เศรษฐกิจโดยรวมของประเทศเริ่มส่งสัญญาณกระเตื้องขึ้นจากที่ซบเซามาหลายปี การเมืองนิ่ง รัฐบาลให้การสนับสนุนธุรกิจอสังหาฯ และอานิสงส์จากการท่องเที่ยวของภูเก็ตที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยวเพิ่มสูงขึ้นทุกปี ทำให้คนจากต่างจังหวัดเข้ามาทำงานในภูเก็ตเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ความต้องการที่อยู่อาศัยเติบโตเป็นเงาตามตัว ทั้งซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง ซื้อเพื่อให้เช่า หรือเพื่อการลงทุน รวมถึงความมีเสน่ห์ของทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมที่เหลืออยู่ของภูเก็ต และความมีน้ำใจของคนภูเก็ตที่ให้การต้อนรับนักลงทุน ซึ่งเราจะเห็นว่า นักลงทุนทั้งไทย และต่างชาติเข้ามาลงทุนในภูเก็ตอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่เป็นโครงการบ้านจัดสรร คอนโดมิเนียม เกิดขึ้นทั้งจากการลงทุนของนักลงทุนในท้องถิ่น บริษัทจากส่วนกลาง หรือแม้แต่นักลงทุนต่างชาติ
“การที่ภูเก็ตยังเนื้อหอม นักลงทุนไทย และต่างชาติเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ราคาที่ดินในภูเก็ตขยับตัวสูงขึ้นตลอดเหมือนกัน จะเห็นว่าราคาที่ดินในรอบนอกของภูเก็ตอยู่ไร่ละไม่ต่ำกว่า 3-5 ล้านบาท ถ้าใกล้ตัวเมืองไม่ต่ำกว่า 5-10 ล้านบาท และยิ่งเป็นบริเวณรอบเกาะภูเก็ตทางฝั่งตะวันตกที่สามารถมองเห็นวิวทะเล และทำเลสวยในการลงทุนสร้างรีสอร์ต บ้านพักตากอากาศหรูด้วยแล้ว ราคาไม่ต้องพูดถึง ไร่ละไม่ต่ำกว่า 20-100 ล้านบาท” นายบุญ กล่าว และเผยต่อว่า
ที่ผ่านมา เราจะเห็นว่าโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จะเกิดขึ้นในพื้นที่รัศมีไม่ไกลจากตัวเมืองมากนัก แต่ในปัจจุบัน คอนโดฯ เกิดขึ้นในพื้นที่รอบนอกจากขึ้น ทั้งนี้ เนื่องจากในปัจจุบันคนจีนได้เข้ามาซื้อคอนโดฯ ในพื้นที่รอบนอกมากขึ้น และเชื่อว่าในปีนี้ หรือปีหน้าจะมีคอนโดฯ เกิดขึ้นในภูเก็ตอย่างแน่นอน เนื่องจากคอนโดฯ ที่เหลือขายในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาได้ถูกทยอยขายออกไม่เกือบทั้งหมดแล้ว การลงทุนโครงการใหม่เกิดขึ้นแน่นอนในปีนี้ตลอดไปจนถึงปีหน้า รวมถึงโครงการบ้านจัดสรรที่จะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และคาดว่จะเติบโตจากปีที่แล้วไม่ต่ำกว่า 10-20%
นายกสมาคมอสังหาฯ ภูเก็ต เผยต่อว่า นอกจากบ้าน คอนโดฯ และโรงแรมแล้ว นักลงทุนทั้งไทย และต่างชาติยังให้ความสนใจเข้ามาลงทุนในธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องต่อการท่องเที่ยวของภูเก็ต ซึ่งเท่าที่ทราบมาขณะนี้จะมีการลงทุนโครงการใหญ่ๆเกิดขึ้นอีกหลายโครงการในภูเก็ต เช่น ในพื้นที่ตำบลเชิงทะเล มีหลายๆ โครงการที่กำลังก่อสร้าง และนักลงทุนวางแผนที่จะเข้ามาลงทุน เช่น สวนน้ำขนาดใหญ่พร้อมห้างสรรพสินค้า ที่บริเวณถนนศรีสุนทร ขณะนี้ได้เริ่มก่อสร้างแล้ว เป็นนักลงทุนจากยุโรป โครงการมารีน่าแห่งต่อไปของภูเก็ต บริเวณแหลมพันวา โครงการห้างสรรพสินค้าที่ป่าตอง และเชิงทะเล โดยนักลงทุนยักษ์ใหญ่จากส่วนกลาง โรงแรมระดับ 5 ดาว ตั้งแต่ไม้ขาว ไปจนถึงท้ายเกาะ เป็นต้น
นายบุญ กล่าวต่อว่า จากการเติบโตด้านการลงทุนที่ขยับตัวอย่างต่อเนื่อง ทำให้โครงสร้างพื้นฐานที่ภูเก็ตมีอยู่ในขณะนี้ไม่เพียงพอในการรองรับ ทำให้เกิดปัญหาตามมาในหลายประการ ที่หน่วยงานที่รับผิดชอบกำลังเร่งแก้ไขอยู่ในขณะนี้ ดังนั้น รัฐจะต้องเร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐานตามให้ทันต่อการลงทุนของภาคเอกชน เพื่อให้ภูเก็ตพัฒนาอย่างยั่งยืน