พังงา - จังหวัดพังงา สนธิกำลังทวงคืนป่าชายเลนบ้านถ้ำน้ำผุด กว่า 160 ไร่ หลังถูกนายทุนบุกรุกทำบ่อเลี้ยงกุ้ง
วันนี้ (13 มี.ค.) นายสิทธิชัย ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา พร้อมด้วย นายวิชัย สมรูป ผอ.สบทช.8 (สำนักบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 8) นายศรายุทธ ตันเถียร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา นายสมชาย เลขาวิวัฒน์ ผอ.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดพังงา สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจป่าไม้ เจ้าหน้าหน่วยป่าชายเลนพื้นที่พังงา 7 สถานี ออกปฏิบัติการทวงคืนผืนป่าชายเลนจังหวัดพังงา โดยการสนธิกำลังเข้าตรวจสอบการบุกรุก ยึดถือ ครอบครอง ทำลายอันทำให้เสื่อมเสียแก่สภาพป่า รวมถึงการสมคบและสนับสนุนช่วยเหลือ ตามคำสั่ง คสช.ที่ 66/2557 ซึ่งให้ถือปฏิบัติการไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชนผู้ยากไร้ ผู้มีรายได้น้อย และผู้ไร้ที่ดินทำกิน ซึ่งได้อาศัยอยู่ในพื้นที่เดิมก่อนคำสั่งมีผลบังคับใช้ ยกเว้นผู้ที่บุกรุกใหม่
ขณะที่รัฐบาลมีนโยบายพลิกฟื้น (ทวงคืน) ผืนป่าสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน เข้มงวดกฎหมายต่อนายทุนผู้มีอิทธิพลที่บุกรุกยึดถือครอบครองพื้นที่ป่าโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายอย่างเฉียบขาด จังหวัดพังงา ได้มีผลการปฏิบัติการตั้งแต่ปี 2559 ดำเนินคดีต่อผู้บุกรุก จำนวน 20 คดี ทวงคืนผืนป่าชายเลนได้ 342.25 ไร่ ปี 60 ดำเนินคดี 51 คดี ทวงคืนผืนป่าชายเลนได้ 1,587.61 ไร่ รวมพื้นที่ทวงคืนผืนป่าแล้ว จำนวน 1,929.86 ไร่
สำหรับปี 2561 สบทช.8 มีเป้าหมายทวงคืนผืนป่าชายเลน จำนวน 700 ไร่ โดยเข้าตรวจสอบพื้นที่ป่าชายเลนที่ต้องสงสัยว่ามีการยึดถือครอบครองและทำประโยชน์โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย บริเวณพื้นที่ ต.ถ้ำน้ำผุด อ.เมือง จ.พังงา จำนวน 7 แปลง เนื้อที่ประมาณ 160 ไร่ จากการเข้าตรวจสอบพบว่า มีนายทุนเข้าครอบครอง ส่วนใหญ่เป็นลักษณะทำบ่อกุ้ง ซึ่งได้มีการให้แสดงเอกสารสิทธิ เบื้องต้น ผู้ที่ครอบครองไม่สามารถแสดงเอกสารสิทธิได้ จึงเข้าตรวจยึดพร้อมแจ้งดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพังงา เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
นายวิชัย สมรูป ผอ.สบทช.8 (สำนักบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 8) กล่าวว่า ทางกรมทรัพยากรทะเลและชายฝั่ง ได้ระบุเป้าหมายว่ามีพื้นที่ป่าชายเลนถูกบุกรุกจากกลุ่มนายทุน จึงเข้าตรวจสอบโดยแบ่งกำลังเจ้าหน้าที่เป็น 3 ชุด จากเจ้าหน้าที่สถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนในพื้นที่พังงาทั้ง 7 สถานี เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ อุทยานแห่งชาติ กอ.รมน.พังงา ตำรวจป่าไม้ ฝ่ายปกครอง
เบื้องต้น พบว่าในพื้นที่ดังกล่าวจากมติ ครม.ปี 30 กำหนดให้เป็นป่าชายเลน ถูกกลุ่มนายทุนเข้าบุกรุก ซึ่งผู้บุกรุกอ้างเอกสารสิทธิ และจากการตรวจสอบทางที่ดินไม่พบว่าพื้นที่ดังกล่าวมีการออกเอกสารสิทธิตามที่กล่าวอ้าง จึงได้ตรวจยึดพื้นที่ พร้อมแจ้งข้อกล่าวหานำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพังงา เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป และหากผู้บุกรุกพื้นที่มีเอกสารสิทธิในการครอบครองจริงให้แจ้งแก่พนักงานสอบสวนได้
วันนี้ (13 มี.ค.) นายสิทธิชัย ศักดา ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา พร้อมด้วย นายวิชัย สมรูป ผอ.สบทช.8 (สำนักบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 8) นายศรายุทธ ตันเถียร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา นายสมชาย เลขาวิวัฒน์ ผอ.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดพังงา สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจป่าไม้ เจ้าหน้าหน่วยป่าชายเลนพื้นที่พังงา 7 สถานี ออกปฏิบัติการทวงคืนผืนป่าชายเลนจังหวัดพังงา โดยการสนธิกำลังเข้าตรวจสอบการบุกรุก ยึดถือ ครอบครอง ทำลายอันทำให้เสื่อมเสียแก่สภาพป่า รวมถึงการสมคบและสนับสนุนช่วยเหลือ ตามคำสั่ง คสช.ที่ 66/2557 ซึ่งให้ถือปฏิบัติการไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชนผู้ยากไร้ ผู้มีรายได้น้อย และผู้ไร้ที่ดินทำกิน ซึ่งได้อาศัยอยู่ในพื้นที่เดิมก่อนคำสั่งมีผลบังคับใช้ ยกเว้นผู้ที่บุกรุกใหม่
ขณะที่รัฐบาลมีนโยบายพลิกฟื้น (ทวงคืน) ผืนป่าสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน เข้มงวดกฎหมายต่อนายทุนผู้มีอิทธิพลที่บุกรุกยึดถือครอบครองพื้นที่ป่าโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายอย่างเฉียบขาด จังหวัดพังงา ได้มีผลการปฏิบัติการตั้งแต่ปี 2559 ดำเนินคดีต่อผู้บุกรุก จำนวน 20 คดี ทวงคืนผืนป่าชายเลนได้ 342.25 ไร่ ปี 60 ดำเนินคดี 51 คดี ทวงคืนผืนป่าชายเลนได้ 1,587.61 ไร่ รวมพื้นที่ทวงคืนผืนป่าแล้ว จำนวน 1,929.86 ไร่
สำหรับปี 2561 สบทช.8 มีเป้าหมายทวงคืนผืนป่าชายเลน จำนวน 700 ไร่ โดยเข้าตรวจสอบพื้นที่ป่าชายเลนที่ต้องสงสัยว่ามีการยึดถือครอบครองและทำประโยชน์โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย บริเวณพื้นที่ ต.ถ้ำน้ำผุด อ.เมือง จ.พังงา จำนวน 7 แปลง เนื้อที่ประมาณ 160 ไร่ จากการเข้าตรวจสอบพบว่า มีนายทุนเข้าครอบครอง ส่วนใหญ่เป็นลักษณะทำบ่อกุ้ง ซึ่งได้มีการให้แสดงเอกสารสิทธิ เบื้องต้น ผู้ที่ครอบครองไม่สามารถแสดงเอกสารสิทธิได้ จึงเข้าตรวจยึดพร้อมแจ้งดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพังงา เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
นายวิชัย สมรูป ผอ.สบทช.8 (สำนักบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 8) กล่าวว่า ทางกรมทรัพยากรทะเลและชายฝั่ง ได้ระบุเป้าหมายว่ามีพื้นที่ป่าชายเลนถูกบุกรุกจากกลุ่มนายทุน จึงเข้าตรวจสอบโดยแบ่งกำลังเจ้าหน้าที่เป็น 3 ชุด จากเจ้าหน้าที่สถานีพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนในพื้นที่พังงาทั้ง 7 สถานี เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ อุทยานแห่งชาติ กอ.รมน.พังงา ตำรวจป่าไม้ ฝ่ายปกครอง
เบื้องต้น พบว่าในพื้นที่ดังกล่าวจากมติ ครม.ปี 30 กำหนดให้เป็นป่าชายเลน ถูกกลุ่มนายทุนเข้าบุกรุก ซึ่งผู้บุกรุกอ้างเอกสารสิทธิ และจากการตรวจสอบทางที่ดินไม่พบว่าพื้นที่ดังกล่าวมีการออกเอกสารสิทธิตามที่กล่าวอ้าง จึงได้ตรวจยึดพื้นที่ พร้อมแจ้งข้อกล่าวหานำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพังงา เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป และหากผู้บุกรุกพื้นที่มีเอกสารสิทธิในการครอบครองจริงให้แจ้งแก่พนักงานสอบสวนได้
