เชียงราย - เจ้าหน้าที่ผสานกำลังนับร้อยบุกยืดผืนป่าเชียงรายคืนแผ่นดิน พบอดีต ส.ส.ซื้อที่ สทก.1 ลามที่ป่ามานานนับ 10 ปี พอเสียชีวิตมีน้องสาวดูแล ก่อนส่งต่อนายทุนขุดดินขาย-ต่อไฟฟ้าเข้าแบ่งแปลงขายไร่ละกว่า 5 แสน
วันนี้ (13 มี.ค.) นายสมศักดิ์ เจียมสงวนวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 2 (เชียงราย) นำกำลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้, ฝ่ายปกครอง อส.อ.เมืองเชียงราย, กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) จ.เชียงราย, ตำรวจ สภ.บ้านดู่ พร้อมเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรม จ.เชียงราย ประมาณ 100 นาย เข้าตรวจยึดคืนผืนป่าเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าดอยนางแล ป่าดอยยาว และป่าดอยพระบาท เขตหมู่บ้านป่าซาง หมู่ 2 ต.บ้านดู่ อ.เมืองเชียงราย หลังมีประชาชนร้องเรียนว่ามีการบุกรุกและสร้างสิ่งปลูกสร้างเอาไว้เป็นบริเวณกว้าง
จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบบริเวณหนองช้างตาย เนื้อที่ประมาณ 229 ไร่ ที่อยู่เขตป่าสงวนแห่งชาติฯ แต่กลับมีการทำถนนเข้าไปในพื้นที่ และวางเสาไฟฟ้าเอาไว้เป็นจุดๆ รวมทั้งกั้นรั้วเป็นแปลงๆ บางส่วนสร้างเป็นบ้านพักคอนกรีตแบบถาวร บางแปลงมีการประกาศขาย และบางแปลงมีการเข้าไปทำประโยชน์ทั้งสร้างสิ่งปลูกสร้าง-ทำการเกษตร สร้างโบสถ์ บ้านพัก ฯลฯ เอาไว้เรียบร้อย
เจ้าหน้าที่จึงได้เชิญกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านในพื้นที่มาให้ข้อมูล เบื้องต้นทราบว่าพื้นที่ดังกล่าวบางส่วนอยู่ในเขตป่า บางส่วนขอผ่อนผันให้มีสิทธิทำกินชั่วคราวในเขตป่าสงวนแห่งชาติ (ครั้งที่ 1) หรือ สทก.1 ซึ่งมีเงื่อนให้เฉพาะชาวบ้านเข้าไปทำกิน แต่ห้ามซื้อขายถ่ายโอน รวมทั้งต้องอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติด้วย แต่ปรากฏว่าพื้นที่ดังกล่าวกลับมีการเปลี่ยนมือจากชาวบ้านไปอยู่ในมือของนายทุนมานานนับ 10 ปี คือ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จากภาคอีสานคนหนึ่ง ซึ่งเสียชีวิตไปแล้ว แต่ก็มีน้องสาวดูแลต่อ
ล่าสุดมีนายทุนชื่อ “ป้าอ๊อด” เจ้าของไร่แห่งหนึ่งใน จ.เชียงราย เข้ามาบริหารพื้นที่ มีการขุดดินออกขาย และเมื่อประมาณ 1 ปีก่อนได้เริ่มจัดแบ่งพื้นที่เป็นส่วนๆ-ต่อไฟฟ้าเข้าไป พร้อมทั้งสร้างสิ่งปลูกสร้างแล้วขายให้คนที่สนใจ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบุคคลบนพื้นที่สูงจากนอกพื้นที่ ในราคางานละประมาณ 130,000 บาท หรือไร่ละ 520,000 บาท
จากการสอบถามหาคนงานเฝ้าพื้นที่ชื่อนายอาส่อ เชอมือกู่ อายุ 31 ปีชาว ต.ป่าตึง อ.แม่จัน และนายอาซึ บู่โหล อายุ 37 ปีชาว ต.ท่าตอน อ.แม่อาย บอกว่าเป็นเพียงคนรับจ้างทำงานเท่านั้น เจ้าหน้าที่จึงอยู่ระหว่างตรวจสอบว่าเป็นบุคคลใดเพื่อจะได้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
นายสมศักดิ์กล่าวว่า เมื่อเข้าไปดูพื้นที่แล้วต้องตกตะลึง เพราะนายทุนเข้าไปบริหารจัดการที่ดิน ทำเป็นแปลงๆ สร้างรั้ว-สิ่งปลูกสร้าง และแม้จะเป็นที่ สทก.1 แต่จากการตรวจดูเบื้องต้นแล้วมีการเข้ามาบริหารจัดการพื้นที่อย่างชัดเจน ดังนั้นเจ้าหน้าที่จะทำการตรวจยึดพื้นที่ทั้งหมดเอาไว้โดยทันที แต่ก็จะให้ความเป็นธรรมกับชาวบ้านที่มีสิทธิ์ใน สทก.1 ดังกล่าวมาตั้งแต่ต้นซึ่งพบว่าในปี 2527 มีจำนวนประมาณ 80 ราย