สตูล - จนท.นำกำลังเข้าตรวจสอบ พร้อมสั่งปิด 3 บ่อขุด และดูดทรายในพื้นที่ อ.ควนกาหลง จ.สตูล หลังพบว่าไม่มีใบอนุญาต หลายฝ่ายเร่งเข้าจัดระเบียบปกป้องทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม
วันนี้ (8 ก.พ.) ร.อ.ปิยะเชษฐ์ หนูฉ้ง สำนักการข่าว กอ.รมน. นำกำลังชุดกองกำกับสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสตูล นายสมเกียรติ จันทร์ดวง ปลัดอำเภอควนกาหลง และนายอำพล ชุมช่วย ปลัดอำเภอควนกาหลง ตำรวจ สภ.ควนกาหลง นายมนัญชย์ แอโส๊ะ หัวหน้าชุดปราบปรามเจ้าท่าภูมิภาค สาขาสตูล หน่วยป้องกันรักษาป่า สต.1 (ทุ่งนุ้ย) สำนักงานอุตสาหกรรม จ.สตูล และหน่วยกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) กำนัน และผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 8 และหมู่ที่ 11 สนธิกำลัง 20 นาย เข้าร่วมตรวจสอบ และตรวจยึด หลังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่า มีการลักลอบขุดทราย และดูดทรายในพื้นที่ 3 จุด ของบ้านปาล์มไทย หมู่ที่ 11 บ้านเหนือคลอง หมู่ที่ 8 จำนวน 2 จุด ต.ควนกาหลง อ.ควนกาหลง จ.สตูล
ทันทีที่ไปตรวจสอบในจุดแรกที่บ้านปาล์มไทย หมู่ที่ 11 พบรถแบ็กโฮจอดนิ่งบริเวณลำธาร โดยมีชาวบ้านคือ นายสมาน ขุนแผน อายุ 58 ปี บ้านเลขที่ 68 หมู่ที่ 8 ต.ควนกาหลง รับเป็นเจ้าของที่ดินดังกล่าว และอ้างว่า ได้ร่วมกับเถ้าแก่รถแบ็กโฮ โดยใช้สัญญาต่างตอบแทนให้มาช่วยปรับหน้าดิน หลังประสบปัญหาหน้าดินพังจากปัญหาน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมทุกปี โดยแลกกับเนื้อดินทรายที่อยู่ติดริมธาร แต่จากการตรวจสอบไม่พบว่าเถ้าแก่เจ้าของรถแบ็กโฮมีการขอใบอนุญาตในการดำเนินประกอบกิจการโรงงาน จากสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสตูล
ซึ่งอีก 2 จุดในพื้นที่หมู่ที่ 8 บ้านเหนือคลอง พบหนึ่งในนั้นมีการดูดทรายโดยใช้เครื่องมือทำการ และอีกจุดมีร่องรอยการขุด และดูดทราย จึงทำการตรวจยึดพื้นที่ทั้ง 3 จุด เพื่อยุติการประกอบกิจการทันที เนื่องจากทั้ง 3 จุด ไม่พบมีการออกใบอนุญาตในการประกอบกิจการโรงงานจากอุตสาหกรรมจังหวัด พร้อมทำการตรวจสอบว่ายังเข้าข่ายการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.เจ้าท่า ภูมิภาคสาขาสตูล หรือไม่ เนื่องจากใกล้แหล่งน้ำ พร้อมทั้งหน่วยงานที่มีการบูรณาการเกี่ยวข้องเข้าร่วมตรวจสอบ เพื่อหามาตรการป้องปรามไม่ให้มีการกระทำความผิดอีกต่อไป
ด้าน นายนัฐพงษ์ หอมไชแก้ว เจ้าพนักงานตรวจโรงงานปฏิบัติงาน สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสตูล กล่าวว่า พื้นที่ทั้ง 3 จุด จากการตรวจสอบพบว่า อยู่ในขั้นตอนของการยื่นเอกสารขอใบอนุญาตทำโรงงานอยู่ จึงต้องดำเนินการตามกระบวนการกฎหมายของอุตสาหกรรมจังหวัดต่อไป และส่งเรื่องให้ทางคณะกรรมการอำเภอควนกาหลง ดำเนินการอีกครั้งเพื่อเปรียบเทียบปรับ