เชียงใหม่ - ตำรวจเปิดยุทธการปราบส่วยท่าทราย เชียงใหม่ บุกค้นบ้านเจ้าหน้าที่รัฐเรียกรับผลประโยชน์จาก 25 เถ้าแก่ท่าทราย และขออนุญาตพื้นที่ป่าไม้ดูดทรายรายละกว่า 150,000 บาท
วันนี้ (22 พ.ย.) พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผู้บังคับการกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ ได้เปิดยุทธการปราบส่วยท่าทรายเชียงใหม่ โดยปล่อยแถวกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม, ตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เกือบ 200 นาย
โดยกระจายกำลังเข้าตรวจค้นบ้านเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ตำแหน่งนักวิชาการป่าไม้ ในหมู่บ้านภาวิล ต.ท่าศาลา ในตัวเมืองเชียงใหม่ และในชุมชนห้วยเกี๋ยง ต.หนองหาร อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ เพื่อหาหลักฐานเอกสารในการเชื่อมโยงการรับเงินจากผู้ประกอบการท่าทรายในเชียงใหม่แต่ไม่พบตัว มีเพียงภรรยานำเข้าตรวจค้น รวมทั้งเข้าตรวจค้นท่าดูดทรายในพื้นที่ อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ อีก 2 จุด ว่ามีการขออนุญาตถูกต้องหรือไม่
พ.ต.อ.วัชรินทร์ ภูสิทธิ์ รองผู้บังคับการ กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ หรือ ป.ป.ป. กล่าวว่า ได้รับการร้องเรียนจากผู้ประกอบการดูดทรายในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ถึง 25 ราย ในจำนวนนี้มีอยู่ 3 รายได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อเจ้าหน้าที่ของรัฐแล้ว ทางเจ้าหน้าที่จึงมาหาหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อนำไปประกอบสำนวนการสอบสวน
พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผู้บังคับการกองบังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐได้กระทำความผิดจริง โดยใช้ตำแหน่งหน้าที่แสวงหาผลประโยชน์เพื่อตนเองหรือผู้อื่น เรียกร้องเงินจากผู้ประกอบการดูดทรายรายละ 150,000 บาทในการอนุมัติใบอนุญาต ถ้าไม่จ่ายเงินให้ก็จะไม่ได้รับการดำเนินการจากเจ้าหน้าที่
โดยข้อเท็จจริงแล้ว การยื่นขอใบอนุญาตใช้พื้นที่ป่าไม้ในแม่น้ำจะเสียค่าธรรมเนียมเป็นเงินไม่เกิน 100 บาท ทำให้ผู้ประกอบการได้รับความเดือดร้อน
พล.ต.ต.กมลบอกว่า การเปิดยุทธการปราบส่วยดูดทรายครั้งนี้ เพื่อให้เจ้าหน้าที่รัฐ ผู้กระทำผิด หรือคิดจะทำผิดได้เกิดความเกรงกลัว และทางเจ้าหน้าที่ยังจะใช้กฎหมายความผิดฐานฟอกเงินเข้าดำเนินการด้วย ซึ่งเรื่องนี้เป็นปัญหามานานนับ 10 ปี ผู้ประกอบการบางรายมีใบอนุญาตทำผิดเงื่อนไข หรือการประกอบกิจการไม่มีใบอนุญาต ก็ปล่อยให้มีการดูดทรายได้อยู่ ซึ่งมีการปล่อยปละละเลยมานาน