xs
xsm
sm
md
lg

สนธิกำลังยึดรีสอร์ตบนเกาะพยาม ไร้เงาทหารหลังมีกระแสต้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ชุมพร - สนธิกำลังชุดพยัคฆ์ไพร ฉลามขาว พญาเสือ ตรวจยึดรีสอร์ต บังกะโล บนเกาะพยาม ไร้ทหารร่วมวง หลังมีชาวบ้านร้องเรียนอดีตนายทหารคนสนิทบิ๊ก มทบ.44 ใช้อิทธิพลข่มขู่ไล่ที่ ปิดร้านอาหาร จนเกิดกระแสต่อต้าน

หลังจาก พ.ท.ดุสิต เกษรแก้ว นายทหารยุทธโยธา หน.ฉก.แก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ บก.ควบคุม มทบ.44 ได้รับคำสั่งจาก พล.ต.อุดมวิทย์ อโนวัลย์ ผบ.มทบ.44 รับผิดชอบพื้นที่ จ.ชุมพร-ระนอง ให้ลงพื้นที่เกาะพยาม หมู่ที่ 1 ตำบลเกาะพยาม อ.เมือง จ.ระนอง มาตั้งแต่ปลายปี 2559 ร่วมกับหน่วยงานเกี่ยวข้อง เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีชาวบ้านการร้องเรียนเกี่ยวกับผู้มีอิทธิพล และกลุ่มนายทุนสร้างรีสอร์ต บังกะโล บ้านพักตากอากาศ ในเขตที่ดิน ส.ป.ก.และป่าสงวนแห่งชาติ ป่าชายเลนจำนวนมาก ตามที่ทีมข่าวนำเสนอมาอย่างต่อเนื่องนั้น

วันนี้ (26 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีดังกล่าว ว่า นายถิน พิสูจน์ ผอ.สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดระนอง ในฐานะประธานคณะกรรมการจัดระเบียบเกาะพยาม ตามคำสั่งจังหวัดระนอง ที่ 2875/2559 และตามคำสั่ง มทบ.44 บก.ควบคุม มทบ.44 ที่ 208/2559 เรื่องการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินบนเกาะพยาม หมู่ 1 ตำบลเกาะพยาม อ.เมือง จ.ระนอง ได้มีหนังสือแจ้งถึงคณะกรรมการจากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อประชุมติดตามความคืบหน้า และวางแผนปฏิบัติการกำหนดเป้าหมาย ตรวจสอบ ตรวจยึดตามกฎหมาย เป็นเวลา 3 วัน ระหว่างวันที่ 24-26 ก.พ.60 ร่วมกับชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ ชุดพญาเสือ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพรรณพืช ชุดฉลามขาว กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ชุด บก.ปทส.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงระยะเวลาดังกล่าวหลังจากได้มีการประชุมรวบรวมหลักฐานจากฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง และวางแผนกำหนดพื้นที่เป้าหมายแล้ว ชุดพยัคฆ์ไพร ชุดพญาเสือ ชุดฉลามขาว สนธิกำลังทหารเรือ ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ตชด. และอีกหลายหน่วยงานกว่า 100 นาย ได้ลงพื้นที่เกาะพยาม เข้าตรวจสอบรีสอร์ต บ้านพักตากอากาศ บนเกาะพยาม มัลดีฟส์เมืองไทย แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังอันดับ 1 ของจังหวัด และประเทศไทย ซึ่งเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ในพื้นที่เป้าหมายที่มีความผิดชัดเจนบริเวณอ่าวใหญ่ อ่าวเขาควาย เกาะมะขาม พร้อมดำเนินการตรวจสอบยึดบ้านพักตากอากาศ รีสอร์ต ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ จำนวน 9 แปลง รวมพื้นที่ 38 ไร่ พร้อมกับดำเนินคดีตามกฎหมาย และมาตรการตามคำสั่งของ คสช.หลังตรวจสอบพบว่ามีการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวน มีการครอบครองออกเอกสารสิทธิอย่างไม่ถูกต้อง เช่น เอกสารการซื้อขายโฉนดชุมชนกันเองโดยไม่ใช่เอกสารทางราชการ การซื้อขายสิทธิการครอบครอง เอกสาร ภทบ.5 ซึ่งขาดสิทธิการครอบครองแล้ว นอกจากนี้ จากการตรวจสอบพิกัดแปรภาพถ่ายดาวเทียมยังต้องมีรีสอร์ต บ้านพักตากอากาศอีกกว่า 40 แห่ง ที่จะต้องถูกดำเนินการตรวจสอบต่อไป

ด้าน นายอรรถพล เจริญชันษา ผอ.สำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กล่าวว่า เดิมพื้นที่บนเกาะพยาม ได้ประกาศเป็นพื้นที่ป่าสงวนทั้งหมดกว่า 10,000 ไร่ ตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 เมื่อปี พ.ศ.2516 ต่อมา คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อปี 2536 อนุมัติให้ดำเนินการเป็นเขตปฏิรูปที่ดินทำกินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) จำนวนกว่า 5,000ไร่ บางส่วนได้ออกเอกสาร ส.ป.ก.4-01 ให้แก่ราษฎรได้ทำกินแล้ว แต่บางส่วนยังไม่สามาระออกเอกสารดังกล่าวได้ เนื่องจากมีการสร้างรีสอร์ต บังกะโล ซึ่งผิดเงื่อนไข นอกจากนั้น พบว่ามีการกว้านซื้อที่ดินซื้อขายสิทธิการครอบครองกันหลายช่วง โดยการตรวจสอบจับกุมตรวจยึดในครั้งนี้ได้เริ่มจากกลุ่มนายทุนที่เข้ามากว้านซื้อสิทธิกาครอบครองเป็นอันดับแรก จากนั้นก็จะตรวจสอบต่อไปอีก ผิดถูกก็ว่ากันตามกฎหมาย

ขณะที่ นายชีวะภาพ ชีวะธรรม หน.ชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ กล่าวว่า พื้นที่เกาะพยามแห่งนี้เจ้าหน้าที่ได้แบ่งผู้ที่เข้ามาอยู่อาศัยเป็น 3 สี คือ สีแดง คือ มีหลักฐานว่าทำผิดบุกรุกป่าสามารถดำเนินการยึดคืนดำเนินคดีได้ทันที จำนวน 9 ราย สีเหลือง ที่มีจำนวนกว่า 40 ราย ยังต้องรอตรวจสอบเอกสารการถือครองที่ไปที่มาจึงยังไม่มีการดำเนินการทางกฎหมาย และสีเขียว คือ ประชาชนในพื้นที่ซึ่งครอบครองสิทธิทำกินอยู่กันมานานแต่ดั้งเดิมจำนวนกว่า 100 ราย ซึ่งจะต้องรอการตรวจสอบอย่างละเอียด โดยเป้าหมายหลักคือ ต้องการดำเนินการต่อกลุ่มนายทุน ผู้มีอิทธิพลที่เข้ามากว้านซื้อที่ดิน และการทำเอกสารปลอมออกหลอกขายแก่ผู้ที่มาซื้อ จะดำเนินอย่างเด็ดขาด ตามคำสั่งของ คสช.เพื่อเรียกพื้นที่ป่ากลับคืน

เช่นเดียวกับ นายรัชชัย พรพา หัวหน้าทีมชุดฉลามขาว กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่า จากการตรวจสอบตรวจยึด จับกุม พบมีรีสอร์ตบางแห่งที่แสดงหลักฐานเอกสารสิทธิทำกินที่ดิน ส.ป.ก. มีการดูดทราย ขุดลอก และมีการถมบุกรุกพื้นที่ป่าชายเลนที่มีความอุดมสมบูรณ์ตามสภาพอยู่แล้ว ซึ่งถือเป็นการผิดเงื่อนไข และ ส.ป.ก. ก็ไม่สามารถนำป่าชายเลนโดยสภาพไปออกเอกสารให้แก่ราษฎรอยู่แล้ว จะต้องคืนกลับมาให้แก่กรมป่าไม้ตามเงื่อนไขการส่องมอบระหว่างหน่วยงาน ขณะที่บางรายมีการซื้อขายเปลี่ยนมือเป็นเจ้าของราย ทาง ส.ป.ก.จะดำเนินการเพิกถอนสิทธิถือครอง และเรียกคืนกลับคืนมา

สำหรับการประชุมวางแผนและมาตรการเข้าดำเนินการตรวจยึดจับกุมดำเนินคดีในครั้งนี้ นายถิน พิสูจน์ ในฐานะประธานคณะกรรมการจัดระเบียบเกาะพยาม ตามคำสั่งจังหวัดระนอง ที่ 2875/2559 และตามคำสั่ง มทบ.44 บก.ควบคุม มทบ.44 ที่ 208/2559 เรื่องการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินบนเกาะพยาม ได้มีหนังสือด่วนที่สุดที่ รน.0014.3/213 ลงวันที่ 23 ก.พ.60 ถึง พล.ต.อุดมวิทย์ อโนวัลย์ ผบ.มทบ.44 พร้อมแนบแผนปฏิบัติการจัดระเบียบเกาะพยาม ขอให้ชุดแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ บก.ควบคุม มทบ.44 ที่ดำเนินการกรณีดังกล่าวมาแต่ต้น และเป็นคณะกรรมการ คณะทำงานที่ได้รับแต่งตั้งตามคำสั่งดังกล่าว เข้าร่วมประชุม และสนธิกำลังร่วมตรวจสอบ ตรวจยึด ตามภารกิจในครั้งนี้ด้วย แต่ปรากฏว่าไม่มีการตอบรับ และให้เข้าร่วมในครั้งนี้ด้วยแต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีดังกล่าวอาจมีสาเหตุมาจากก่อนหน้านี้ ได้เกิดปัญหามีชาวบ้านร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรม จ.ระนอง และกองทัพภาคที่ 4 กล่าวหาอดีตนายทหารยศพันโทคนสนิทนายทหารระดับบิ๊กใน มทบ.44 ได้นำพรรคพวกลงพื้นที่ข่มขู่ขับไล่เพื่อครอบครองสิทธิในที่ดินเพื่อนำไปขายให้แก่นายทุน และกลั่นแกล้งใช้อิทธิพลปิดร้านอาหาร จนชาวบ้านต้องหนีออกนอนพื้นที่เพื่อความปลอดภัย และเกิดกระแสต่อต้านทหารในพื้นที่ จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างมากขณะนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น