กลุ่มแม่บ้านตำบลปริก จ.สงขลา จับกลุ่มทำน้ำพริกขาย สร้างรายได้หลักหมื่นต่อเดือน

 
ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - กลุ่มแม่บ้านตำบลปริก อ.สะเดา จ.สงขลา จับกลุ่มทำน้ำพริกอุมมีขาย กระแสตอบรับดี ลูกค้าติดใจในรสชาติที่เข้มข้นตามสไตล์ของคนใต้ จนสร้างรายได้เสริมหลักหมื่นบาทต่อเดือน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในพื้นที่ ม.3 บ้านตลาดปริกใต้ ต.ปริก อ.สะเดา จ.สงขลา นางสอฟีหย๊ะ หละหลุด ประธานกลุ่มแม่บ้าน เปิดเผยว่า ได้ร่วมมือกันจัดเป็นกลุ่มอาชีพน้ำพริกอุมมี ทำน้ำพริกต่างๆ ใส่กระปุกขาย กระแสตอบรับดีส่งขายทั้งใน และต่างจังหวัด ผลิตได้ไม่เพียงพอต่อความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่ต่างติดใจในรสชาติที่เข้มข้นตามสไตล์ของคนใต้
 

 
โดยเริ่มรวมกลุ่มกันเมื่อปี พ.ศ.2558 ได้รับการสนับสนุนงบประมาณ และวิทยากรในการฝึกสอนมาจากศูนย์สงเคราะห์และฝึกอาชีพสตรีภาคใต้ ซึ่งขณะนี้มีสมาชิกกว่า 20 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ ใช้เวลาว่างหลังจากงานประจำ เช่น กรีดยางพารา และการทำเกษตรอื่นๆ มารวมตัวกันเฉลี่ยอาทิตย์ละ 1 ครั้ง ในการทำน้ำพริก

นางสาลาโสม หมัดส่าหมาน รองประธานกลุ่มฯ บอกว่า ทางกลุ่มได้ทำน้ำพริกต่างๆ เช่น น้ำพริกตาแดง น้ำพริกปลาเค็ม น้ำพริกกุ้งเสียบ น้ำพริกปลาแห้ง น้ำพริกพริกไทยดำ และน้ำพริกมะขามสด โดยบรรจุใส่กระปุกขายกระปุกละ 25 บาท ซึ่งน้ำพริกแต่ละสูตรจะผ่านการปรับปรุงสูตรจนเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เน้นความอร่อย สะอาด ไม่ใส่สารกันบูด โดยจะคัดวัตถุดิบที่สดใหม่เสมอ บางอย่างก็เป็นวัตถุดิบที่หาซื้อได้ในชุมชน ซึ่งเป็นการกระจายรายได้อีกทางหนึ่ง
 

 
สำหรับขั้นตอนการผลิตยอมรับว่าค่อนข้างที่จะต้องใช้เวลานาน เพราะไม่เน้นเครื่องทุ่นแรง ส่วนใหญ่จะใช้แรงคน ทั้งการคัดวัตถุดิบ การผสมเครื่องแต่ละสูตร รวมถึงการผัดที่ใช้เวลากว่า 5-8 ชั่วโมง เสร็จแล้วต้องนำมาวางไว้ให้เย็นประมาณ 1 วัน ถึงจะนำใส่กระปุกพร้อมจำหน่ายได้ โดยตลาดในตอนนี้มีทั้งตลาดใกล้เคียง เช่น ตลาดกรีนฯ ส่วนหนึ่งก็ส่งไปขายที่ห้างโลตัส จ.สตูล และออกงานตามตลาดต่างๆ ที่หน่วยงานราชการจัดขึ้น

ซึ่งกระแสตอบรับเป็นที่น่าพอใจ จนทางกลุ่มผลิตแทบไม่ทัน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะสมาชิกส่วนใหญ่มีงานประจำอยู่แล้ว ใน 1 สัปดาห์ จะรวมตัวกัน 1-2 ครั้ง ผลิตได้ครั้งละประมาณ 200 กระปุก เฉลี่ยทางกลุ่มมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 15,000-20,000 บาทต่อเดือน แบ่งให้แก่สมาชิกแล้วแม้ไม่มากนักก็เป็นสิ่งที่น่าภูมิใจ ที่สำคัญถือเป็นการรวมกลุ่มพบปะพูดคุยสร้างงาน สร้างความสามัคคีในชุมชน ให้ทุกคนอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุขในวิถีชีวิตแบบพอเพียง