ตรัง - คลื่นกัดเซาะชายฝั่งในหลายจุดของ อ.สิเกา จ.ตรัง กำลังมีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะที่หาดหัวหิน ซัดชายฝั่งจนสิ่งก่อสร้างหลายอย่างพังพินาศ ขณะที่อุทยานหาดเจ้าไหม เร่งหาวิธีแก้ปัญหาที่หาดปากเมงแล้ว
วันนี้ (18 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจสถานที่ท่องเที่ยวริมชายหาดทะเลตรัง โดยพบว่าขณะนี้บางแห่งมีต้นสนขนาดใหญ่ล้มระเนระนาดจนแลดูไม่สวยงาม เนื่องจากถูกกระแสคลื่นกัดเซาะโคนต้นจนรากลอยออกขึ้นมาจากพื้นดิน ส่วนบางต้นได้ล้มลงเป็นเวลานานจนเหลือเพียงแกนลำต้นเท่านั้น แต่ไม่มีการตัด หรือขนย้ายออกไปจากชายหาด โดยยังคงปล่อยให้ล้มอยู่สภาพเช่นเดิม ส่วนศาลาพักร้อนริมชายหาดก็ถูกกระแสคลื่นกัดเซาะ จนทำให้ตัวศาลาทรุดตัวกลืนหายไปกับผืนทราย โดยไม่มีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้ามาบูรณาการใหม่ หรือปรับปรุงแก้ไข
โดยเฉพาะที่ชายหาดหัวหิน อ.สิเกา ล่าสุด ได้ถูกกระแสคลื่นกัดเซาะจนพังเสียหายลึกเข้ามาในแผ่นดินกว่า 15 เมตรแล้วในปีนี้ ขณะที่สิ่งปลูกสร้าง เช่น สนามกีฬา และอาคารอเนกประสงค์ของ อบต.บ่อหิน ก็กำลังจะทรุดตัวลงในทะเลด้วย ซึ่งก่อนที่จะมีการพังทลายของชายฝั่งมากเหมือนเช่นทุกวันนี้ ทาง อบต.ในพื้นที่เองก็เคยร้องขอความช่วยเหลือไปยังหน่วยงานด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แต่ก็ถูกนิ่งเฉยมาโดยตลอด กระทั่งมาถึงวันนี้ความเสียหายจากคลื่นกัดเซาะชายฝั่งได้รุนแรงขึ้นเป็นหลายเท่าตัวแล้ว
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ได้ส่งเจ้าหน้าที่มาดำเนินการทดสอบการใช้ธรรมชาติแก้ปัญหาภัยทางธรรมชาติ โดยการนำไม้มาผูกมัดบริเวณหาดทรายที่หาดปากเมง หนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวดังของ จ.ตรัง ที่กำลังประสบปัญหาคลื่นกัดเซาะชายฝั่ง เพื่อเป็นพนังกั้นคลื่นแก้ปัญหา หลังจากการก่อสร้างพนังกันคลื่นแบบถาวรแบบคอนกรีตได้รับการคัดค้าน เนื่องจากจะทำให้บดบังทัศนียภาพความสวยงามทางทะเล และเกรงว่าวิธีการดังกล่าวจะทำให้ปัญหาคลื่นกัดเซาะชายฝั่งมีความรุนแรงมากขึ้น