พังงา - สถานการณ์ยังไม่คลี่คลายปัญหาน้ำทะเลกัดเซาะชายฝั่งเกาะคอเขา อ.ตะกั่วป่า พบเสียหาย กว่า 17 กิโลเมตร ประกาศเป็นเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัยน้ำทะเลกัดเซาะชายฝั่งบ้านปากเกาะ ด้านผู้ว่าฯ ลงพื้นที่เร่งระดมสรรพกำลังนำเสาเข็ม อุปกรณ์การก่อสร้างเขื่อนแนวกันคลื่นป้องกัน
วันนี้ (31 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์คลื่นลมแรงพัดเข้าหายชายฝั่งกัดเซาะในพื้นที่ ม.3 บ้านปากเกาะ ต.เกาะคอเขา อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ว่า สถานการณ์ยังไม่คลี่คลาย เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงมรสุม คลื่นขนาดใหญ่ได้กัดเซาะชายหาดตลอดแนวเสียหายกว่า 17 กิโลเมตร
โดยขณะนี้คลื่นกัดเซาะเข้าหาฝั่งในแนวเขตเสียหายประมาณ 200 เมตร ซึ่งชาวบ้านที่อาศัยบริเวณชายฝั่งต้องเตรียมพร้อมรับมือคลื่นลมแรงตลอดเวลา ด้านทางหน่วงงานราชการได้ลงพื้นที่นำอุปกรณ์เสาเข็ม ถุงบิ๊กแบ็กทำแนวผนังกันคลื่นไม่ให้ซัดเข้าหาฝั่งเสียหาย
นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา กล่าวว่า ตามที่ปรากฏสาธารณภัยน้ำทะเลกัดเซาะชายฝั่ง บ้านปากเกาะ หมู่ที่ 3 ต.เกาะคอเขา อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ตั้งแต่วันที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมา จังหวัดพังงา ได้ประกาศเป็นพื้นที่ประสบสาธารณภัยน้ำทะเลกัดเซาะชายฝั่ง ได้ลงพื้นที่ให้กำลังใจ ตรวจพื้นที่บ้านปากเกาะ
ขณะนี้เป็นช่วงน้ำลด ระยะเวลา 7-10 วัน ได้ระดมสรรพกำลัง โดยได้รับการสนับสนุนจากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ส่งอาจารย์ วิศวกรรม มาให้ข้อเสนอแนะในการช่วยขนย้าย เสาเข็ม อุปกรณ์การก่อสร้างมาทำเป็นเขื่อนไม่ให้น้ำกัดเซาะชายฝั่ง
โดยขอความร่วมมือจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดพังงา ใช้เครื่องจักรกลขนย้ายซากอุปกรณ์ก่อสร้าง เสาเข็มที่จำหน่ายแล้วไปทำเป็นเขื่อน ส่วนองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะคอเขา สภา อบต.เกาะคอเขา ก็เร่งนำเรื่องเข้าสภา อบต.เพื่ออนุมัติเงินว่าจ้างรถช่วยกันระดมอุปกรณ์
เพื่อไปป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งของบ้านปากเกาะ เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป มีเวลา 7-10 วัน ในช่วงน้ำลด ทั้งนี้ การประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัยน้ำทะเลกัดเซาะชายฝั่งทุกหน่วยงานมีหน้าที่ต้องเข้าไปช่วยเหลือ
วันนี้ (31 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์คลื่นลมแรงพัดเข้าหายชายฝั่งกัดเซาะในพื้นที่ ม.3 บ้านปากเกาะ ต.เกาะคอเขา อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ว่า สถานการณ์ยังไม่คลี่คลาย เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงมรสุม คลื่นขนาดใหญ่ได้กัดเซาะชายหาดตลอดแนวเสียหายกว่า 17 กิโลเมตร
โดยขณะนี้คลื่นกัดเซาะเข้าหาฝั่งในแนวเขตเสียหายประมาณ 200 เมตร ซึ่งชาวบ้านที่อาศัยบริเวณชายฝั่งต้องเตรียมพร้อมรับมือคลื่นลมแรงตลอดเวลา ด้านทางหน่วงงานราชการได้ลงพื้นที่นำอุปกรณ์เสาเข็ม ถุงบิ๊กแบ็กทำแนวผนังกันคลื่นไม่ให้ซัดเข้าหาฝั่งเสียหาย
นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา กล่าวว่า ตามที่ปรากฏสาธารณภัยน้ำทะเลกัดเซาะชายฝั่ง บ้านปากเกาะ หมู่ที่ 3 ต.เกาะคอเขา อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ตั้งแต่วันที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมา จังหวัดพังงา ได้ประกาศเป็นพื้นที่ประสบสาธารณภัยน้ำทะเลกัดเซาะชายฝั่ง ได้ลงพื้นที่ให้กำลังใจ ตรวจพื้นที่บ้านปากเกาะ
ขณะนี้เป็นช่วงน้ำลด ระยะเวลา 7-10 วัน ได้ระดมสรรพกำลัง โดยได้รับการสนับสนุนจากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ส่งอาจารย์ วิศวกรรม มาให้ข้อเสนอแนะในการช่วยขนย้าย เสาเข็ม อุปกรณ์การก่อสร้างมาทำเป็นเขื่อนไม่ให้น้ำกัดเซาะชายฝั่ง
โดยขอความร่วมมือจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดพังงา ใช้เครื่องจักรกลขนย้ายซากอุปกรณ์ก่อสร้าง เสาเข็มที่จำหน่ายแล้วไปทำเป็นเขื่อน ส่วนองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะคอเขา สภา อบต.เกาะคอเขา ก็เร่งนำเรื่องเข้าสภา อบต.เพื่ออนุมัติเงินว่าจ้างรถช่วยกันระดมอุปกรณ์
เพื่อไปป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งของบ้านปากเกาะ เริ่มดำเนินการตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป มีเวลา 7-10 วัน ในช่วงน้ำลด ทั้งนี้ การประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัยน้ำทะเลกัดเซาะชายฝั่งทุกหน่วยงานมีหน้าที่ต้องเข้าไปช่วยเหลือ