สุราษฎร์ธานี - แก๊งโจรกรรมออกอาละวาดลอบแอบตัดสายเคเบิลเสียหายหนัก จนส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง ล่าสุด เหิมขับรถกระบะพร้อมสมุนย้อนกลับมาเอาของกลางที่ซุกซ่อนในป่าริมทาง แต่ไม่รอดถูกรวบพร้อมอุปกรณ์การตัดสายที่นำมาด้วยหวังตัดสายเพิ่ม ตรวจสอบประวัติอดีตเป็นคนงานผู้รับเหมาติดตั้งสายเคเบิล รับทำมาหลายครั้ง
จากกรณีคนร้ายไม่ทราบจำนวนออกอาละวาดลักลอบตัดสายเคเบิลของบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ในพื้นที่อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี มาอย่างต่อเนื่องจนได้รับความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง และส่งผลกระทบต่อผู้ใช้บริการจนได้รับความเสียหายทั้งด้านธุรกิจ และการสื่อสารจำนวนมากนั้น
ต่อมา พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผบก.จังหวัดสุราษฎร์ธานี สั่งการให้ พ.ต.อ.ประจักษ์ ชุมพลวีระ ผกก.สภ.ไชยา เร่งดำเนินการติดตามจับกุมกลุ่มคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ และล่าสุด เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา (2 ต.ค.) พ.ต.อ.ประจักษ์ ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า พบเห็นคนร้าย จำนวน 2 คน กำลังขนย้ายสายเคเบิลที่คนร้ายนำมาซุกซ่อนที่คูน้ำข้างถนน บริเวณหมู่ที่ 1 ตำบลเลม็ด จึงกำลังเข้าไปปิดล้อมตรวจค้น
เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงที่เกิดเหตุพบรถกระบะยี่ห้อนิสสัน มีรั้วสีขาว หมายเลขทะเบียน พค 8974 สุราษฎร์ธานี และคนร้าย จำนวน 2 คน ทราบชื่อภายหลังคือ นายเอกพงษ์ พูลพิพัฒน์ อายุ 41 ปี นายปัญญาวุฒิ กล่อมเมือง อายุ 35 ปี ชาวอำเภอพุนพิน กำลังลากสายเคเบิลที่อยู่ในคูน้ำเพื่อนำไปใส่ท้ายรถคันดังกล่าว จึงเข้าควบคุมตัว และทำการตรวจค้นภายในรถ พบอุปกรณ์การตัด เช่น คีมตัดสายไฟขนาดต่างๆ จำนวนหลายชิ้น นอตเหล็กยาวที่ใช้สำหรับปีนเสาไฟฟ้า ถุงมือ และยังพบอาวุธปืนลูกซองสั้น ไม่มีเลขทะเบียน พร้อมกระสุนปืน จำนวน 1 กระบอก
จากการสอบสวนในเบื้องต้นผู้ต้องหาได้ให้การรับสารภาพ ว่า เป็นผู้ลักลอบตัดสายเคเบิลดังกล่าวจริง และได้ขับรถจากอำเภอพุนพิน เพื่อมาเอาของกลางที่ซ่อนไว้ แต่มาถูกจับกุมเสียก่อน ทางเจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไปดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ และมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธไปในพื้นที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต
จากการตรวจสอบประวัติทั้งคู่เคยเป็นลูกจ้างผู้รับเหมาติดตั้งสายเคเบิล และทราบจุดที่ติดตั้งสายเคเบิลที่เป็นสายทองแดงเป็นอย่างดี จึงมาก่อเหตุเพื่อหวังนำทองแดงที่มีราคาสูงไปขายต่อ และรับว่า เคยก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง
จากกรณีคนร้ายไม่ทราบจำนวนออกอาละวาดลักลอบตัดสายเคเบิลของบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ในพื้นที่อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี มาอย่างต่อเนื่องจนได้รับความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง และส่งผลกระทบต่อผู้ใช้บริการจนได้รับความเสียหายทั้งด้านธุรกิจ และการสื่อสารจำนวนมากนั้น
ต่อมา พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผบก.จังหวัดสุราษฎร์ธานี สั่งการให้ พ.ต.อ.ประจักษ์ ชุมพลวีระ ผกก.สภ.ไชยา เร่งดำเนินการติดตามจับกุมกลุ่มคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ และล่าสุด เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา (2 ต.ค.) พ.ต.อ.ประจักษ์ ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า พบเห็นคนร้าย จำนวน 2 คน กำลังขนย้ายสายเคเบิลที่คนร้ายนำมาซุกซ่อนที่คูน้ำข้างถนน บริเวณหมู่ที่ 1 ตำบลเลม็ด จึงกำลังเข้าไปปิดล้อมตรวจค้น
เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงที่เกิดเหตุพบรถกระบะยี่ห้อนิสสัน มีรั้วสีขาว หมายเลขทะเบียน พค 8974 สุราษฎร์ธานี และคนร้าย จำนวน 2 คน ทราบชื่อภายหลังคือ นายเอกพงษ์ พูลพิพัฒน์ อายุ 41 ปี นายปัญญาวุฒิ กล่อมเมือง อายุ 35 ปี ชาวอำเภอพุนพิน กำลังลากสายเคเบิลที่อยู่ในคูน้ำเพื่อนำไปใส่ท้ายรถคันดังกล่าว จึงเข้าควบคุมตัว และทำการตรวจค้นภายในรถ พบอุปกรณ์การตัด เช่น คีมตัดสายไฟขนาดต่างๆ จำนวนหลายชิ้น นอตเหล็กยาวที่ใช้สำหรับปีนเสาไฟฟ้า ถุงมือ และยังพบอาวุธปืนลูกซองสั้น ไม่มีเลขทะเบียน พร้อมกระสุนปืน จำนวน 1 กระบอก
จากการสอบสวนในเบื้องต้นผู้ต้องหาได้ให้การรับสารภาพ ว่า เป็นผู้ลักลอบตัดสายเคเบิลดังกล่าวจริง และได้ขับรถจากอำเภอพุนพิน เพื่อมาเอาของกลางที่ซ่อนไว้ แต่มาถูกจับกุมเสียก่อน ทางเจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไปดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ และมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธไปในพื้นที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต
จากการตรวจสอบประวัติทั้งคู่เคยเป็นลูกจ้างผู้รับเหมาติดตั้งสายเคเบิล และทราบจุดที่ติดตั้งสายเคเบิลที่เป็นสายทองแดงเป็นอย่างดี จึงมาก่อเหตุเพื่อหวังนำทองแดงที่มีราคาสูงไปขายต่อ และรับว่า เคยก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง