xs
xsm
sm
md
lg

กรมประมง เครือเจริญโภคภัณฑ์ มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์ และทรูฯ ร่วมวางปะการังเทียม ฟื้นทะเล-ชุมชนชีวิตคนชายฝั่ง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


กรมประมง เครือเจริญโภคภัณฑ์ มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์ และบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ร่วมพิธีวาง “ปะการังเทียม” ฟื้นทะเล-ชุมชนชีวิตคนชายฝั่งให้แก่ชุมชนชายฝั่งในพื้นที่อ.สทิงพระ จ.สงขลา และ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ตามโครงการความร่วมมือการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล เพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและฟื้นฟูการประมงชายฝั่งทะเลอย่างยั่งยืน

ดร.อดิศร พร้อมเทพ อธิบดีกรมประมง นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ นายสุปรี เบ้าสิงห์สวย ผู้แทนมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์ และดร.อธิป อัศวานันท์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนานโยบายเชิงกลยุทธ์ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วย นายกชกร รักษาสรณ์ นายอำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา นายวีรนันทน์ เพ็งจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี กลุ่มเอ็นจีโอ และชาวบ้านในพื้นที่ร่วมพิธีวาง “ปะการังเทียม” ฟื้นทะเล-ชุมชนชีวิตคนชายฝั่ง ให้แก่ชุมชนชายฝั่งในพื้นที่ อ.สทิงพระ จ.สงขลา และ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ตามโครงการความร่วมมือการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล ณ หาดมหาราช อ.สทิงพระ จ.สงขลา ในช่วงเช้าที่ผ่านมา

ดร.อดิศร พร้อมเทพ อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า การจัดวางปะการังเทียมครั้งนี้ถือเป็นความก้าวหน้าในระยะที่ 1 จากการลงนามในโครงการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและฟื้นฟูการประมงชายฝั่งอย่างยั่งยืน ทั้งในพื้นที่จังหวัดชายฝั่งทะเลทั้งฝั่งภาคตะวันออกอ่าวไทย และทะเลอันดามัน ระหว่างกรมประมง เครือเจริญโภคภัณฑ์ มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์ และบริษัท ทรู คอร์ปอร์เรชั่น จำกัด (มหาชน) เมื่อช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา มีจุดประสงค์เพื่อการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืน

โดยกรมประมงเป็นตัวแทนส่งมอบปะการังเทียมให้แก่ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา และผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เพื่อนำปะการังดังกล่าวไปส่งมอบให้แก่ชุมชนชายฝั่งใน 2 พื้นที่เพื่อดำเนินการต่อไป

ทั้งนี้ ได้สอดคล้องต่อแนวทางของกรมประมง ที่มุ่งมั่นสร้างความร่วมมือกับองค์กรต่างๆ สร้างแหล่งอาศัยสัตว์ทะเลให้ถูกต้องตามขั้นตอน และกฎหมายการเปลี่ยนแปลงที่จับสัตว์น้ำ เพื่อเพิ่มผลผลิตประมง และสร้างความมั่นคงด้านอาหาร เนื่องจากปัจจุบันทรัพยากรสัตว์น้ำของไทยมีจำนวนน้อยลงเป็นอย่างมาก บางชนิดเสี่ยงต่อภาวะใกล้สูญพันธุ์ โดยผลจากการร่วมมือการวางปะการังเทียมกับเครือเจริญโภคภัณฑ์ และบริษัทในเครือฯ ครั้งนี้ ที่คาดว่าจะได้รับคือ จะเป็นแหล่งอาศัย เลี้ยงตัว วางไข่ และหลบภัยของสัตว์น้ำ และช่วยเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของแหล่งประมง ชาวประมงสามารถใช้ประโยชน์จากการทำประมงอย่างยั่งยืน และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นตามมา

นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวว่า การวางปะการังเทียมให้แก่ชุมชนชายฝั่งในพื้นที่ อ.สทิงพระ จ. สงขลา และ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ครั้งนี้ ถือเป็นความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญจากการร่วมมือของกรมประมง และเครือเจริญโภคภัณฑ์ มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์ และบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ในการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ ได้สอดคล้องต่อเครือเจริญโภคภัณฑ์ ที่มุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจภายใต้หลักการพัฒนาที่ยั่งยืนในทุกมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ตามเป้าหมายความยั่งยืนภายใต้กรอบ SDGs (Sustainable Development Goals) โดยเครือเจริญโภคภัณฑ์ไม่เพียงมุ่งเน้นสร้างความยั่งยืนขององค์กร แต่ยังมุ่งมั่นสร้างความยั่งยืนให้แก่สังคม และประเทศด้วย โดยจะร่วมมือกับทุกภาคส่วน เพื่อสร้างความเชื่อมโยงกับเครือข่ายต่างๆ ให้ขับเคลื่อนด้านความยั่งยืนให้เป็นจริงขึ้นมา

การวาง “ปะการังเทียม” ให้แก่ชุมชนชายฝั่งในพื้นที่ อ.สทิงพระ จ.สงขลา และ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี เป็นโครงการจัดสร้างปะการังเทียมระยะที่ 1 จำนวน 500 แท่ง ที่มีความพร้อมมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ หรือชุมชนที่ตั้ง ถือเป็นโครงการนำร่องการสร้างปะการังเทียม จำนวน 2,000 แท่ง ภายในเวลา 1 ปี ให้แก่พื้นที่ชายฝั่งทะเลอันดามัน และอ่าวไทย 4 แห่งใน 3 จังหวัด

ได้แก่ 1.ชุมชนชายฝั่งทะเลตำบลบ่อตรุ อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา 2.ชุมชนชายฝั่งทะเล ตำบลกระดังงา อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา 3.ชุมชนชายฝั่งทะเลตำบลปะนาเระ อำเภอปะนาเระ จังหวัดปัตตานี และ 4.ชุมชนชายฝั่งทะเลตำบลโคกเคียน อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส โดยปะการังเทียมที่ใช้เป็นวัสดุแท่งคอนกรีตสี่เหลี่ยมลูกบาศก์ ขนาด 1.5x1.5x1.5 เมตร

นายศุภชัย กล่าวว่า การวางปะการังเทียมครั้งนี้จะช่วยสร้างระบบนิเวศทางทะเลให้สมบูรณ์มากขึ้น โดยปะการังเทียมจะเป็นที่อยู่ ที่หลบภัย และที่เพาะพันธุ์ของสัตว์น้ำ ทำให้สัตว์น้ำมีจำนวนมากขึ้น และชาวประมงสามารถนำมาใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืนได้ ผลที่เกิดขึ้นคือ ชุมชนประมงชายฝั่งมีรายได้เพิ่มมากขึ้น ก่อเกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ ในชุมชน ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของชาวบ้าน ทำให้ชุมชนเกิดความเข้มแข็ง และยั่งยืนตามมา




กำลังโหลดความคิดเห็น