ชุมพร - นายอำเภอ ตั้งคณะกรรมการสอบสวนนายกเล็กละอุ่น แล้ว หลัง สตง.สอบพบมีความผิดใช้งบกว่า 4 ล้าน สร้างถนนคอนกรีตเกือบ 2 กม.ในป่าสงวน ทหารลงพื้นที่ตรวจสอบนายทุนเหิมย้ายแท่งแบริเออร์ออกจากจุดปิดถนน
จากกรณีที่ชุดเฉพาะกิจแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ บก.ควบคุม มทบ.44 รับผิดชอบพื้นที่ชุมพร-ระนอง ตรวจสอบเทศบาลตำบลละอุ่น ใช้งบกว่า 4 ล้านบาท สร้างถนนคอนกรีตในซอยพม่าข้าม หมู่ 3 ตำบลบางพระใต้ อ.ละอุ่น จ.ระนอง เข้าไปในเขตป่าตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 และเขตป่าสงวนป่าคลองลำเลียง-ละอุ่น รวมระยะทาง 1,866 เมตร โดยไม่ได้รับอนุญาต และเอื้อประโยชน์แก่กลุ่มนายทุนเข้าไปบุกรุกป่ายึดครองที่ดินกว่า 1,000 ไร่ พร้อมแจ้งความดำเนินคดีผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง กระทั่ง สตง. ลงมาตรวจสอบชี้มูลความผิด เสนอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง ดำเนินการสอบสวนนายกเทศมนตรีตำบลละอุ่น และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเพื่อรับผิดทางละเมิด ทางวินัย และกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด ตามที่ทีมข่าวเกาะติดมาต่อเนื่องตั้งแต่ปลายปี 2559 นั้น
ความคืบหน้ากรณีดังกล่าว วันนี้ (13 พ.ค.) พ.ท.ดุสิต เกษรแก้ว หน.ชุดเฉพาะกิจแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ บก.ควบคุม มทบ.44 เปิดเผยว่า พล.ต.ฐิติ ติตกะสิริ ผบ.มทบ.44 ในฐานะ ผอ.รมน.ภาค 4 สย.1 และ พ.อ.ทวี เกิดสมบูรณ์ รอง ผอ.รมน.ภาค 4 สย.1 มอบหมายให้ พ.อ.พรชัย อินทนู เสนาธิการ บก.ควมคุม มทบ.44 สั่งการให้ตนเข้าพื้นที่ติดตามความคืบหน้ากรณีดังกล่าว โดยเข้าพบกับ นายเฉลิมพล ครุอำโพธิ์ นายอำเภอละอุ่น เพื่อนำข้อมูลการมาขึ้นทะเบียนของผู้บุกรุกในพื้นที่ป่าสงวนดังกล่าว เพื่อตรวจสอบคัดกรองตามภูมิลำเนาที่อยู่จริงว่าบุคคลดังกล่าวเป็นผู้ยากไร้จริงตามนโยบาย คสช.หรือเป็นเพียงนอมินีรับจ้างสวมชื่อจากนายทุนมาแสดงตน ซึ่งจะต้องถูกดำเนินคดีอาญา ในส่วนการที่ผู้บริหารเทศบาลตำบลละอุ่น สร้างถนนคอนกรีตเข้าไปในป่าสงวน หลังมีการแจ้งความดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวนไปแล้ว และส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.จังหวัดระนอง สอบสวน เนื่องจากผู้กระความผิดตามข้อกล่าวหาเป็นผู้บริหารท้องถิ่นซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ตนได้เข้าพบกับเลขาธิการ ป.ป.ช.ส่วนกลางแล้ว ได้รับคำตอบว่า ทาง ป.ป.ช.จังหวัดระนอง ยังไม่ได้รายงานผลการสอบสวนให้ทราบและท่านบอกว่าจะทำหนังสือสอบถามความคืบหน้าให้ทราบต่อไป
ด้าน นายเฉลิมพล ครุอำโพธิ์ นายอำเภอละอุ่น กล่าวว่า หลังมีประกาศยึดพื้นที่ และปิดถนนคอนกรีตที่ก่อสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาตดังกล่าว ได้มีราษฎรมาขึ้นทะเบียนแจ้งสิทธิเข้าไปทำกินอยู่ในพื้นที่ป่าสงวน จำนวน 30 ราย เป็นชาวบ้านในพื้นที่ตำบลบางพระใต้ 9 ราย ตำบลละอุ่นใต้ 3 ราย ตำบลบางนอน 5 ราย ตำบลบางแก้ว 10 ราย ตำบลปากน้ำ 1 ราย ตำบลเขานิเวศน์ 1 ราย และตำบล จปร. 1 ราย ส่วนกรณีที่สำนักตรวจงานการเงินดินแผ่นดิน ได้มีหนังสือด่วนที่สุด ที่ ตผ.0055.4 รน/208 แจ้งผลการตรวจสอบการก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็กซอยพม่าข้าม ของเทศบาลตำบลละอุ่น ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง รวมระยะทาง 1,866 เมตร โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 54 และ พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 เป็นการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติข้างต้น และไม่เป็นไปตามแผนพัฒนา 3 ปี พ.ศ.2553-2559 ของเทศบาลละอุ่น ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการรวมเป็นเงิน 4,060,500 บาท และยังส่งผลให้ผู้มีอิทธิพล และประชาชนบุกรุกทำลายทรัพยากรธรรมชาติในเขตป่าดังกล่าวเพิ่มมากขึ้น โดยให้สอบสวนหาผู้รับผิดทางละเมิดต่อนายกเทศมนตรีตำบลละอุ่น และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง รวมทั้งพิจารณาดำเนินการทางวินัย และกฎหมายที่เกี่ยวข้องนั้น นายเฉลิมพล กล่าวว่า ขณะนี้ทางอำเภอละอุ่น ได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนตามที่ สตง.ชี้มูลความผิดแล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการคงจะแล้วเสร็จเร็วๆ นี้
จากนั้น พ.ท.ดุสิต พร้อมกับ นายคณนาถ คะชะนา ปลัดอำเภอละอุ่น ฝ่ายความมั่นคง น.ส.สุวรรณธนา แย้มแก้ว ผญบ.หมู่ 3 ตำบลบางพระใต้ พร้อมกำลังทหารชุด ชพส.4105 รวมกว่า 20 นาย ลงพื้นที่ตรวจสอบแท่งคอนกรีตแบริเออร์ 4 แท่น หนักแท่นละ 1 ตัน ที่ใช้ปิดกั้นถนนคอนกรีตที่ก่อสร้างในเขตป่าสงวนโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมติคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในที่ประชุมเมื่อปลายปี 2559 ได้ถูกกลุ่มนายทุนลักอบเคลื่อนย้ายออกจากแนวถนนจุดที่ปิดกั้น เพื่อป้องกันการบุกรุกป่าเพิ่มเติมจากนายทุน ได้ถูกเคลื่อนย้ายออกไปอยู่ริมทางเพื่อเปิดให้รถยนต์เข้าออกในเขตป่าสงวนได้ โดยเจ้าหน้าที่ทั้งหมดได้ช่วยกันนำกลับเข้ามาปิดกั้นไว้เหมือนเดิม และสอบสวนหาผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี ซึ่งความคืบหน้าจะนำเสนอต่อไป
