วานนี้ (30 พ.ย.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมการประชุมระดับสูงของประมุขของรัฐและหัวหน้ารัฐบาล ในระหว่างการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติ ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 21 ณ กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้กล่าวถ้อยแถลงแสดงความเสียต่อเหตุการณ์ความรุนแรงในกรุงปารีสเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา พร้อมเป็นกำลังใจให้ฝรั่งเศส รวมถึงทุกประเทศที่เผชิญเหตุรุนแรง และร่วมประณามการกระทำที่ไร้มนุษยธรรม
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การเข้าร่วมประชุมครั้งนี้เพื่อแสดงเจตนารมณ์อันแน่วแน่ของประเทศไทย ในการร่วมผลักดันให้การเจรจาความตกลงด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศฉบับใหม่บรรลุผล เน้นการพัฒนาที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง สร้างการอยู่ร่วมกันกับธรรมชาติอย่างสมดุล เพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาติ ซึ่งในส่วนของไทยจะพยายามลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกร้อยละ 20 - 25 ภายในปี 2030 ซึ่งไทยยึดหลักการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง สร้างความร่วมมือในรูปแบบประชารัฐ และในฐานะที่ไทยเป็นประธานกลุ่ม จี 77 ในปีหน้า ไทยจะมุ่งมั่นทำหน้าที่ให้เกิดการพัฒนาเพื่ออนาคต
ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อนและภัยพิบัติต่าง ๆ ประชาคมโลกจึงมีหน้าที่แก้ปัญหาร่วมกัน โดยเฉพาะการจำกัดการเพิ่มอุณหภูมิโลกไม่ให้เกิน 1.5 หรือ 2 องศาเซลเซียส
หลังเสร็จการประชุม นายกรัฐมนตรีได้เดินทางไปวางดอกไม้ที่จตุรัสแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส เพื่อแสดงความเสียใจและระลึกถึงเหตุการความรุนแรงในกรุงปารีสเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจแล้ว นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะ จะออกเดินทางจากท่าอากาศยาน ปารีส-ชาร์ลส เดอโกล สาธารณรัฐฝรั่งเศส ในเวลา 12.55 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งตรงกับเวลา 18.55 น.ตามเวลาประเทศไทย และจะเดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในวันพรุ่งนี้ (2 ธ.ค.) เวลา 06.25 น.โดยประมาณ
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การเข้าร่วมประชุมครั้งนี้เพื่อแสดงเจตนารมณ์อันแน่วแน่ของประเทศไทย ในการร่วมผลักดันให้การเจรจาความตกลงด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศฉบับใหม่บรรลุผล เน้นการพัฒนาที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง สร้างการอยู่ร่วมกันกับธรรมชาติอย่างสมดุล เพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาติ ซึ่งในส่วนของไทยจะพยายามลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกร้อยละ 20 - 25 ภายในปี 2030 ซึ่งไทยยึดหลักการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง สร้างความร่วมมือในรูปแบบประชารัฐ และในฐานะที่ไทยเป็นประธานกลุ่ม จี 77 ในปีหน้า ไทยจะมุ่งมั่นทำหน้าที่ให้เกิดการพัฒนาเพื่ออนาคต
ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อนและภัยพิบัติต่าง ๆ ประชาคมโลกจึงมีหน้าที่แก้ปัญหาร่วมกัน โดยเฉพาะการจำกัดการเพิ่มอุณหภูมิโลกไม่ให้เกิน 1.5 หรือ 2 องศาเซลเซียส
หลังเสร็จการประชุม นายกรัฐมนตรีได้เดินทางไปวางดอกไม้ที่จตุรัสแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส เพื่อแสดงความเสียใจและระลึกถึงเหตุการความรุนแรงในกรุงปารีสเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจแล้ว นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะ จะออกเดินทางจากท่าอากาศยาน ปารีส-ชาร์ลส เดอโกล สาธารณรัฐฝรั่งเศส ในเวลา 12.55 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งตรงกับเวลา 18.55 น.ตามเวลาประเทศไทย และจะเดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในวันพรุ่งนี้ (2 ธ.ค.) เวลา 06.25 น.โดยประมาณ