กลิ่นกาแฟหอมกรุ่นยามเช้า เรียกความสดชื่นให้ตื่นเต็มตา ก่อนไปทำงาน ..เพราะกาแฟกลายเป็นหนึ่งเมนูมื้อเช้าสำหรับหลายๆ คน บางคนเลือกดื่มกาแฟสด กาแฟทรีอินวันในนาทีเร่งรีบ ซึ่งกาแฟที่ปรุงแต่งน้อยที่สุด ต้องยกให้ “กาแฟโบราณ”
จังหวัดสตูล ที่อำเภอควนโดน มีการปลูกต้นกาแฟสายพันธุ์อาราบิก้า อยู่มากทีเดียวในช่วงปี 2540 ก่อนที่เกษตรกรจะเปลี่ยนมาปลูกยางพารา ปลูกลองกอง และมีทีท่าว่าจะหันมาปลูกกาแฟอีกครั้ง เมื่อราคายางพาราต่ำถึงขีดสุด จะเห็นได้ว่ามีกลุ่มผลิตกาแฟพื้นบ้านในพื้นที่อำเภอควนโดน ทำกันมานานนับ 20 ปี
“กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบ้านสะพานเคียน เกิดจากการรวมตัวกันของกลุ่มแม่บ้านในพื้นที่ ต.ควนโดน อ.ควนโดน จ.สตูล 30 คน ใช้เวลาว่างช่วยกันผลิตกาแฟโบราณ โดยทางกลุ่มจะใช้กาแฟพันธุ์อาราบิก้า ซึ่งปลูกในพื้นที่อำเภอควนโดน ในรอบ 6 เดือน อีกส่วนจะซื้อพันธุ์กาแฟจากจังหวัดชุมพร ทำให้ทางกลุ่มสามารถผลิตกาแฟได้ตลอดทั้งปี” นางฉ๊ะ แกสมาน อายุ 56 ปี ประธานกลุ่ม กล่าว
สมาชิกกลุ่มรวมตัวกันอีกครั้งในช่วงเวลาบ่าย 2 ของวันว่างในรอบสัปดาห์ ทุกคนสวมใส่ผ้ากันเปื้อนก่อนเตรียมอุปกรณ์ และส่วนผสมของกาแฟโบราณ ซึ่งประกอบด้วย เมล็ดกาแฟกะเทาะเปลือก 1 กก. น้ำตาลแดง 1 กก. และน้ำตาลทรายขาว 2 กก. เป็นสูตรในการผลิตกาแฟโบราณแต่ละครั้ง
เมื่อเตรียมส่วนผสมเรียบร้อย ก็เข้าสู่ขั้นตอนการล้างเมล็ดกาแฟที่ผ่านการตากแห้งแล้ว ก่อนจะนำไปคั่วด้วยไฟอ่อนในกระทะใบบัว ใช้เวลานาน 3 ชั่วโมง จนเมล็ดกาแฟเป็นสีดำ ส่งกลิ่นหอม ก่อนจะยกขึ้น และลงมือเคี่ยวน้ำตาลแดงกับน้ำตาลทรายแดงต่อจนเหนียวข้นเป็นยางมะตูม กระทั่งเป็นสีน้ำตาลไหม้ จากนั้นก็ใส่เมล็ดกาแฟที่คั่วแล้วลงไป เคี่ยวต่อเนื่องจนเหนียว หอม ควรระวังอย่าให้ไหม้เด็ดขาด ไม่เช่นนั้นกาแฟจะขมเสียรสชาติ ทุกขั้นตอนต้องใช้ไฟอ่อน เคี่ยวอย่างใจเย็นนานร่วม 2 ชั่วโมง
เมื่อเคี่ยวทุกอย่างเข้าด้วยกันเสร็จ ก็ยกใส่ถาดพักไว้ให้เย็นเกาะกันเป็นแผ่น ก่อนจะตำให้แหลกในครกไม้ใบใหญ่โดยสมาชิกช่วยกันตำมือ สมาชิกกลุ่มช่วยกันลงสากสลับกันไปมาตรงจังหวะขึ้นลง ก่อนจะร่อนให้ได้กาแฟที่ละเอียดที่สุด เป็นอันใช้ได้ แค่นี้ก็สามารถนำผสมกาแฟชงได้เหมือนกาแฟทั่วไป
สำหรับรสชาติของกาแฟ นางดวงตา มาลินี อายุ 59 ปี 84 หมู่ 2 ต.ควนโดน ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกกลุ่ม บอกกว่า กาแฟโบราณชงได้เหมือนกาแฟทั่วไป ปกติชาวบ้านชอบดื่มแบบชงคู่กับน้ำตาล จะให้รสชาติเข้มไม่เลี่ยน เรียกว่า โกปี้ หรือกูปี้ อีกอย่างคือ ชงคู่กับนมข้น จะให้สีหม่นๆ ไม่ดำเข้มเหมือนโกปี้ สูตรนี้เรียกกาแฟนม ความเป็นเอกลักษณ์ของกาแฟโบราณคือ จะมีกากเล็กน้อย ซึ่งบางคนก็ชอบเคี้ยว ที่สำคัญกาแฟโบราณเป็นกาแฟที่ปรุงแต่งน้อยที่สุดด้วย
กาแฟพื้นบ้าน ภาษาถิ่นเรียกว่า โกปี้ หรือกูปี้ ซึ่งเพี้ยนมาจากภาษามลายูว่า โกปิ เข้ามาแพร่หลายในอำเภอควนโดน ทางตำบลวังประจัน โดย นายมาแอ ละใบโดย ชาวรัฐเปอร์ลิส ประเทศมาเลเซีย อพยพครอบครัวมาตั้งถิ่นฐานในบ้านวังประจัน และได้นำต้นกาแฟมาปลูกแปรรูปเป็นกาแฟผงตามตำรับของมาเลเซีย ใช้บริโภคภายในหมู่บ้าน และจำหน่ายในเวลาต่อมา (คาดว่าการอพยพน่าจะเกิดขึ้นเมื่อราว 100 ปีก่อน ช่วงสมัยพระยาภูมินารถภัคดี เป็นเจ้าเมืองสตูล)
นางดวงตา มาลินี กล่าวเพิ่มเติมว่า การผลิตตามสูตรนี้จะได้กาแฟผง 3 กก. จำหน่ายในราคากิโลกรัมละ 160 บาท หาซื้อได้ที่กลุ่มกาแฟพื้นบ้าน หมู่ที่ 2 บ้านสะพานเคียน ต.ควนโดน อ.ควนโดน จ.สตูล หรือหาซื้อได้ตามจุดจำหน่ายสินค้าโอทอป มีจำหน่ายแบบขวดโหล หรือแบบถุง ขนาดครึ่งกิโลส่ง 80 บาท ปลีก 100 บาท ส่วนโหล และถุงกระดาษหิ้วส่ง 35 บาท ปลีก 40 บาท โทร.สั่งซื้อได้ที่ 08-7631-4562
น.ส.กัญญาพัชร รัตนพันธ์ ผู้ประกอบการในพื้นที่ที่สนใจนำสินค้าไปกระจายต่อ กล่าวว่า เสน่ห์ของกาแฟโบราณกลุ่มแม่บ้านนี้คือ ความหอม กลมกล่อมของกาแฟ และที่สำคัญคือ สำหรับคนที่ไม่เคยดื่มกาแฟ หากมาดื่มกาแฟนี้จะไม่ปวดหัว และสนใจจะนำไปต่อยอดให้ตรงตามความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคใหม่ที่เพิ่มความสะดวกในการดื่มด้วยการทำเป็นถุงชง กรองกากกาแฟ แต่สำหรับคนที่ชอบเคี้ยวกาแฟก็ถือว่าตรงความต้องการแล้ว