สตูล - ชาวเลเฮได้เป็นคนไทยเต็มขั้นแล้ว หลังต้องอยู่อย่างไร้สัญชาติกว่า 22 ปี ขณะที่ยังมีชาวอุรักลาโว้ย (เกาะหลีเป๊ะ) ตกสำรวจอีก 9 คน ชีวิตไร้หลักประกัน เร่งสืบค้นหาหลักฐานเพื่อช่วยเหลือ
วันนี้ (19 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ว่าการอำเภอเมืองสตูล ต.คลองขุด อ.เมือง จ.สตูล นายสุวรรณ ช่วยนุกูล นายอำเภอเมืองสตูล พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายทำบัตรประชาชน คอยอำนวยความสะดวกการออกบัตรประชาชนให้แก่ นายวีรพงษ์ เกาะสิเหร่ อายุ 22 ปี ชาวเลอุรักลาโว้ย (เกาะหลีเป๊ะ) บ้านเลขที่ 187 หมู่ที่ 7 ต.เกาะสาหร่าย อ.เมือง จ.สตูล เพื่อให้ได้รับสถานะ หรือเป็นคนไทยเต็มตัว หลังอยู่มาตลอด 22 ปี ไม่มีสัญชาติ และตัวตน กระทั่ง นางแสงโสม หาญทะเล อาจารย์สอนโรงเรียนบ้านเกาะอาดัง ที่เป็นชาวเลอุรักลาโว้ยเพียงคนเดียวที่เรียนจบสูงระดับปริญญาตรีของหมู่บ้านชาวเล เป็นหนึ่งผู้นำชาวเลอุรักลาโว้ย พร้อมทีมงานชาวเลเดินหน้าเรียกร้องสิทธิความเป็นคนไทยให้ นายวีรพงษ์ เกาะสิเหร่ ได้มีสถานะคนไทยเต็มตัว
ด้าน นายสุวรรณ ช่วยนุกูล นายอำเภอเมืองสตูล กล่าวว่า ทราบข้อมูลว่าชาวเลอุรักลาโว้ย บนเกาะหลีเป๊ะ มีทั้งหมดกว่า 120 ครัวเรือน และที่ตกหล่นไม่มีสถานะคนไทยเต็มตัว 10 คน ตอนนี้ได้สถานะพร้อมบัตรประชาชนแล้ว 1 ราย เหลืออีก 9 ราย ที่ต้องดำเนินการสืบค้น ตรวจสอบประวัติความเป็นมา ต้นตระกูลโดยให้คนในหมู่บ้าน ผู้นำชุมชนออกมารับรองสถานะ ซึ่งนโยบายนี้รัฐบาลต้องการให้คนไทยทุกคนได้ขึ้นทะเบียนเป็นคนไทยที่สมบูรณ์ และพร้อมบริการให้รับการเข้าถึงแบบวันสต็อปเซอร์วิส
ด้าน นายวีรพงษ์ ประโมงกิจ (ได้ถูกเปลี่ยนนามสกุลหลังสืบค้นต้นตระกูล) อายุ 22 ปี หรือน้องปาม ชาวเลอุรักลาโว้ย กล่าวว่า ปัจจุบันทำอาชีพเป็นแม่ครัวบนเกาะหลีเป๊ะ วันนี้ดีใจอย่างมากหลังอยู่มาถึงอายุ 22 ปี ได้มีบัตรประชาชนกับคนอื่นเขาเสียที เพราะที่ผ่านมา ตนเองได้เรียนหนังสือจริงที่โรงเรียนบ้านเกาะอาดัง หมู่ที่ 7 ต.เกาะสาหร่าย อ.เมือง จ.สตูล แต่ไม่มีเอกสารค้ำตัวตน เรียนเพื่อเอาความรู้เพื่อความอยู่รอดจนจบ ยามไม่สบายไปหาหมอก็ไม่มีสิทธิค่ารักษาพยาบาลเพราะไม่มีบัตรประชาชน และขาดสิทธิความเป็นคนไทยต่างๆ และเมื่อได้ทำบัตร และสืบค้นว่าตนเองมีนามสกุล “ประโมงกิจ” ซึ่งเป็นนามสกุลพ่อต้นตระกูล และเป็นนามสกุลพระราชทานให้ชาวเลมาอย่างยาวนาน ทำให้วันนี้ดีใจมากที่เป็นคนไทยเต็มตัวอย่างภาคภูมิใจ
