พังงา - 2 พ่อลูกนักอนุรักษ์บ้านย่าหมี อ.เกาะยาว จ.พังงา เฮลั่น เมื่อศาลฏีกายืนตามคำตัดสินศาลอุทรณ์ภาค 8 ให้ชนะคดีที่นายทุนยื่นฟ้องการออกเอกสารสิทธิที่ดินเกาะยาวใหญ่
วันนี้ (19 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ลูกหลานชาวบ้านย่าหมี ได้ช่วยกันอุ้ม นายส้าฝาด ห่วงผล อายุ 93 ปี อยู่บ้านเลขที่ 40 ม.2 ต.เกาะยาวใหญ่ อ.เกาะยาว จ.พังงา ซึ่งป่วยเป็นโรคอัมพฤกษ์ ขึ้นศาลจังหวัดพังงา เพื่อฟังคำพิพากษาศาลฎีกา ในคดีที่บริษัท นาราชา จำกัด ฟ้องดำเนินคดีต่อ นายส้าฝาด ห่วงผล และบุตรชาย นายส้อหล้า ห่วงผล ในข้อหาแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จในเอกสารราชการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐาน ซึ่งเกี่ยวกับการที่สองพ่อลูกยื่นขอออกเอกสารสิทธิที่ดินทับซ้อนกับที่ดินที่บริษัทซื้อมาจาก นายธวัช ตันติพิริยะกิจ และพวก
โดยคดีนี้ เบื้องต้น ศาลชั้นต้นได้พิพากษาเมื่อปี 2558 ให้จำเลยต้องโทษจำคุกคนละ 1 ปี และปรับคนละ 5,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษ 2 ปี ก่อนที่ศาลอุทธรณ์ภาค 8 ได้พิพากษาให้ยกฟ้อง เมื่อปี 2559 และล่าสุด ศาลจังหวัดพังงา ได้อ่านคำพิพากษาของศาลฎีกาได้พิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ภาค 8
สำหรับ นายส้าฝาด ห่วงผล และนายส้อหล้า ห่วงผล สองพ่อลูกเป็นแกนนำนักอนุรักษ์บ้านย่าหมี ต.เกาะยาวใหญ่ อ.เกาะยาว จ.พังงา ได้ถูกบริษัท นาราชา จำกัด ยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดพังงา เมื่อปี 2552 หลังจากนำใบจองที่ดิน (น.ส.2) ยื่นของรังวัดที่ดินเพื่อออกโฉนด โดยตัวแทนบริษัทได้คัดค้านการรังวัด โดยอ้างว่า พื้นที่ที่จะทำการรังวัดอยู่ใน น.ส.3 ก. ของบริษัทฯ ที่ได้ซื้อมาจากนายธวัช ตันติพิริยะกิจ เศรษฐีที่ดินชาวจังหวัดภูเก็ต ซึ่งกำลังถูกกรมสอบสวนคดีพิเศษ ดำเนินการสอบสวนในคดีเกี่ยวข้องต่อการออกเอกสารสิทธิที่ดินในพื้นที่ของรัฐอีกหลายแปลง