นราธิวาส - ตัวแทนท่าเรือข้ามโก-ลก 6 ชุมชนไทย-มาเลเซีย เดือด! หลังแม่ทัพภาค 4 สั่งปิดป้องกันภัยความมั่นคง เตรียมหาข้อสรุปจี้เปิดท่าเรือหลังถูกปิด 4 วัน กระทบชาวบ้านเดือดร้อนหนัก
วันนี้ (10 มิ.ย.) ที่ท่าเรือชมพู่ เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส นายอิสมาแอ ยูโซ๊ะ ประธานท่าข้ามสุไหงโก-ลก ได้เรียกประชุมตัวแทนท่าเรือผ่อนปรน 6 แห่ง และตัวแทนชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากกรณีถูกเจ้าหน้าที่ทหารปิดท่าเรือข้ามฟากจุดผ่อนปรนเป็นเวลา 4 วันที่ผ่านมา จากคำสั่งของ พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 เพื่อแก้ไขปัญหาความมั่นคง หลังพบเบาะแสกลุ่มผู้ไม่หวังดีจะแฝงตัวเล็ดลอดเข้ามาก่อเหตุในช่วงเดือดรอมฎอน หรือช่วงถือศีลอดของพี่น้องชาวไทยมุสลิมในพื้นที่อำเภอต่างๆ ของ จ.นราธิวาส แต่ยอมผ่อนปรนให้มีการเปิดท่าเรือข้ามฟาก 2 แห่ง คือ ท่าประปา และท่ามูโน๊ะ ส่งผลทำให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใน 6 ชุมชนคือ ชุมชนท่าโรงเลื่อย ชุมชนท่าชมพู่ ชุมชนท่าบือเร็ง ชุมชนท่ากอไผ่ ชุมชนท่าเจ๊ะกาเซ็ง และชุมชนหัวสะพาน ได้รับความเดือดร้อนจากวิถีชีวิตที่ต้องเปลี่ยนไป บางกลุ่มสาขาอาชีพ เช่น ขับเรือข้ามฟาก ขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง แรงงานแบกหาม ก็ต้องเลิกอาชีพตกงานไปโดยปริยาย
ซึ่งการประชุมเพื่อหาข้อสรุปของชาวบ้านในครั้งนี้ มี ร.อ.นครินทร์ แย้มสิน ผบ.ร้อยชุดป้องกันชายแดนที่ 3 และ ร.อ.ทะวรรตสินธ์ พจนา นายทหารฝ่ายยุทธการ ฉก.นราธิวาส 30 ได้เข้าร่วมสังเกตการณ์การประชุมของตัวแทนชาวบ้าน จำนวน 20 คน โดยได้ข้อสรุปเพื่อยื่นต่อ นายสิทธิชัย ศักดา ผู้ว่าฯ จ.นราธิวาส และตัวแทนเจ้าหน้าที่ทหารชุดเฉพาะกิจนราธิวาส ในวันพรุ่งนี้ เวลา 10.00 น. ณ ที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก โดยข้อสรุปคือ ทางตัวแทนชาวบ้านจะยื่นเสนอให้ทางการเปิดท่าเรือข้ามฟากผ่อนปรนทั้ง 6 แห่ง โดยทางตัวแทนชาวบ้านแต่ละท่าจะร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารในการตราตรวจประชาชนทั้ง 2 ฟากฝั่งที่ใช้บริการท่าเรือ และจะมีการตรวจสอบบัตรประชาชนพร้อมบันทึกในสมุดเก็บไว้ หากประชาชนมีความประสงค์จะเดินทางกลับก็ให้แสดงบัตรประชาชน เพื่อยืนยันต่อเจ้าหน้าที่ทหาร และชาวบ้าน รวมทั้งมีการตรวจสอบสัมภาระทุกชนิด ซึ่งเชื่อว่าสามารถที่จะป้องกัน และป้องปราบเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นได้
ด้าน นางสงกรานต์ เดชหามาตย์ หรือป้าแดง อายุ 66 ปี เจ้าของท่าเรือเจ๊ะกาเซ็ง เปิดเผยว่า การปิดท่าเรือทำให้ทุกคนลำบาก ทั้งที่ริมคลอง และตลาด วินมอเตอร์ไซค์ก็เป็นพันทั้งตลาด โรงแรม พ่อค้า และห้องอาหาร ก็ขอให้เปิดเถอะอยู่เหมือนเดิม ทางโน้นลูกหลานของเขา และลูกหลานของเราก็แต่งงานกัน ป้าแดงอยู่ที่นี่มา 50 ปี แล้วไม่เคยเกิดเรื่องแบบนี้ จึงขอเถอะเพื่อส่วนรวมตรงนี้ เมื่อมีคนผ่านไปมาเราก็ดูแลว่าเคยผ่านไปมาหรือไม่ ถ้าคนแปลกหน้าเราก็จะตรวจ โดยเฉพาะมอเตอร์ไซค์ ถ้าแปลกหน้าเราจะไม่ให้จอด เราจะห้ามกันตลอดเพื่อส่วนรวมนะ นี่คือหม้อข้าวของเรานะ ที่นี่เรียบร้อยไม่เคยมีอะไรเลยอยู่สุขสบายมาก แต่เดี๋ยวนี้เดือดร้อนหมดทำอะไรไม่ได้ เงียบไปหมด ปกติแม่ค้าจะข้ามเรือมาซื้อกับข้าว ปิดแค่วัน 2 วันก็ลำบากแล้ว แต่นี่ 4-5 วันแล้ว จึงทำให้กระทบไปหมด
