นราธิวาส - ผบ.ทบ.ลงพื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย จ.นราธิวาส กำชับหน่วยงานในพื้นที่เป็นพิเศษ ในการป้องกันภัยความมั่นคง และภัยแทรกซ้อน กำจัดเสรีของโจรใต้
วันนี้ (4 มิ.ย.) พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสารท ผบ.ทบ.พร้อมคณะ เดินทางไปยังกองร้อยที่ 2 ป้องกันชายแดน บ้านศรีพงัน ต.เกาะสะท้อน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส โดยมี พล.ท.ปิยะวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 นายสิทธิชัย ศักดา ผู้ว่าราชการ จ.นราธิวาส พล.ต.วิชาญ สุขสม ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส ให้การต้อนรับ ทั้งนี้ ผู้บัญชาการบกได้ฟังบรรยายสรุปการปฏิบัติงานป้องกันชายแดนไทย-มาเลเซีย เพื่อความมั่นคงจาก พ.อ.สุรเดช สุกนุ้ย หัวหน้าฝ่ายยุทธการ หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส
โดยแนวชายแดนไทย-มาเลเซียด้านพื้นที่ จ.นราธิวาส มีพื้นที่ครอบคลุม 5 อำเภอ ประกอบด้วย อ.จะแนะ สุคริน แว้ง ตากใบ และ อ.สุไหงโก-ลก มีระยะทาง 151 กิโลเมตร แบ่งพื้นที่ทางบกและป่าเขา พื้นที่ อ.จะแนะ อ.สุคริน 56 กิโลเมตร และพื้นที่ตามแนวลำน้ำ คือ อ.แว้ง ตากใบ สุไหงโก-ลก 95 กิโลเมตร ซึ่งมีช่องทางตามแนวชายแดนถูกต้องตามกฎหมายเพียง 3 ช่องทาง เท่านั้น คือ ช่องทางด่านศุลกากรบูเก๊ะตา อ.แว้ง ด่านศุลกากรสุไหงโกลก และด่านตรวจคนเข้าเมือง อ.ตากใบ นอกนั้นเป็นช่องทางผ่อนปรน และช่องทางเถื่อนเดินทางเข้าออกระหว่างชายแดนไทย-มาเลเซีย ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวพบปัญหาการลักลอบข้ามแดน การเคลื่อนไหวกลุ่มผู้ก่อการร้าย หรือกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ปัญหาบุคคล 2 สัญชาติ ยาเสพติด ของหนีภาษี และการขนย้ายวัตถุระเบิดเข้ามาก่อเหตุในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
จากนั้น ผู้บัญชาการทหารบก ได้พบปะกำลังพล ซึ่งเป็นชุดปฏิบัติการหน่วยทรหด จากกองร้อยฝึกรบพิเศษ หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส จำนวน 18 ชุดปฏิบัติการป้องกันชายแดนไทย-มาเลเซีย เพื่อมอบเครื่องอุปโภคบริโภค และมอบเงินบำรุงขวัญกำลังพล พร้อมให้โอวาท กำชับเจ้าหน้าที่ทหารในพื้นที่ทำงานอย่างเข้มแข็ง โดยเฉพาะพื้นที่ชายแดน มีความสำคัญมาก ซึ่งมีภัยแทรกซ้อน และภัยต่อความมั่นคง ที่ผ่านมา พบการเคลื่อนไหวของคนร้ายหลายครั้งในพื้นที่ชายแดนในการเคลื่อนไหวก่อเหตุวางระเบิดในพื้นที 3 จังหวัดชายแดภาคใต้ โดยเฉพาะพื้นที่ จ.นราธิวาส มีบุคคลในพื้นที่บางกลุ่มให้การช่วยเหลือกลุ่มผู้ก่อเหตุความรุนแรง และอำนวยการเส้นทางชายแดนหลบหนีไปยังประเทศเพื่อนบ้าน
“ซึ่งได้กำชับไปยังแม่ทัพภาคที่ 4 และผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส ให้มีความเข้มข้นจัดหน่วยหาข่าวการเคลื่อนไหวฝ่ายตรงข้าม และต้องปฏิบัติกำจัดเสรี และลดศักยภาพกลุ่มก่อความไม่สงบ ไม่ให้ก่อเหตุความรุนแรงในพื้นที่ได้ ในส่วนผู้ให้การสนับสนุนผู้ก่อเหตุ หรือภัยแทรกซ้อนให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบบุคลคลที่เกี่ยวข้อง หากพบมีหลักฐานส่วนเกี่ยวข้อง ให้ดำเนินตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด คนเหล่านี้เป็นภัยต่อความมั่นคง” ผบ.ทบ.กล่าว
